เล่นสั้น VS เล่นยาว แบบไหนดีกว่ากัน?
- Sukrit Udom
- Jun 18, 2017
- 2 min read

เฉลยกันตั้งแต่เปิดเรื่องเลยละกันค่ะ ว่าไม่มีอันไหนดีกว่ากันหรอก แต่ต้องถามใหม่ว่า “อันไหนละที่ดีที่สุดสำหรับคุณ?” (คิคิคิ ตอบแบบกันโดนด่า)
ซึ่งก็ต้องมาหาความหมายและข้อดีของแบบเล่นสั้น และ เล่นยาวว่ามันต่างกันยังไง
ซึ่งอันนี้ต้องขอออกตัวแรงก่อนว่า กะเทยไม่ชอบสั้นๆค่ะ (ห้ามคิดลึกค่ะ 555 แต่คนเขียนนี้คิดไปไกลละ แอร๊ยยยย)
ฉะนั้นเรื่องเล่นสั้นนี้กะเทยไม่เก่งเลยจริงๆค่ะ
อีกอย่างคือทั้งหมดที่จะเขียนต่อไปนี้ไม่ได้คิดเองนะจ๊ะ ก็อ่านๆตามหนังสือนั้นแหละ แล้วเอามาสรุปให้ฟังค่ะ
เล่นยาว
มีใครเป็นบ้างไหมค่ะ ที่แบบ โอ้ยยย! เบื่องาน เบื่อชีวิตออฟฟิต อยากจะลาออกมานอนสวยๆ Slow Life นั่งจิบกาแฟหอมๆ อ่านหนังสือดีๆ ใช้ชีวิตเกร๋ๆ เดินแรดไปวันๆ หรือออกไปเที่ยวรอบโลกทำอะไรที่เราอยากทำ
กะเทยนี้แหละค่ะ คนนึงที่คิดแบบนั้น แล้วก็คิดว่าจะเกษียรตอนอายุ 40 ปี
ฟังดูมโมปะค่ะ แหมมม ทุกวันนี้หนี้บัตรเครดิตยังบาน หนี้บ้านก็ยังปิดไม่หมดสักหลัง แล้วแกจะเอาที่ไหนมาเกษียรยะ
แต่ก่อนกะเทยก็เคยคิดแบบนั้น จนเมื่อต้นปี 2017 ที่ผ่านมานี้เองที่ทำให้กะเทยเห็นทางสว่าง เพราะกะเทยเข้าครอสเข็มพิษชีวิต เอ้ย! ล้อเล่น คิคิคิ
ต้องโม้ก่อนว่าปี 2016 ที่ผ่านมา กะเทยทำงานเป็นวัวเป็นควายมากค่ะ แม้จะรายได้เข้ามาตกเดือนละ 1 แสน แต่ไม่มีวันหยุดเลยค่ะ ไม่ได้เที่ยวไหน ร่างพังรัวๆ เพลียหนักมาก แต่สุดท้ายหนี้ไม่ลดแม้แต่สตางค์แดงเดียว เผลอๆออกแนวเพิ่มด้วย ทำไมนะหรอค่ะ
ก็พอหาได้เยอะ ก็ใช้เยอะไงค่ะ ตัวอย่างเช่น พอไปงาน King Power Sale ที ตอนไปก็คิดว่าแบบ เห้ย ไม่ Shop หรอก ฉันประหยัด แล้วไงละ รู้ตัวอีกทีรูดไป 50,000 งี้ กินข้าวแต่ละมื้อแพงๆงี้ เพราะคิดตลอดว่า เห้ยไม่เป็นไร เดี๋ยวก็มีงานเสริมเข้ามาจ่าย แล้วหนี้มันจะไม่บานได้ไงละค้า
จนเมื่อตอนปีใหม่ ดูหนังเรื่องไรไม่รู้ละอิน ก็เลยอารมณ์แบบ ฉันจะทำ new year resolution ทำไปทำมา อ้าว เพิ่งรู้ว่าหาเงินได้เยอะ แต่หนี้บานเหมือนเดิม เลยรู้ว่าตัวเองจัดการเงินผิดมาตลอด กะเทยเลยต้องใช้ตัวช่วยค่ะ เข้า youtube แล้วพิมว่า personal finance มีคลิปดีๆมีประโยชน์มากมายค่ะ (สำหรับคนไม่มีความรู้เรื่องเงินเลยแบบกะเทยนะคะ) จนสุดท้ายไปจบที่หนังสือ Rich Dad, Poor Dad ซึ่งกะเทยเห็นหนังสือเล่มนี้มานานละ แต่ไม่เคยคิดจะอ่านเลยค่ะ คิดว่าต้องเป็นอารมณ์แบบสอนให้คนโลภหรือเพ้อเจ้อไรแน่เลย แต่พอไปซื้อมาอ่านเท่านั้นแหละ OMG รักมาก นี้มันสุดยอดหนังสือเรื่องการเงินที่ทุกคนควรได้อ่านเล่มแรกของชีวิตชัดๆ กะเทยเลยเข้าใจว่าจริงๆแล้วสิ่งสำคัญไม่ใช้การหาเงินได้เยอะๆ แต่เป็นการบริหารจัดการเงินต่างหาก
เอาละ กลับมาต่อกันที่ความมโนเรื่องการเกษียรตอน 40 กันต่อ เชื่อว่าหลายคนจะต้องบอกว่า แล้วเธอจะทำไง ต้องมีเงินเยอะขนาดไหนถึงจะพอใช้ไปยันแก่ คำตอบ ไม่ได้อยู่ที่มีเงินเท่าไรค่ะ แต่ “จะมีเงินเข้ากระเป๋าเราต่อเดือนเท่าไร โดยที่เราไม่ต้องทำงาน (จริงๆก็ทำนิดนึงแหละ)” แล้วสำหรับสายอสังหาแบบพวกเราแล้วละก็ โอกาสในการทำให้เงินเข้ากระเป๋าแบบยาวๆ ก็มาจากปล่อยเช่ายังไงละ (จริงๆแล้วหุ้น VI ก็เริศนะคะ แต่อิฉันไม่เก่งเรื่องหุ้นค่ะ ขอข้าม 555)
มันจะดีแค่ไหน ที่เราสามารถมีเครื่องผลิตเงินได้ ได้เงินทุกเดือนโดยไม่ต้องไปทำงาน แต่! ของจริงมันไม่ได้ง่ายแบบนั้นหรอกค่ะ
ต้องแน่ใจว่าเลือกถูกคอนโดได้ถูกต้อง เป็นคอนโดที่มีจุดขาย เป็นที่ต้องการของตลาดเช่า แบบผ่านไปนานๆก็ยังให้เช่าได้
สำหรับมนุษย์เงินเดือนที่ไม่ได้เงินมาซื้อสด แล้วเริ่มเก็บรายเดือนได้เลย ต้องขอบอกเลยว่าสำหรับมนุษย์เงินเดือนนี้ช่วงแรกๆนี้โอกาสได้กำไรจากค่าเช่าค่อนข้างยากมากๆ (อันนี้คำนวนกันแบบไม่ได้โปรพวกล้านละ 2-3 พันจากแบงค์นะคะ) วิธีคำนวนง่ายๆก็ล้านละ 7,000 ค่ะ สมมติซื้อคอนโดมา 2 ล้าน เราต้องผ่องแบงค์เดือนละ 14,000 แนะ แต่ผลคือ ปีแรกคิดว่าจะปล่อยเช่าได้เท่าไรค่ะ 8,000 - 9,000 ก็มีให้เห็นค้า นี้ย่านสุขุมวิทแล้วนะ ย่านอื่นบางที่ค่าเช่าแย่กว่านี้อีก ช่วงแรกหลายคนอาจจะท้อ แบบ ไรเนี้ย ง่อยมาก ไม่เห็นคุ้มเลย กะเทยอยากจะบอกว่าใจเย็นค่ะ ขอแบบนี้มันเหมือนปลูกต้นไม้อะคะ เราหย่อนเมล็ดลงไปแล้วจะหวังผลเลยทันที อันนี้ยากไปนะคะ ช่วงแรกของการปลูกต้นไม้มันก็ต้องลงทุนนั้นแหลคะ รดน้ำ ใส่ปุ๋ย ลูกผลอะไรก็ไม่ได้กิน ใจเย็นค่ะ อยู่เองไปก่อนก็ได้ ถ้าทำให้ชีวิตสะดวกขึ้น จะได้ไม่ต้องไป waste เงินกับการซื้อรถ ที่มันมีแต่จะลด รอครบ 3 ปีก็ refinance สะ ให้ยอดผ่อนต่อเดือนถูกลงค่ะ แล้วถ้าเลือกซื้อคอนโดถูกที่ ความเจริญคืบคลานเข้ามาทำให้ค่าเช่าเขยิบเพิ่ม refinance แล้ว เมื่อหักลบกับค่าเช่าแล้วกำไร ก็ปล่อยเช่าเอา passive income ค่ะ ช่วงแรกมันก็ได้น้อยหน่อย อารมณ์เหมือนต้นไม้ออกผลแรกๆ ออกปีละลูกสองลูกไรงี้ ก็อย่าเพิ่งท้อ กินหนมไปก่อนค่ะ ครบ 3 ปี refinance ไปเรื่อยๆ มีโบนัส อะไร ก็รีบโปะรีบปิดสะ จนพอหนี้บ้านมันหมด เราก็รับค่าเช่าเต็มๆละ ของแบบนี้เค้าเรียกเงินต่อเงินค่ะ พอมีเงินจากค่าเช่าเราก็เอาไปลงที่ใหม่เพิ่มได้ ให้มันทวีคูณ เหมือนเราเอาเมล็ดจากผล ไปปลูกต้นใหม่เพิ่มจาก 1 ต้นเป็น 2 ต้น เป็น 3 ต้น จนวันนึงมันกลายเป็นไร่
ข้อดีของการเล่นยาวก็คือ ตอนเราแก่เราจะสบายค่ะ แต่โจทย์ปราบเซียนคือ ราคาที่ควรซื้อ ที่ผ่านไป 10 ปีแล้ว ค่าเช่ายังเป็นที่ต้องการของตลาด ไม่ใช่แพงจนคนเช่าไม่ไหว อัตราเช่าคุ้มกับเงินต้นที่ลงไปไหม อันนี้ของไม่พูดตรงๆ แต่ถ้าลองไป google ราคาค่าเช่าของคอนโดแต่ละระดับแล้วจะรู้ว่า เกรดค่าเรตเช่าดีสุด ที่สำคัญสุดคือคอนโดอะไรบ้าง ที่นานๆไปแล้วยังไม่โทรม ไม่เยิน อันนี้ไม่ยากนะคะ พยายามไปเยี่ยมชมคอนโดแต่ละแบรนด์ ได้ว่าผ่านไปกี่ปีแล้วสภาพยังเป็นยังไง คนยังเช่าดีไหม รวมถึงทำการบ้านเรื่องทำเลเช่าที่เรคดีและความต้องการเยอะด้วยค่ะ
ข้อเสียก็มีค่ะ คือน้านนาน กว่าจะสบาย รวมเราไม่สามารถรู้ได้ว่าอนาคตจะเป็นยังไง จะหอมหวานเหมือนที่คิดไหม
เล่นสั้น
บอกอีกรอบว่าอันนี้ไม่เซียนค่ะ แต่ก็จะเล่าตามที่เห็นละกัน ลืมบอกไปว่า Page อิฉันเน้นช่วยเหลือมือใหม่นะคะ ฉะนั้นพวกเทพๆเข้ามาอ่านแล้วอาจจะแบบ ไรของแก น่าเบื่อ เค้ารู้กันหมดละ 5555
ทุกวันนี้เล่นสั้น เล่นกันอลังการงานสร้างมากค่ะ ใครจะเชื่อค่ะว่า วันนึงคอนโดจะมีขายส่ง ก็ไปซื้อแบบ Big Lot เหมา Floor กันไง จน Dev ต้องให้ราคาพิเศษ หรือเป็นการไปเหมาราคาถูกๆของตึกกันมาจนหมด จนคนทั่วไปซื้อได้แต่ราคาที่แพงกว่า
ต้องเข้าใจว่าทุกวันนี้เล่นสั้นแอบยากขึ้นเยอะมาก ไม่เหมือนแต่ก่อน ชิวๆสวยๆ แต่ถ้ามีความเข้าใจเรื่องของ Perception คน ความโลภ ความกลัว และ Real Demand (ขอ copy ที่พี่โว่สอนนะคะ) ก็ทำได้แหละค่ะ
ราคา – เล่นสั้นมันก็เหมือนเล่นหุ้นปั่นอะคะ เราต้องรู้ว่า ควรเข้าที่ราคาไหน แล้วราคามันจะไปถึงไหน แล้วขายตรงไหน ถ้าเป็นพวกหุ้นก็ดูกราฟชิมิค่ะ ถ้าเป็นคอนโดก็ดูจากการรับได้ของราคาค่ะ อันนี้สำคัญคือห้ามหลอกตัวเอง ต้องดูตลาด เช่นสมมติเล่นคอนโดช่วง 2-3 ล้านบาท ก็ต้องเข้าใจความต้องการของคนกลุ่มนี้ก่อน ใครค่ะซื้อคอนโด 2-3 ล้าน คนพวกนี้ทำไร เงินเดือนเท่าไร เราควรซื้อที่ราคาเท่าไรแล้วเอาไปขายที่ราคาเท่าไร บวกไปแล้วเค้ายังซื้อเราไหวไหม หรือว่าพอบวกไปแล้ว อ้าวกลายเป็นลูกค้าคนละกลุ่มแล้ว แล้วคนกลุ่มนั้นมองหาของที่ดีกว่านี้ ก็จบข่าวเลยนะคะ
Brand – ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ สำหรับบ้านเราเนี้ย เรื่อง Brand มีผลมากนะจ๊ะ เพราะคนค่อนข้างติดภาพความสำเร็จเก่าๆ คิดว่าถ้าเป็นคอนโดชื่อนี้แล้วจะต้องปังแน่ๆ ไรงี้ ทุกวันนี้จะเห็นว่าเยอะมาก คอนโด Brand นี้ราคาก็ดีกว่า ทำเลดี แต่ทำไมบวกกันได้ไม่เยอะ หรือขายไม่ออก บาง Brand ก็ราคาเวอร์วัง One Day Sold Out แต่พอตอนโอนอ้าว เหลือบานจนต้องเอามา SALE
กระแส – อันนี้ก็สำคัญค่ะ เพราะคอนโดบางที่ก็โดนลืม หายเข้ากลีบเมฆ แม้จะเป็นตึกสูงก็เหอะ พอไม่มีกระแส คนไม่นึกถึง ถึงจะถูกกว่า ดีกว่า แต่คนมันลืมอะ ก็ขายไม่ออกได้เหมือนกัน ในอีกทาง ช่วงกระแสดีๆเนี้ย โอ้ย วิ่งหากันรัวๆ แพงแค่ไหนก็จะเอา
Plan B – อันนี้คือนิสัยส่วนตัวมาก ด้วยความที่กะเทยเป็นพวกไม่ชอบความเสี่ยงค่ะ ฉะนั้นต้องคิดไว้ด้วย ว่าถ้าไม่รอด ขายไม่ออกจะทำไง คอนโดบางตัวก็อาจจะกำไรหลังโอนนะคะ ไม่ใช่ของมันไม่ดี แต่มันยังไม่ถึงเวลา แต่ถ้าตอนซื้อไม่ได้เผื่อ Plan B ไว้ โอนไม่ได้ ไม่ไหว อันนี้ก็ขอแสดงความเสียใจด้วยค่ะ คุณไม่ได้ผ่านไปรอบถัดไป
ข้อดีของการเล่นสั้นก็ไม่มีไรมากค่ะ รวยเร็วไง 555 แปปๆได้เงินละ คอนโดบางที่ขายไปนี้กำไรที่ได้ แทบจะอยู่ได้ทั้งปีโดยไม่ต้องทำงานเลย
ข้อเสียคือพอมีเงินก้อนในมือ วันนึงมันก็หมดได้ ก็ต้องกลับเข้าไปวน Loop ใหม่หาเงินเพิ่มอีก
แต่อยากฝากไว้นิดนึง ว่าคอนโดก็เหมือนเงินเฝ้อนะคะ พอคุณขายหลุดออกจากมือไปแล้ว โอกาศที่จะได้มันกลับคืนมาในราคาเดิมก็ยากแล้วนะคะ (ยกเว้นขายบวกกำไรช่วงกระแส เช่นวันแรกที่เปิดขายแล้วกระแส Hot มาก รีบเอาออกมาขายต่อ แต่พอตึกเสร็จคนเทขายทิ้ง ขายขาดทุนรัวๆแล้วกลับไปช้อนซื้อตอนนั้น เป็นต้น)
สุดท้ายแล้ว ไม่มีวิธีไหนที่ดีที่สุดในโลกหรอกค่ะ มันอยู่ที่ว่าคุณชอบหรือถนัดแบบไหน หรือจะเล่นผสมกันไปเลยก็ได้ ขอแค่มีสติ อย่าซื้อด้วยอารมณ์ อย่าซื้อเพราะคิดว่ากลัวตกรถ หรือโลภมโนคิดไปเองว่าเดียวตึกเสร็จมันจะขึ้นไปแตะตรม ละ 300,000 โดยรอบๆไม่มีอะไรมาดันราคาหรือคุณภาพชีวิตรอบนั้นไม่สวยหรู หรือเห็นคนขายขาดทุนก็เลยกลัว รีบขายขาดทุนบ้าง เอาตัวเองออกมาจากปัญหาค่ะ มองเหมือนมันไม่ใช่ปัญหาของเรา อารมณ์เหมือนเพื่อนมาปรึกษาว่าแฟนนอกใจทำไงดี อย่าเอาอารมณ์ตัวเองมามโนว่าฉันรักเค้ามาก ขาดเค้าไม่ได้ ถ้าเพื่อนมาบ่นแบบนี้ให้ฟัง กะเทยแน่ใจว่า 90% ต้องบอก ก็เลิกไปสิวะ ผช เหียๆ เอาทีนเขี่ยก็เจอ วันนึงคุณอาจจะเจอคนใหม่แล้วนึกย้อนกลับไปว่า วันนั้นกรูไปนั่งเสียน้ำตาให้ไอ้เซงกะบ๋วยนั้นได้ไงวะ
Comments