top of page

>>> ถ้าเคยอ่าน The Base Garden Rama 9 แล้ว ข้ามส่วนของ BIAS กับ BRAND ได้เลยจ้า <<<

BIAS

เนื่องจากบทความนี้เป็นบทความแรกๆนะเจ้าคะ ฉะนั้นอิฉันจึงอยากจะขอชี้แจงให้ฟังก่อนว่า ในทุกๆบทความนั้นอิฉันจะมีการให้คะแนนความลำเอียงของตัวเองอยู่ เพราะบอกเลยว่าไม่มีทางหรอกคะที่เราจะเป็นกลาง 100% มันก็ต้องมีแอบเข้าข้าง แอบให้คะแนส่วนตัว แอบเกลียด แอบหมั่นไส้ แอบรู้เบื้องลึก เบื้องหลังมา ฉะนั้นผู้อ่านเองจะได้เข้าใจมุมมองของผู้เขียนด้วยนะคะ :)

สำหรับแสนสิรินั้น อิฉันค่อนข้างจะ love love brand นี้มากเป็นพิเศษคะ เพราะน่าจะเป็นเรื่องของการทำ brand positioning ที่ตรงใจกะเทย wanna be hiso แต่ in come แสนจะ low ติดดินแบบอิฉัน รวมถึงความเก่งกาจของนักการตลาดอสังหาฯของพี่แสนเนี้ย อิฉันขอกราบคารวะเลยคะ พวกนางเป็นเบอร์ 1 ของเมืองไทยจริงๆ รวมการออกแบบที่ปราณีต ของบางอย่างไม่ได้ใช้ของแพงแต่ใช้สมองในการเพิ่มมูลค่าให้มันดูสวย ดูดี อันนี้นับถือนางจริงๆคะ 

BRAND

ต้องขอบอกเลยว่าสำหรับกะเทยนั้น สิ่งที่ให้ความสำคัญอันดับ 1 ในการเลือกซื้ออสังหาคือ brand คะ เพราะเห็นมาหลายคนละ บอกว่าซื้ออันนี้แหละ ใกล้ทีทำงาน ใกล้นั้น ใกล้นี้ อารมณ์แบบว่าชีวิตนี้เธอไม่คิดจะเปลี่ยนงานหรือมีเหตุฉุกเฉินอะไรกันเลยรึ กะเทยเองก็มีเพื่อนคนนึง ทำงานบริษัทใหญ่มากๆในไทย งานการมั่นคง อีเพื่อนก็ไม่ได้คิดจะย้ายงานไปที่ไหน คอนโดก็ใกล้รถไฟฟ้าสายสีจะนั่งไปทำงานได้สะดวก ชีิวิตดี มีความสุข แต่แล้ววันนึงสวรรค์ก็กลั่นแกล้งนาง เพราะด้วยความที่บริษัทมันหย่ายยยยมากกกก เลยต้องขยายไปสร้างออฟฟิตที่ทำเลอื่นที่แสนจะไกลจากที่เก่า แถมรถไฟฟ้าสายสีเดิมก็ไม่ได้ผ่านแล้ว ต้องนั่งไฟฟ้า 2 ต่อแถมเจอค่าส่วนต่อขยายอีก โชคดีว่านางซื้อคอนโด brand ดี ทำให้จะขายต่อปล่อยเช่าก็ไม่ใช่เรื่องยาก 

ในขณะเดียวกัน ก็มีอีเจ้คนนึง นางมีคอนโดทองหล่อ brand no name ไว้ปล่อยเช่า โชคดีว่าแต่ก่อนคอนโดย่านนั้นไม่ได้บูมกันแบบทุกวันนี้ ทำให้นางมีคนเช่ามาเรื่อยๆ จนล่าสุดคอนโดใหม่ๆไปลงทองหล่อมากมาย นางบ่นรัวๆว่าห้องนางปล่อยเช่าไม่ออกมานานมากแล้ว ลดราคาแล้วก็ยังไม่ออก กะเทยก็ด้วยความเผือกคะ เลยไปแอบถามเพื่อนที่มีคอนโดปล่อยเช่าเยอะๆ นางบอกว่าโอ้ย คอนโด brand ดังตัวใหม่ตรงทองหล่อปล่อยเช่าดีจะตาย ราคาก็ดี ปล่อยหมดๆ 

อย่างที่เราๆท่านๆก็รู้กันอยู่แก่ใจ ว่าคนไทยนี้ ติด brand กันขนาดไหน เหมือนเวลาจะซื้อรถยนตร์ก็ต้อง brand T brand H ถ้าเอาหรูๆก็ต้อง Be กะ Bm กระเป๋าก็ต้อง Brand L กะ Brand G อยากจะ turn pro เป็นตัวแม่ก็ต้อง Brand H Brand C (ถ้าผู้ชายมาอ่านแล้ว งง ลองถามชนีดูนะจ๊ะ)

 

คอนโดก็เหมือนกันจ้า คอนโดที่ brand ดีๆ น่าเชื่อถือในไทยมีไม่กี่ brand หรอกค่ะ แต่ละ brand ก็จะเป็นตัวแทนของนิยามที่แตกต่างกันไป เช่น

brand L ขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพ (ตามราคา) และนิติอันทรงพลัง ปล่อยเช่าง่ายเวอร์ถ้าทำเลไม่ขี้เหล่

brand S ขึ้นชื่อเรื่องความหรูหรา design เริศอลังการ อยุ่แล้วภาคภูมิใจ แถมกำไรก็งาม (ไม่ได้ทุกตัวแต่ก็หลายตัวมาก)

brand N (อันที่ดังน้อยกว่า) อันนี้แต่ก่อน design ไม่สวยแต่คุณภาพเทพ เดี๋ยวนี้ design ดีขึ้นมาก แต่คุณภาพยังคงความเทพเหมือนเดิม แต่ก็ยังไม่ติดตลาด

ที่กล่าวมานี้เป็นแค่ตัวอย่างนะจ๊ะ

ฉะนั้นการซื้อคอนโด brand ดีๆนั้น วันนึงถ้าเรามีเหตุจะไม่อยู่แล้ว เราก็ขายต่อปล่อยเช่าง่าย หรือจะถือลงทุนก็ได้ผลตอบแทนค่อนข้างดี (เทียบใน location เดียวกันนะยะ)

สำหรับพี่แสน ก็คือ Brand S ที่กล่าวไว้ข้างบนนั้นแหละคะ ตัวแม่แห่ง Design ความหรูหรา การลงทุน และความภาคภูมิใจของผู้อยู่อาศัย ด้วยการถล่มภูเขาหินอ่อนจากอิตาลี่มาโป๊ะ lobby และ ส่วนกลางสุดอลัง จนเป็น signature ของนางไปแล้ว สำหรับอิฉัน แสนไม่ใช่ brand ที่สักแต่ว่าประโคมมั่วซั่วจนดูเสร่อ แต่นางมีรสนิยมมากในการออกแบบและเลือกใช้อย่างพอดี พอเหมาะ อีกทั้งคอนโดของนางแต่ละตัว ก็ไม่ได้มาแนว copy paste จนดูซ้ำๆเหมือนกันไปหมด (เฉพาะแนวสูงนะ) นางต้องทำการวิเคราะห์กลุ่มลูกค้าเป้าหมายในแต่ละพื้นที่ ว่าลักษณะการใช้ชีวิต (life style) อย่างไร คนประเภทนี้จะชอบอะไรบ้าง น่าจะมีวิถีชีวิตในฝันแบบไหน แล้วนางจะเอาสะท้อนออกมาเป็นรูปแบบของ sales gallery ห้องตัวอย่าง สื่อต่างๆ design ของตึกและส่วนกลาง และอื่นๆอีกมากมาย จะเห็นได้ว่านางพิถีพิถันมากนะจ๊ะ กว่าจะออกมาเป็นคอนโดสักที่

LOCATION

ก่อนจะบรรละยายเรื่อง Location อิฉันอยากขอสาธยายความหมายของคำว่า "บ้าน" กันก่อนค่ะ

คำวาม"บ้าน"ของแต่ละคนนั้นมีความหมายไม่เหมือนกันหรอกค่ะ มันขึ้นอยู่กับว่าเราเติบโตมาอย่างไร อะไรคือเป้าหมายในชีวิต อะไรคือสิ่งที่ทำให้เรามีความสุข 

 

บางคนอาจมีเป้าหมายที่จะประสบความสำเร็จ ยืนอยู่ในจุดที่สูงกว่าคนอื่นๆ มีคนนับหน้าถือตา บ้านสุดหรูหรากลางใจเมือง ราคาแพงจนใครๆต้องอ้าปากค้าง วิวกรุงเทพมหานครชั้นในใจกางเมือง ที่มีตึกสูงชันรายล้อม ส่องแสงเปล่งประกายวิววับยามราตรี อาจเป็นบ้านที่ทำให้เค้ามีความสุขมากที่สุด 

แต่บางคนอาจจะอยากตื่นมาพร้อมกับความเงียบสงบ แสงแดดอ่อนๆที่ลอดทะลุผ้าม่านเบาๆที่พริ้วไหวอยู่มริมหน้าต่าง เงาของใบไม้ที่ต้องลมจนส่ายเอนไป-มาอยู่หลังผ้าม่าน มีพื้นที่ที่เรียบง่ายแต่อบอุ่นและอบอวลไปด้วยชีวิตชีวา เดินผ่านร่มไม้ยามเช้าที่ร่มรื่นพร้อมเสียงนกร้องยามเช้าและรอยยิ้มจากเพื่อนบ้าน พื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ให้คุณได้ฟังเสียงหัวใจของตัวเองเต้นเร็วและแรงขณะกำลังวิ่งขึ้นสะพานที่มีประกายแสงสีทองระยิบระยับจาดแสงแดดที่กระทบพื้นน้ำในยามเช้าเป็นฉากหลัง ยิ้มรับเพื่อนบ้านที่โบกมือทักทายขณะที่วิ่งสวนกัน นั่งมองวิถีชีวิตของคนพื้นถิ่นที่ร่องเรือออกตามลำน้ำจากขอบสะพาน จิบกาแฟยามเช้าพร้อมฟังเสียงหัวเราะของเด็กๆที่วิ่งเล่นไปมาอย่างสนุกสนาน ครอบครัวที่อบอุ่น ที่พ่อแม่พาลูกตัวน้อยออกมาเดินเล่น สัมผัสกับต้นไม้ใบหญ้า หนุ่มสาวที่ขี่จักรยานหยอกล้อ แกงค์เพื่อนสาวที่นั่งทานข้าวเมาส์มอยอย่างสนุกสนานราวกับว่าความสุขแห่งวัยเยาว์นั้นไม่มีวันสิ้นสุด และรู้สึกอิ่มเอมใจจากการชีวิตเรียบง่าย อย่างมีความสุขก่อนจะหลับตาและรอพบวันใหม่ที่สดใสอีกครั้ง

แล้วก็ตื่นตอนตี 2 ออกมาต้มมาม่าและอ้วนอืดอย่างต่่อเนื่อง เอ้ย! ไม่ใช่ แหมมมม เอาความจริงมาพูด 555

้เดียวจะไม่เห็นภาพ ผมขอนำรูปบางส่วนจากชมรมถ่ายภาพ The Base Park West ที่เก็บบรรยากาศใน T77 มาให้ชมดีกว่า

รูปโดยคุณ  Parkpoom

รูปโดยคุณ Karat Kittikhote

PRODUCT

กะเทยอยากจะบอกว่า ความรู้สึกทั้งหมดที่พรรณาโวหารไปนั้น อาจจะฟังดูตอแหลมาก ถึงมากที่สุด!

แต่บอกเลยว่าไม่มีอะไรเกินจริงสักอย่างเดียว มันคือคุณภาพชีวิตดีๆที่ยังเปิดรับเพื่อนบ้านอีกแค่ไม่กี่ครอบครัวเท่านั้น

เพราะ Mori Haus น่าจะเป็นโครงการสุดท้ายของพี่แสนใน T77 นี้ (เดานะ) เพราะเหมือนว่าที่ดินที่เหลือจะโดนมั่นคงเหมาไปทำ service apartment หมดแว้ววว (ซึ่งตอนแรกก็งงนะว่าแบบ ถ้าเป็น service apartment แล้วจะสร้าง sales gallery ทำไม จนวันก่อนมี dev เจ้านึงตรงสุขุมวิท 24 โทรมา บอกว่าจะเปิดตึกใหม่ เป็น service apartment แต่ขายนะ ละบังคับทำสัญญา 10 ปี ให้เค้าเอาไปบริหารให้ โดยเค้าการันตีผลตอบแทนกี่%ไม่รู้ ลืมละ เป็นเวลา 2 ปี) เลยแบบ อ้ออออ หรือจะเป็นแบบนี้ แต่! ทั้งหมดที่ว่ามาเนี้ย เดาล้วนๆค้าาา 555 

แต่กว่าจะมาเป็น T77 ที่ชีวิตดีแบบทุกวันนี้ได้ก็ต้องใช้เวลาและความอดทนมาก ปีแรกที่มาอยูขอใช้คำว่าลำบากเลยละ เพราะหลายอย่างยังไม่ราบรื่นเลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของกิน การเดินทาง

แล้วสวรรค์ก็เมตตากะเทยแหละเหล่าเพื่อนสาว ในวันที่ HABITO พระเอกของย่านนี้เปิดตัว กะเทยทุกนางต่างร้องเป็นเสียงเดียวกัน "กูรอดแล้วววววววววว" เพราะพี่แกไม่ได้มาตัวเปล่า แกพกรถตู้มาด้วย 3 คัน รถตู้ของ HABITO ให้บริการจาก HABITO ออกไปถึง BTS อ่อนนุช ทุกๆ 20 นาที (ถือว่าเป็นเวลาที่ดีมากๆ รอไม่นานเลย) ล่าสุดเห็นเค้าว่าจะเปลี่ยนเป็นรถ mini bus เพื่อให้เพียงพอต่อปริมาณประชาชีที่เพิ่มมากขึ้น (สงสัยคงได้ feel เหมือนแบบนั่งไปโรงเรียน 555) โดยให้บริการตั้งแต่ 6.30 - 22.00 น. รวมถึงร้านอาหารใน HABITO แม้ว่าจะเปิดแค่ไม่กี่ร้าน แต่ต้องขอชมทีมการตลาดของพี่แสน ว่าสามารถโปรโมตจนคนแห่มากันจนที่จอดไม่พอกันเลยทีเดียว ซึ่งร้านหลักๆที่ดึงคนมาได้มหาศาลก็คือ papa shabu farm เพราะอร่อยแถมราคาถูกม้ากกกก ก็คิดดูว่าอิฉันเป็นกะเทยควายร่างใหญ่ขนาดนี้ยังหมดไปแค่คนละ 2xx เองอะ ตอนนี้พอคนเริ่มเยอะ ร้านอาหารตามสั่งเจ้าถิ่นที่อยู่หลัง HABITO จากที่เคยปิดวันอาทิตย์ ก็เปลี่ยนใจมาเปิดทุกวัน แถมยังมีร้านใหม่มาเสริมอีก ทำให้หมู่เฮาก็มีชีวิตรอดได้ยันสิ้นเดือนแล้วจ้าาา เย้! 555

ข้อดีของ T77 ที่ไม่เหมือนที่อื่นอีกอย่างก็คือ มันได้อารมณ์เหมือนอยู่หมู่บ้านมากกว่าอยู่คอนโด เพราะส่วนกลางที่คุณจะได้นั้น ไม่ใช่แค่ สระ ฟิตเนส สวน ทั่วไปที่ให้มากับคอนโด แต่คุณได้พื้นที่ทั้ง T77 เป็นของคุณ ที่ขอบอกเลยว่าตั้งแต่ตรวจคอนโดมา 3-4 ปีก็เพิ่งเคยเจอที่นี้แหละที่แรก โม้เยอะละ ไปดูรูปดีกว่า เดี๋ยวจะหาว่ากะเทยขี้โม้ อิอิ

ร้านครัวบ้านสวน ขวัญใจอิฉันตั้งแต่กลางเดือน-สิ้นเดือน 555

กลับมาที่ HABITO

ต้นเดือนกิน Tom n Tom ปลายเดือนกินกาแฟ All Cafe 7-11 จ้าาา

มุมโปรดของอิฉันยามสิ้นเดือน (เหมือนสิ้นใจ T-T)

ร้านนี้พิซซ่าอร่อยม๊ากกก

ร้านนี้อาหารเวียดนามอร่อย

ห้องน้ำหรูม๊ากกก

มีห้องให้นมลูกด้วย ดีงาม

ไว้จะแอบแต่งหญิงมานั่งงีบตากแอร์ คิคิคิ

นอกจาก HABITO แล้วทำเลอ่อนนุช ยังมีอย่างอื่นที่น่าสนใจอีก ไม่ว่าจะเป็นตลาดอ่อนนุช / BIG C / TESCO LOTUS ที่สามารถนั่งรถกอลฟ์หรือรถตู้ไปได้ ฟรี!

อีกทั้ง T77 ยังตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างอ่อนนุชและพระโขนง ซึ่งก็ถือว่าเป็นท้ายซอยปรีดีย์ 2 ได้เช่นกัน ซึ่งเป็นซอยที่ของกินเยอะมากกก และมีน้ำเต้าหู้นมสดที่อร่อยม๊ากกก หรือจะนั่งวินไป W distrist ที่มีลานเบียร์ด้านหลังหรือไป BTS พระโขนงก็ได้ (1.2 km จาก T77) ซึ่ง BTS พระโขนงนี้คือ interchange station ในอนาคตระหว่างสายสีเขียวกับสายสีเทา ซึ่งเป็นสายที่น่าสนใจอยู่ เพราะจวิ่งเข้าพระราม 4 ไปโผล่สาทร แล้วเลี้ยวเข้านาราธิวาส เลี้ยวขวาพระราม 3 ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา แล้วไปสุดที่ BTS ตลาดพลู ซึ่งผ่านจุดที่น่าสนใจเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็น K village / ม.กรุงเทพ / ตึกช่อง 3 / ศูนย์สิริกิติ์ / ย่าน office อย่างสาทร-ช่องนนทรี / ซื้อของถูกที่ makro นาราธิวาส / กินข้าวริมน้ำที่พระราม 3 ไป เป็นต้น การเดินทางออกไป BTS พระโขนงก็ไม่ได้ลำบากเลยค่ะ เพราะมีพี่วินมาดักรอ ตรงปากทางออกฝั่งปรีดีย์เลย 20 บาทถึง BTS พระโขนงจ้าาา รวมถึงยังใกล้ทางด่วนอีกด้วย

มีรถกอล์ฟโครงการ The Base Park West / Park East และรถสามล้อของ HASU ให้บริเวอยู่ตอนนี้

ร่ายรำ ระบำ ฟ้อนเล็บมาสะยาว (แหม ก็ทำเลเค้ามีความพิเศษจริงๆ นิน่า) มาเข้าเรื่องตัวคอนโดกันบ้างดีกว่า

ตัว Mori Haus นี้จะอยู่ติดกับโรงแรมนานาชาติสุด hiso อย่าง Bangkok Prep (เหมาะนั่งส่องเด็กๆจากระเบียง ว้าย เดี๋ยวโดนพรากผู้เยาว์นะคะ) โดยที่ตัวตึกของ Bangkok Prop จะอยู่ชิดทางด่วน และมีสนามฟุตบอลขนาดใหญ่คั่นกลาง (นั้นไง น่าส่องจริงๆด้วย เด็กๆเตะบอล กรี๊ดดดดดด) ซึ่งข้อดีก็คือ ตัวโรงเรียนจะบังทางด่วนที่ไม่น่าพิศสมัย และน่าจะช่วยลดเสียงได้มาก และได้วิวสนามฟุตบอล ทำให้ไม่บังวิวกัน เพื่อให้เห็นภาพ ไปดูรูปดีกว่า

ตึกสีขาวคือ Mori Haus ส่วนตึกด้านหลังนั้นคือ Bangkok Prep ที่ช่วยบังทางด่วนจ้าาา

และเพื่อให้เห็นภาพมากขึ้น อิฉันจะขอเรียนเชิญท่านไปชมวีดีทัศน์(ภาษาคุณป้ามาก) 3 ตัวนนี้ก่อนนะเจ้าค่ะ

สำหรับตัวแรกคือ Bangkok Prep ค่ะ

ตัวที่สองคือ Mori Haus

เผื่อว่าดูแล้วยังไม่เห็นภาพ ต้องดูตัวนี้กับ Virual reallity กับส่วนกลางของ Mori Haus

เราไปดู Model โครงการกันต่อค่ะ จะได้เห็นภาพมากขึ้น

ทางเข้าจะอยู่ฝั่ง Bangkok Prep นะจ๊ะ

ฝั่งนี้ก็เหมือนจะมีอีกประตู

โถงทางเดินทางฝั่งนี้ไม่มีห้อง เกิดเป็นมุมเปิด ชมวิวสวนส่วนกลาง

สำหรับตัว sales gallery เอง ก็มีการออกแบบให้คล้ายกับส่วน Lobby จริงค่ะ

ไปดูห้องตัวอย่างกันบ้าง ที่นี้จะมีแค่แบบเดียวให้เราดูค่ะ คือแบบ 2 ห้องนอน ประตูหน้าห้อง Digital Door Lock จาก Samsung รุ่นนี้ใช้บัตรหรือกดรหัสจ๊ะ

ห้อง 2 นอนนี้ให้หน้าต่างห้องนั่งเล่นจัดเต็มเวอร์มากอะ

ห้องตัวอย่างสไตล์แสน ต้องรกแต่ โค_รสวย ดูดีมีชีวิต

กระถางพร้อมต้นไม้แบบนี้ มีให้บางห้องนะคะ ซื้อเค้าจะมีระบบรดน้ำไว้ให้ แต่เค้าจะรับประกันแค่กี่ปีไม่รู้ ลืมละ อิอิ จากนั้นก็ห้องใครห้องมันจ๊ะ

โต๊ะกินข้าวตามสไตล์ จริตแสนสิริ (มีความเยอะ มีความเวอร์วัง มีความผู้ดี) ตุ๊ดชอบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ

บ้านนี้มีลูกชายจ๊ะ ฉันว่าวัยประมาณ ม.ต้น และแน่นอน ต้องเรียนที่ Bangkok Prep 

ไปแอบค้นห้องนางกันดีกว่า เผื่อจะแอบมีคฑาเซเลอร์มูน อิอิอิ

นี้ไง ฉันเจอแล้ว! พอตกดึก หล่อนต้องแอบเอาดาวแฉกๆนี้มาเป็นคฑา แปรงร่างเป็นเซเลอร์มูนแน่ๆ ฉันรู้ทันหรอกนะ

ทำเป็นวางหนังสือแมนๆ คิดจะแอ๊บหลอกฉันละสิ

ต้องหาหลักฐานเพิ่ม ฉันว่าเธอต้องซ่อนตลับแป้งชาแนลไว้ในห้องน้ำแน่ๆ

(ตู้เก็บของหน้าบานกระจกตัวนี้ ตัวเดียวกับที่ THE XXXIX นะจ๊ะ อยากได้ๆๆๆ)

ไปฟ้องแม่ชีดีกว่า ยินดีด้วยค่ะ คุณได้ลูกสาว!

ทุกห้องจะได้ตู้เสื้อผ้าแถมให้ 1 ตู้นะจ๊ะ คือ 1 ห้องนอนก็ได้ 1 ตู้ ส่วน 2 ห้องนอนก็ได้ 1 ตู้ในห้อง master bedroom

ตู้เสื้อผ้ากับชุดครัวของที่นี้เค้าจะออกแบบเข้าชุดกันนะคะ โดยที่ตอนนี้เทรนสี Copper กำลังมาค่ะ เค้าบอกว่า Copper is new luxury จัดไป!

คุณแม่ไม่อยู่ห้องแหะ หรือจะออกไปทำกับข้าว ไปดูที่ครัวดีกว่า

ความเกร๋ของที่ mori คือ สำหรับห้องที่มีครัวปิดตามแบบในรูปนี้ ทางพี่แสนเค้าคิดระบบระบายอากาศมาให้แล้วจ้า โดยการดูดลมจากห้องนั่งเล่นเข้ามาที่ห้องครัว แล้วดูดจากห้องครัวไปออกระเบียง ทำให้กลิ่นไม่เข้าห้องนั่งเล่น และคนในห้องครัวก็ไม่ขาดอากาศหายใจตายไปก่อน 555

ดิฉันว่าครัวที่นี้ ก็ให้ของดีใช้ได้เลยนะคะ โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับห้องที่ราคาถูกที่สุดของตึกคือประมาณ 3.7 ล้านบาท ถือว่าใหเ้ของดีมากทีเดียว

มีการจำลองการเก็บทรัพย์สมบัติ ตุนสะเบียงอาหารจริงของเหล่าคุณแม่ๆทั้งหลายมาให้ดูกันด้วยค่ะ

ใต้อ่างล้างจาน จะมีช่อง service ของเครื่องซักผ้าด้วยค่ะ ส่วนเครื่องซักผ้าอยู่ตรงไหน เดียวอิฉันจะพาไปชม

สำหรับห้องที่มี plan ครัวปิดแบบนี้ เค้าจะทำตู้รองเท้าและตู้ใส่เครื่องซักผ้าแบบนี้มาให้เลยค่ะ ซึ่งสวยงามและไม่เกะกะดีมากๆ

ก่อนจะตัดบท จบการรีวิวไปต้มมาม่ากินในวันนี้ ก็อยากจะบอกข้อมูลเพิ่มเติมนิดหน่อย คือวันที่กะเทยเข้าไปดูเนี้ย มันเหลือแค่ 44 ห้องจาก 262 ห้องแล้วนะจ๊ะ (คิดเป็น 16.8% เท่านั้น) โดยเหลือเป็น 1 ห้องนอนฝั่งโรงเรียนแค่ไม่กี่ห้อง โดยชั้นสองจะอยู่ที่ราคา 4.5 ล้านบาท แถม voucher habitat ให้ 150,000 บาท ซึ่งสามารถเปลี่ยนเป็นส่วนลดได้ ก็เหลือ 4.35 (ซื้อเฟอร์เองเถอะ Habitat นี้ 150,000 อาจจะได้แค่เตียงอะ ของแพงม้ากกกก) นอกนั้นจะเหลือเป็น 2 ห้องนอน ไม่ก็วิวสวนด้านในที่ราคาแอบแรง

สำหรับ 2 ห้องนอนคนก็จะถามต่อว่า ซื้อ Garden Sqaure ไม่ดีกว่าหรอ (เหมือนว่าตอนนี้ราคาจะอยู่ที่ 15 ล้านมั้ง) ได้บ้านเลยนะ คำตอบคือ มีดี มีเสีย ต่างกันนะ Garden Sqare ได้ที่จอดรถ แต่ไม่ได้สระ ฟิตเนส (สวนมาใช้หน้า Mori ได้) แล้วบ้านที่เหลือๆ ก็อาจจะเป็นฝั่งติดทางด่วนนะ อันนี้ไม่แน่ใจ แล้ว Garden Sqaure เค้าให้แต่บ้านจริงๆนะ ไปปูพื้น ปูกระเบื้อง ติดฝ้าอะไรเอาเอง (เคยได้ยินมาว่าอย่างนั้นนะ) ส่วน Mori นี้มีส่วนกลาง สวยด้วย มีสระ มีฟิตเนส มีลอบบี้ ในห้องก็ซื้อแค่ เตียง โซฟา โต๊ะกินข้าว เก้าอี้ เครื่องใช้ไฟฟ้า ก็อยู่ได้ละ แต่ที่จอดรถก็เล่นเก้าอี้ดนตรีเอาเหมือนคอนโดอื่นๆ อันนี้ก็ต้องเลือกเอาค่ะ ว่าอันไหนที่เหมาะกับเรา

 

วันนี้กะเทยหิวแล้ว จึงขอกล่าว สวัสดีค่ะ :D

bottom of page