top of page

INTRO

สารภาพค้าาา นี้เป็นครั้งแรกที่ตุ๊ดได้มีโอกาสไปเที่ยวเขาใหญ่ 555 (เสร่อเนอะ) ก็เวลาดูรีวิวมันชอบมีแต่พวก ไปเที่ยวสิ่งปลูกสร้างอะ อิฉันก็ดูละแบบ ไปทำไมคะ สิ่งปลูกสร้าง อยู่กรุงเทพฯก็ได้ค่ะ ไม่อินค่ะ เลยเข้าใจไปเองว่าเขาใหญ่สงสัยไม่มีไรมั้ง

จนวันนึงไปเจอเพจนึง เค้ารีวิวไปเที่ยวเขาใหญ่แบบธรรมชาติสวยงามมาก กะเทยแบบ ว้ายยยยย ป่าไม้ดงดิบ มันใช่เลย เป็นเก้งกวางมันต้องไม้ป่าเดียวกัน เอ้ย ไม่ใช่ละ 555 นั้นแหละๆ ก็เลยเพิ่งจะรู้ว่าแบบ เขาใหญ่มันมีธรรมชาติสวยงามด้วยแหะ

แน่นอนว่ากะเทยเป็น Fan Club พี่แสน เลยเข้าไปดูโรงแรมของนางค่ะ โอ้ววว ราคาแรงมากค้าาา กะเทยอนาถาแบบดิฉันเห็นทีจะอดไป เดชะบุญ มีผู้ชายรูปหล่อ พ่อรวย แฟนสวย (อวยรัวๆ แพลบๆ เลียๆ) สงสารกะเทยอนาถา เลยให้กะเทยไปพักฟรีได้ กะเทยซาบซึ้งน้ำตาไหล (กราบงามๆทาบอกผู้ชาย) เย้ ได้ไปเที่ยวแว้วววววววววววว

ยังไงขอสนับสนุน sponsor ผู้หล่อเหลา น่ารัก ใจดี ก่อนนะคะ

ห้องสวยมาก ตกแต่งอย่างดีบอกเลย นอนละฟินมากกกกกกกกกกกกกกกกกก ใครสนใจไปพักเขาใหญ่ ห้องสวย แต่งเริศ วิวดี ราคาไม่แพง คลิกด้านล่างรัวๆจ้าาา

https://www.facebook.com/Thevalley24/?fref=ts

ไปดูรูปสวยๆจาก sponsor กันค้า >>> ตอนกะเทยเห็นรูปนี้แบบ กรี๊ดๆๆ อยากไป

PRODUCT

สำหรับ Product ที่จะมารีวิว วันนี้คือ The Valley เขาใหญ่ของแสนสิริค่ะ (แสนอีกละ 555 ก็มันยังไม่มีโอกาสเข้าที่อื่นนิ) งานนี้กะเทยขอบอกเลยว่า สวย อิน ฟิน มากๆ ชอบอะ (พูดจริง เพราะอะไร ต้องอ่านดู)

เท่าที่กะเทยเข้าใจนะคะ คือในพื้นที่เขาใหญ่ของพี่แสน มันจะมี 4 ตัว คือ escape ที่เป็นโรงแรมของนาง และ 23 estate, The Valley แล้วก็ 23 villa

โดยตัว The Valley เนี้ย มีทั้งหมด 236 ยูนิตค่ะ ซึ่งวันที่กะเทยไป (วันจันทร์) ถือว่าเงียบมากกกกก

สำหรับ location อันนี้กะเทยไม่เก่งจริงๆคะ ย่านนั้น รู้แต่ว่ามันใกล้ทางขึ้นอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ (ซึ่งเป็นสิ่งที่ชอบ เพราะขึ้นไปดูวิวสวยๆได้สะดวกดีค่ะ เดียวจิพาไปดู)

สิ่งที่กะเทยชอบเกี่ยวกับคอนโดนี้คือ ด้วยความที่พื้นที่ของแสนสิริเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ ที่สามารถ connect ได้กับส่วนต่างๆเช่น escape ที่เป็นโรงแรมของนาง ทำให้พื้นที่ ที่เราสามารถใช้ประโยชน์ได้นั้นใหญ่มากค่ะ อย่างเช่นเวลาเราจะยืมจักรยานไปขี่เล่นเนี้ย ก็มีพื้นที่ให้ขี่กว้างมาก อีกทั้งสเปกของวัสดุที่ให้ ค่อนข้าง เริศศศศศ มากเมื่อเทียบกับราคาแล้วแบบ OMG อยากด้ายยยยยยยยยย

ดูรูปไปบรรยายไปดีกว่าเนอะ

แอรยยยย ภูเขาาาาา (แลดูเป็นกะเทยรักธรรมชาติ)

ถึงแว้วววววว ขับไปถ่ายรูปไป มีความเสียว 555

พอเลี้ยวเข้ามาแล้วหันขวาก็จะเจอ The Valley ค่ะ

หันขวาจะเจอพื้นที่ตกแต่งเป็นสวน(มั้ง เรียกไรดี)

ตรงไปเดาว่าเป็น Villa มั้ง พี่ รปภ รีบออกมายืนดัก ห้ามเข้านะจ๊ะ รักษาความปลอดภัยดีมาก ชอบ

เข้ามาปุปจะเจอตึกนี้ตึกแรกค่ะ แล้วมีลอบบี้กะฟิตเนสด้วย ส่วนที่จอดรถจะมีด้านข้าง (เข้ามาแล้วเลี้ยวซ้าย) กะด้านหลังตึก (เข้ามาละเลี้ยวขวา) วันที่ไปรถโล่งมาก อาจจะเพราะยังไม่ใช่ช่วงเทศกาลคะ

ถ้าเลี้ยวซ้ายมา จะมีที่จอดรถแและต้นไม้ใหญ่ แล้วก็ที่จอดจักรยาน เหมือนจะมีให้ 4 คันนะจ๊ะ

น้องตั๊กแตน เกือบโดนกะเทยทับแบนละ

อันนี้ที่จอดรถฝั่งด้านขวาจ้า

ขึ้นบันไดไปดูตึกแรกกัน

มีน้องตั๊กแตนเป็นพนักงานต้อนรับ 555 ดีนะ ไม่ได้เหยียบ

วิวดี๊ดี

มีที่นั่ง outdoor ให้สำหรับนั่งรอติดต่อนิิติค่ะ เพราะมาถึงต้องไปติดต่อนิติก่อน จะเบิกกุญแจห้องไรงี้

ซึ่งห้องนิติก็อยู่ด้านหน้าเลยค่ะ นิติที่นี้บริการประดุจโรงแรม มีถามว่าจะขนสัมภาระขึ้นเลยไหม ให้พี่ รปภ ไปส่งนั้นนี้ ดีงามอะ

มีรถกอล์ฟ 2 คันไว้คอยบริการส่งลูกบ้านด้วย เริศ

งั้นเราไปดูข้างในกันก่อน กลับมาที่ลอบบี้

เข้ามาถึงจะเจอบันไดหินอ่อนด้านขวามือพาขึ้นไปสู่ Gym เจ้าค่ะ

เข้าใจว่าออกแบบ ให้เป็นรูปเกล็ดน้ำแข็งนะคะ เดามั่วนะ กะเทยมักมีความมโนสูง 555

เนื่องจากเป็นบ้านพักตากอากาศ ลอบบี้จึงปรับให้เป็นแบบ open air ได้ อีกทั้งยังไ้ด้หินอ่อนช่วยทำให้ไม่ร้อนเลยค่ะ

การออกแบบก็เน้นสีเอิร์ทโทนเนอะ ดูไม้ๆกลมกลืนๆอบอุ่นสบายตา เรื่องหินอ่อนไม่ต้องห่วง ก็ตามสไตล์พี่แสนอะคะ

แอบส่องผู้ชาย เอ้ย! ห้องน้ามมม

ห้องน้ำไม่ได้เวอร์วังอะไร แต่ก็สวย ok ดีคะ

Gym จะไม่ใหญ่มากค่ะ ก็นะ มาเที่ยวพักผ่อน จะมาฟิตอะไรค่ะ 555 แต่ 236 ยูนิต มีขนาดนี้ก็กำลังดีค่ะ 

กลับมาที่โถงลิฟชั้น 1 นะคะ งานนี้หินจะน้อยนิดนึง เน้นไม้ๆสะมากกว่า

เราจะพาขึ้นไปดูชั้น 5 กันค่ะ มีของดีรออยู่

ชั้นนี้จะเป็นชั้นที่เริศมาก เพราะมีสวนสวยๆน่ารักๆอยู่ตลอดทางเดิน ชอบมากอะ รู้สึกอยากเป็นชนีผมยาวใส่เดรสชีฟองพริ้วๆ อยู่ในสวนดอกไม้ 555 แอร๊ย อย่าเอากระจกมาส่องฉันนะ ฉันกำลังมโน

มีความเป็นชนีดิสนี่มากค่ะ มีสัตว์น้อยรายล้อม สวยๆ ไม่เอาแมลงสาบนะ

เฟอร์นิเจอร์ outdoor ก็ kenkoon hiso ตามสไตล์พี่แสน

จะมีส่วนที่เป็นจุดชมวิวที่สวยมากๆด้วย เค้าบอกว่า เช้ามืดจะมีทะเลหมอกตรงนี้สวยมาก แนะนำให้มาดูกันเอาเอง 5555

แอร๊ยสารภาพคะ คือมันมีหลายจุดมาก แล้วก็ขึ้นไปถ่ายหลายที่ เริ่มงงกะรูปละ ขอเอามาใส่รวมๆละกันนะคะ 555

เห็นละอยากเป็น Freelance หรือทำงานที่ work from home ได้ ละมานั่งสวยๆกับ notebook 1 ตัว กาแฟหอมๆสักแก้วหน้าหนาว โอ้ย ฟิน ... T-T กลับสู่ความเป็นจริง

มีหลายวิว ให้เลือกชิว

เพื่อความไม่งง (ของกะเทยเอง 555) เอา plan ให้ดูดีกว่าเนอะ มันจะมีทั้งหมด 3 ตึก มี 2 ตึกที่มีสวนดาดฟ้าแบบนี้ค่ะ แต่คิดว่าสามารถข้ามไปใช้สวนตึกอื่นได้นะ ลิฟล์ไม่ได้ lock ชั้นค่ะ ส่วนเรื่องความปลอดภัย มี รปภ คอยตรวจคนเข้าออกตั้งแต่หน้าโครงการและมีกล้องวงจรปิดค่ะ

พาไปดูห้องตัวอย่างต่อ สารภาพ T-T บางห้องอาจจะสีเพี้ยนๆนะคะ ลืมปรับแสง แง มือใหม่งะ

สำหรับ 1 ห้องนอนจะเริ่มต้นที่ 51.5 ตรม ค่ะ สำหรับสเปกของที่ให้คือแบบ OMG เริศไปละ พื้นเอนจิเนียร์อะ เพดาน 2.7 เมตร กระจกก็สุดพื้นถึงเพดานเลย

ตู้เสื้อผ้าแบบไม่มีหน้าบาน แถมเจ้าค่ะ (มันคือบ้านพักตากอากาศอะคะ)

เฟอร์นิเจอร์ของ odst (ของแพงนะ) ซื้อเพิ่มได้ในราคา 120,000 หรือ 140,000 นี้แหละ ป้าแก่แล้ว ขออภัย แหะๆ แต่คุ้มนะ ให้ของดีเลยละสวยด้วย สำหรับคนที่ไม่มั่นใจว่าตัวเองจะแต่งห้องได้สวยก้ซื้อเถอะ อย่าพยายามนะจ๊ะ แต่ถ้าแต่งแล้วเริศแบบห้อง sponsor ของกะเทย อันนี้กราบค่ะ แต่งสวยจริง

ส่วนตัวเป็นคนที่ชอบ plan ห้องแบบนี้มาก ที่ห้องนอนและห้องนั่งเล่นอยู่ริมหน้าต่าง แล้วมีบานเลื่อนกั้น เพราะเวลาเปิดเข้ามาแล้วห้องมันดูกว้าง โล่งมากกก สบายตา

ส่องเฟอร์บ้าง

Top ครัวเป็นหินพ่นน้ำ (อย่าถามว่าคืออะไร ไม่รู้ค่ะ 555) จะได้เนื้อสัมผัสแบบธรรมชาตตติ พี่เต้เคยบอกว่า อีค่าพ่นน้ำอะไรเนี้ย แพงมากกก

อันนี้รูป hood จากห้องอื่น อิอิอิ

คือจะบอกว่า ห้องน้ำนางใหญ่เท่าห้องนอนดิฉันทุกวันนี้เลยมั้ง T-T

ระเบียงใหญ่สะใจมากกก น่าวาง daybed เป็นมุมอ่านหนังสือและจิบชา (งานสร้างภาพต้องมา 555)

อีกจุดที่ชอบคือบานเลื่อนสามารถเลือกได้ว่าจะดันไปซ้ายหรือขวา ทำให้เมื่อดันมาทางหน้าห้องแล้ว ทำให้ไม่เกะกะลูกกะตาเวลามองวิวห้องกว้างแบบนี้ค่ะ ยิ่งถ้าห้องใครวิวสวย จะยิ่งฟิน

ป้ายเลขที่บ้านสวยดีอะ ต่อไปก็จะพาไปดูห้องอื่นๆนะคะ ซึ่งจะไม่บรรยายละ ให้ดูห้องสวยๆกันไปค่ะ ห้องตัวอย่างมีหลายห้องมากๆ บางห้องใช้ เฟอร์นิเจอร์ของ Quattro Design ซึ่งราคาแรงสมกะความสวยมากค่ะ 555

ห้องข้างบนนี้เป็น 2 นอนค่ะ ยังเป็น เฟอร์ของ odst อยู่ ต่อไปเราไปดูห้อง hisoๆ กันบ้าง (ห้องนี้แหละคะ ที่ลืมปรับแสงละสีเพี้ยน 555)

กว่ารูปห้องตัวอย่างจะหมด นิ้วแทบหงิก พาไปดูรอบๆโครงการกันต่อค่ะ ละเดียวพาไปเที่ยวใหญ่ต่อ

โถงทางเดินจะเป็นกึ่งๆ open-air เหมาะกับความเป็นบ้านพักตากอากาศค่ะ

คนออกแบบนางก็เก่งนะ กำแพงเปล่าๆ แต่ก็ดูสวยได้

โถงลิฟล์สำหรับชั้นธรรมดาทั่วไป

ไปดูสระกัน เผื่อมีชายร่างล่ำ Topless เล่นน้ำ อิอิอิ

มีการทำทางลาดทั่วทั้งโครงการ ไม่ได้สำหรับผู้พิการนะคะ แต่รวมถึงผู้สูงอายุที่อาจจะเดินเหินไม่สะดวก เป็นจุดนึงที่ Developer คนจะสนใจนะคะ เพราะอีกหน่อยประชากรผู้สูงอายุจะเยอะมากๆ

ห้องที่เป็น pool access หรือแปลไทยง่ายๆว่า เปิดระเบียงมาก็สระ จะมียกสูงขึ้นมากหน่อย ทำให้ไม่รู้สึกโป้เปลือยมาก (แต่ก็โป้อยู่ดีอะ เป็นฉันเวลาเดินผ่านห้องพวกนี้ก็แอบเผือก ชะเง้อคอมองในห้องเค้าสุดริด อิอิอิ) อีกทั้งตัวเนินที่ปลูกต้นไม้เตี้ยๆเขียวๆ ยังช่วยทำให้ดูสวยงามเจ้าค่ะ

จัดเตรียมที่นั่งไว้ให้ลูกบ้านนั่งพักผ่อนแบบเหลือเพือมากค่ะ

แม้จะเป็นบริวเณซอกตึก ก็ยังลงต้นไม้ให้สวยงามค่ะ

เดินออกไปดูด้านหลังบ้าง

แม้แต่บริเวณที่เป็นช่องแสงบันได ก็ยังต้นไม้ให้ได้ทิวทัศน์สวยงาม

มีสนามเด้กเล่นและที่นั่งพักผ่อนคะ

มีที่นั่งสำหรับคุณแม่ๆที่พาลูกมาปล่อย แล้วก็น่งเมาส์สามี อิอิอิ

สำหรับนอก The Valley กะเทยต้องขอขี่จักรยานพาดูนะคะ มันส์กว่าเยอะ 555

มัวแต่ลงรูป ลืมบอกไปเลยว่าตรงนี้เป็นส่วนของโรงแรมแล้วนะคะ โดยคนที่เข้าพักที่ The Valeey สามารถมาทานบุฟเฟ่ได้ราคาแค่ 300 บาทค่ะ

อันนี้ผีเสื้อจริงนะคะ

INTRO

แอรยยยยย ดูตัวโครงการกันเสร็จแล้ว ไปเที่ยวเขาใหญ่กันค้าาาา

เนื่องจากเราเป็นกะเทย มาเที่ยวขาใหญ่ เราก็ต้องไปเข้าป่าไม้เดียวกัน หาเก้งกวางชิมิคะ 555 ว่าแล้วอย่ารอช้ากระโดดขึ้นรถไปส่องผู้ชายในอุทยานกันค้าาาาา

ถนนแถวนี้ ขับรถละฟินมากค้าาาาา อยากจะมีรถเปิดประทุน เกร๋ๆ

ถึงทางเข้าอุทยานแล้วววว

เข้ามาถึงจะเจอศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ อยู่ด้านขวามือครับ เพื่อนตุ๊ดบอกว่าให้แวะไหว้ท่านก่อน ท่านศักดิ์สิทธิ์มากค่ะ

อันนี้คือมองย้อนกลับไปที่ทางเข้านะคะ ส่วนมากเค้าจะจอดรถริมทางขวามือของรูปค่ะ

ขับเข้ามาเรื่อยๆ จะเจอดงเจ้าถิ่นอยู่  ถึงจุดนี้กรุณาปิดหน้าต่าง และห้ามให้อาหารนะจ๊ะ ถ้าเจ้าหน้าที่เค้าจับได้ เค้าไล่ออกจากอุทยานทันทีจ้า ถือว่าทำให้ระบบนิเวศเสีย

แถมน้องลิงส่วนมากจะชอบมานั่งบนถนน ตอนที่กะเทยไป ก็ต้องขับช้าๆ กลัวทับน้องลิงจั๊กๆ

มีพี่ Honda City คันนึง ขับมาเร็วมาก ละเปิดไฟใหญ่ใส่ลิงแม่ลูกอ่อนที่กำลังให้นมลูก (คือลิงจะรู้เรื่องกะเมิงไหม เปิดไฟใหญ่เนี้ย!) เกือบทับลิงตาย ดีนะนางกระโดหลบทัน เข้าป่าขับรถกันระวังด้วยจ้าาาา

ดูสายตาที่นางมองฉันสิคะ เหมือนแบบ อะไร! กะเทย ไม่เคยเห็นลิงหรือไงยะ!

ถึงแว้ว จุดบริการนักท่องเที่ยว เค้ามีบริการส่องสัตว์นะคะ ต้องขึ้นมาก่อน 19.00 น. แต่ทางเข้าอุทบานปิด 18.00 น. ค่ะ โดยเที่ยวสุดท้ายที่ให้บริการส่องสัตว์คือ 20.00 น. จ้า วันที่กะเทยไป เค้าให้เหมารถ แค่ 500 บาทเอง คุ้มมาก วิ่งวนประมาณ 1 ชั่วโมงคะ แล้วจะมีคุณน้องผู้หญิงคอยถือสปอร์ตไลท์ส่องไฟ และเม้ามอยกับเรา

บนนี้กวางเยอะมากกกก เยอะยังกับน้องหมาน้อย แถมพวกนางเดินกันสวยๆแบบไม่สนใจผู้คน ดูจากหน้าตัวนี้ได้ อารมณ์แบบ ถ่ายไรยะ ชั้นจะดกหญ้า

อุณหภูมิตอนอิฉันไปถึงค่ะ ส่วนตอนเช้ามืด 21 องศา เจ้ที่พาส่องสัตว์บอกว่า หน้าหนาวติดลบนะคะ

ข้ามถนนมาฝั่งตรงข้ามจะเจอ ร้านอาหารและร้านขายของชำที่ปิดเร็วมาก ฉะนั้น แนะนำให้รีบกินให้เสร็จตั้งแต่ก่อนขึ้นมานะจ๊ะ

เนื่องจากกะเทยและเพื่อนตุ๊ดขึ้นมาช้าไป ร้านอาหารปิดรับ order แล้ว เลยต้องประทังชีพกันด้วยมาม่า cup T-T

น้องกวาง 4-5 ตัวมายืนมองเหมือนจะขออาหารจนแอบ งง นี้แกเป็นกวางจริงๆชิมิ

ถึงเวลารถออกแว้ว จองไว้รอบ 1 ทุ่ม ปีนขึ้นหลังกะบะแล้วบึ่งไปเลยคะลูกพี่ (ถ้าเป็นตอนกลางวันจะใส่เดรสชีฟองยาวสีเหลือง แล้วเปิดเพลง wildest dream แบบ Taylor โฮะๆๆ)

เพิ่งเคยเห็นเม่นของจริง ตลกดีอะ ไม่เหมือนในสารคดี หรือการ์ตูนเลย

จริงๆมีเห็นนกฮูกด้วย (ตัวใหญ่ยังกับสุนัข) แต่นางอยู่ไกล เลยไม่ได้ถ่ายรูปมา เพราะถ่ายมากไม่เห็นอะไร

ส่องสัตว์เสร็จประมาณ 2 ทุ่มคะ ขอบอกว่าหนุกอะ ชอบ อากาศดีเย็นสบายมัก

เสร็จแล้วอีเพื่อนตุ๊ดก็แนะนำให้ไปกินอาหารเย็นที่ร้าน MidWinter ค่ะ ร้านสวยมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

อีเพื่อนบอก ถ้ามาก่อนมืด จะเห็นวิวด้วย เสียดายจุง

อันนี้คือจากร้าน Mid Winter กลับ The Valley แลดูเหมือนจะไกลนะคะ แต่ขับรถแปปเดียว

ขับรถมาจะเจอป้ายแบบนี้เจ้า

จานนี้มันไมไ่ด้มีแค่นี้นะคะ แต่ว่ามันอร่อยมากกกกกกกกกกกกกกกก ลืมตัว กินรัวๆๆๆ มันคือปลาอะไรสักอย่างกับสตูลผัก

นางนี้มาร้องเมี๊ยวๆ ขอกิน พอได้กินสมใจ ก็เชิดใส่ น่าตบนัก (ตุ๊ดอะไรชวนแมวทะเลาะ 555)

ร้าน MidWinter นี้ ต้องบอกว่า อร่อยดีงามมากค่ะ บรรยากาศก็สุดแสนจะเริศเลอ ชอบมากๆ แต่ราคาแรงไปนิส แต่เอาน่ะ นานๆมาทีค่ะ ที่สำคัญไม่ไกลจากโครงการด้วยค่ะ ขับรถแปปเดียว

เช้าวันต่อมา กะเทยตื่นแต่เช้าาาา อยากจะขึ้นไปเฉยชมความงามของเขาใหญ่ค่ะ เผื่อจะมีทะเลหมอกไรงี้

ประตูเข้าอุทยานเปิด 6.00 น. ค่ะ ขับมาถึง 5.45 จอดรอร้องเพลงแม่มารายแพรบบบ

คืออยากเข้าไปเดินเล่นนะคะ แต่ดูแนวแล้ว เกรงจะกลายเป็นเทศกาลวิ่ง(หนี)ทาก หน้าฝนแบบนี้ มิขอเสี่ยงคะ

อันนี้น่าจะเป็นจุดชมวิวบนสุดนะคะ แล้วก็ไปต่อไม่ได้ละ เค้าให้จอดชมวิวค่ะ

จุดนี้คือจุดที่กะเทยชอบที่สุดในทริปนี้ค่ะ อากาศเย็นสบาย ภาพสะท้อนในสะเทสาบ น้องว่ากว่า mirror lake ที่์ New Zealand อีก (เพราะไปทีไรก็หมอกลง อดดู 5555)

อยากมีสามี T-T บรรยากาศโรแมนติกมั๊ก

ก่อนจะกลับอีเพื่อนพามาดูอ่างเก็บน้ำค่ะ

นางแนะนำให้มาทานข้าวหมูแดงหมูกรอบร้านนี้ค่ะ (ไม่ใช่ภูพิมานวิวนะคะ) รสชาติแปลกดี ไม่เคยกินที่อื่น คนเยอะมากค่ะ

สรุป

กลับมาพูดถึงตัวโครงการกันอีกรอบค่ะ 

ป้ายหน้าโครงการบอกว่าเริ่ม 2.39 ล้านบาท ซึ่งสำหรับราคานี้ แล้วได้สเป็กห้องแบบนี้ (เอนจิเนียร์) เพดานสูง 2.7 หน้าต่างจัดเต็ม อ่างอาบน้ำ ห้องขนาด 51 ตรม+ ฟินอะ คือเข้าใจนะว่ามันไม่ใช่ กทม แต่ก็แบบฟินอะฟิน เพราะตัวนี้เหมือนว่าตอนเปิดนี้ 3 กว่ามั้งคะ แต่ถ้ามาถึงแล้วราคาหน้างานเท่าไร อันนี้แล้วแต่ความสามารถในการต่อราคานะคะ อิอิ

อีกจุดนึงที่ชอบคือ วิวสวยทุกมุม จะวิวสระ วิวด้านนอก แม้แต่ลานจอดรถยังไม่แย่ (ช่วงที่ไม่มีรถเยอะนะ)

อีกทั้งส่วนกลางสามารถใช้ยาวได้ไปถึง zone ของโรงแรมอีก ทำให้รู้สึกคุ้มค่ามากขึ้นไปอีกค่ะ (หมายถึงแบบ ไปเดิน ไปขี่จักรยานไรงี้นะ) แล้ว landscape คือออกแบบดีมากกกก

สอบถามจากท่านผู้มีอุปการคุณแล้ว บอกว่า ก็สามารถปล่อยเช่าได้เรื่อยๆ เพราะด้วยราคาที่ถูกกว่า แต่ได้ห้องพักที่ขนาดใหญ่กว่า zone โรงแรมมาก โดยรวมแล้วไม่ขาดทุนครับ พอค่าผ่อนทุกเดือน

กะเทยมองเองนะ ถ้าได้ราคาดีๆ แล้วมีเงินเย็น มันก็คุ้มนะคะ เพราะด้วยสภาพเศรษฐกิจตอนนี้ บวกกับตลาดคอนโด ตจว ค่อนข้างแอบเงียบ คิดว่าคงจะยังไม่เห็นคอนโดเขาใหญ่ขึ้นใหม่ไปอีกสักพัก หรือถ้ามีก็คงแพง หรือ สเปกไม่ดีเท่า หรือ วิวไม่สวยเท่า แต่ก็อย่างที่บอกว่าต้องมีเงินเย็นนะ คือซื้อเป็นบ้านพักตากอากาศไป แล้วก็ปล่อยเช่าให้คนมาช่วยผ่อน ช่วงที่ไม่ได้ใช้งาน กะเทยเองถ้าแบบรวยๆเงินเหลือก็ฟาดค่ะ ชอบมากๆอยากมาอีกบ่อยๆ ตั้งใจว่าเดี๋ยวหน้าหนาวก็จะมาอีกค่ะ :)

bottom of page