top of page

The Reserve Phahol – Pradipat: ความคุ้มค่าบนทำเลที่ไม่ควรมองข้าม

  • Sukrit Udom
  • Jan 8, 2018
  • 2 min read

ทุกวันนี้ราคาคอนโดแพงมากกก จนคอนโดในทำเลที่เจ้อยากได้ ราคาสูงจนเวอร์จนเอื้อมไม่ถึงแล้ว มันก็เป็นคำถามกลับมาว่า “ถ้าจะซื้อคอนโดใน Segment B แล้วยังอยู่ในเมืองแบบไม่เกิน BTS ส่วนต่อขยายด้วย Budget ที่มีอยู่ ที่ไหนจะคุ้มสุดละ?” ซึ่งสำหรับเจ้ ในฐานะคนทำงานออฟฟิต ก็ต้องขึ้นอยู่กับลักษณะสายงานที่เราทำอยู่ด้วย ว่าส่วนมากทำงานอยู่ย่านไหน อย่างเจ้เนี้ย ส่วนมากทำงานกับพวกบริษัทฝรั่ง พวกนางก็จะวนเวียนอยู่เส้น BTS นี้แหละ แล้วคอนโดตามเส้น BTS ที่ไหนราคายังซื้อไหวและทำเลยังมี Potential อยู่บ้าง เจ้ก็จะเจอ 1 ทำเลที่หลายคนชอบมองข้าม นั้นก็คือ “ประดิพัทธ์” (เลือกเรียกชื่อที่สวยนิดนึง)

คำว่า Potential ของเจ้คืออะไร ต้องเข้าใจกันก่อน คือด้วยนิสัยเจ้ จะชอบทำเล Real Demand มากกว่าทำเล Business District ค่ะ เพราะว่า ‘เจ้ชอบกินนั้นเอง’ 555 คืองี้เธอ ทำเล Real Demand เนี้ย มันเป็นทำเลชุมชนที่อยู่อาศัยชิมิ ฉะนั้นมันจะต้องมีพวก Street Food หรือร้านเก่าแก่อร่อยๆที่ราคาไม่แพง และ Supermarket อยู่เป็นทุนเดิม ซึ่งร้านพวกนี้จะเปิดกันยาวจนดึกดื่นและเสาร์ อาทิตย์ เพื่อรองรับคนท้องที่ ที่กลับมาจากทำงานหรือวันหยุดอยู่บ้าน ซึ่งแน่นอนว่า เวลาเราไปทำงาน รอบๆที่ทำงานเรามีของกินอยู่แล้วละ แต่พอเรากลับมาบ้าน ถ้ารอบบ้านไม่มีของกินนี้ไม่ ok นะ หรือเสาร์-อาทิตย์ตื่นมาละแบบ ต้องรอห้างเปิด 10 โมงเช้า แถมต้องกินแต่ข้าวในห้างแพงๆอีก (อันนี้ความชอบส่วนตัวของเจ้นะ) ฉะนั้นทำเล Real Demand มันจะมีความอุดมสมบูรณ์มากกว่า ซึ่งเส้นประดิพัทธ์เนี้ย เป็นเส้น Real Demand จริงๆ แต่ด้วยความที่เป็นเส้นที่ถูกลืมมาก่อน จนตอนนี้ตลอดเส้นพหลที่ยังไม่เลย BTS ส่วนต่อขยาย ก็เหลือแต่นางแล้ว แถมความเจริญก็เริ่มแอบขยายมาจากอารีย์ตามซอกซอยต่างๆที่สามารถทะลุมาถึงประดิพัทธ์ได้อีก Developer ก็เลยมาลงโครงการใหม่ๆที่นางกันตู้มๆ แถมถ้าสังเกตุดีๆจะเห็นร้านอาหารตลอดเส้นนี้ก็ถือว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปมากเทียบกับเมื่อ 4-5 ปีก่อน จะเริ่มมีร้านอาหารหรูๆหรือ Cafe เกร๋ๆ ตามซอยประดิพัทธ์แล้ว เจ้เชื่อว่าเดี๋ยวพอคอนโดสร้างเสร็จเพิ่มอีกสัก 2-3 ตึกนะ ย่านนี้จะเปลี่ยนไปอีกมาก

คำถามต่อมา ทำเล Real Demand นอกจากของกินแล้วมันดียังไงหรอ เจ้จะขอยกตัวอย่างทำเลที่เห็นชัดมากสุดละกัน และเป็นย่านที่เจ้ถนัด นั้นก็คืออ่อนนุช ที่มีแพทเทิ้ลแอบคล้ายประดิพัทธ์ม่ะ? เพียงแต่เส้นประติพันธ์จะสั้นกว่ามากเท่านั้นเอง แต่สำหรับตลาดคอนโดเราจะ Focus เฉพาะช่วงต้นซอยที่ไม่ไกลรถไฟฟ้ามากค่ะ ซึ่งจะเห็นได้ว่า พอมันเป็นทำเล Real Demand แล้วเนี้ย ความอุดมสมบูรณ์มันจะเป็นแม่เหล็กดึงทั้งคนเช่า คนหาห้อง resale เข้ามาอย่างต่อเนื่องค่ะ ไม่ได้มาด้วยกระแส เพราะกลุ่ม Real Demand เค้าไม่ได้มานั่งตามข่าวคอนโดตลอด เค้าจะรอจนเค้าพร้อมซื้อ แล้วก็จะดูว่า Budget ที่เค้ามีตรงไหนมันน่าอยู่ อุดมสมบูรณ์ เดินทางสะดวก

กลับมาที่เรื่องราคาบ้าง ถ้าจะถามว่าคอนโดราคากลางๆที่ตลาดรับเริ่มจะรับได้แล้วในตอนนี้สำหรับ Segment B เจ้ว่าก็น่าจะอยู่ที่ประมาณ 150,000-170,000 บาทต่อตารางเมตรค่ะ ซึ่งเมื่อกลับมาดูว่ามีคอนโด High Rise ตัวไหนบ้างละที่พอจะมีห้องในราคานี้อยู่ ถ้าเป็นเส้นสุขุมวิทก็นู้นเลยจ้า ปุณณวิถี ซึ่งรอบๆบริเวณนั้นแอบแห้งแล้งไปนิด แถมยังต้องเสียค่า BTS ส่วนต่อขยายอีก ถ้าเป็นเส้นพหลฯ ก็สะพานควายนี้แหละค่ะ

กลับมาที่ตัวเลือกในซอยประดิพัทธ์กันบ้าง ซึ่งถ้าเทียบกับทุกตัวในย่านนี้แล้ว The Reserve Phahol – Pradipat ดูคุ้มสุดจริงๆอะ เพราะมีจำนวนห้องชุดแค่ 260 ยูนิต แถมมีที่จอดรถมากถึง 65% แถมยังยกส่วนกลางเกือบทั้งหมดอย่างสระว่ายน้ำแบบ Infinity edge pool, Fitness, Community space, Adaptive function room, Lounge และสวนพักผ่อนไปไว้บนชั้น 25-26 ด้วย ทำให้สามารถชมวิวได้สวยกว่ามาก และที่สำคัญที่สุดคือ ห้องเกือบทั้งหมดเป็นห้องแบบ Loft ที่มีเพดานสูงถึง 4.4 เมตร อีกด้วย แถมตอนนี้ได้ข่าวว่าที่ดินเยื้องๆกัน ทางพฤกษาก็กั้นรั้วแล้วด้วย ซึ่งเดาว่าน่าจะมาในราคาที่สูงกว่าแน่ๆค่ะ

ทีนี้มาดูรายละเอียดโครงการกันบ้างค่ะ ว่าที่บอกว่า Spec ดี คุ้มค่า มันดียังไง

โดยจะเริ่มจากส่วนกลางกันก่อนนะคะ

เริ่มกันตั้งแต่ทางเข้าเลยค่ะ อันนี้เจ้แอบชอบมากคือ แทนที่นางจะเลือกทำทางรถเข้าทางฝั่งถนนประดิพัทธ์ นางเลือกย้ายทางรถเข้าไปไว้ทางซอยด้านข้างแทนซึ่งก็ไม่ได้ลำบากอะไรเพิ่มเท่าไรเลย แต่กลับช่วยตัดปัญหาเรื่องความไม่ Private ออกไปได้เยอะมาก เพราะเวลานั่งอยู่ใน Lobby มองออกมาแล้วไม่ต้องเจอถนน 4 เลนพร้อมรถวิ่งไป-มาให้น่าหงุดหงิด อักทั้งยังเลือกทำเป็นสวนบริเวณด้านหน้าที่เป็นทางคนเดินเข้าโครงการ ซึ่งเป็นการใช้พื้นที่ฉลาดมาก เพราะนอกจากจะทำให้ลูกบ้านได้ส่วนกลางเพิ่มแล้ว ยังช่วยเปลี่ยนบรรยากาศตั้งแต่ลูกบ้านแตะบัตรผ่านรั้วเข้ามา จะเจอกับความร่มรื่นทันที เป็นการเปลี่ยนบรรยากาศจากความวุ่นวายให้เป็นความเงียบสงบ ให้ความรู้สึกแบบ ถึงบ้านแล้วจ้า แถมยังเป็นการสร้างวิวให้ลอบบี้น่านั่งมากขึ้นอีกด้วย เพราะมองออกไปแล้วเห็นวิวสวนร่มรื่นสบายตา ไม่ใช่แบบบางที่ ที่มองออกไปแล้วเป็นวิวถนนรถวิ่งไปมา ดูโป้และไม่แพงค่ะ

บริเวณชั้น 8 ยังมีสวนพักผ่อนอีกจุดค่ะ

ขึ้นมาที่ชั้น 25 จะมีเจอ สระว่ายน้ำแบบ Infinity edge pool, Fitness แบบเพดานสูง, 24 hours community space แลสวนพักผ่อนที่สามารถออกมานั่งอ่านหนังสือหรือทำงานได้

บนชั้น 25M ยังมี Sky Lounge ขนาดใหญ่ที่ออกมาแบบมาให้มี Co-working space function ที่ใช้งานได้จริง (ไม่ใช่แบบคอนโดบางที่ ที่เรียกส่วนกลางว่า co-working space แต่ออกแบบมาไม่ได้เหมาะกับการทำงานเลยแม้แต่น้อย)

และ Roof Top Garden ที่มี Outdoor Cinema และ Rooftop Pantry อีกด้วย

ทีนี้ลองมาดูใน Sales Gallery กันบ้างค่ะ ซึ่งออกแบบมาให้จำลองบรรยากาศของส่วนกลางได้อย่างสวยงามมากๆ เรียกได้ว่าเข้าไปแล้วเคลิ้มมากค่ะ

ห้องตัวอย่างมีให้ดูสองแบบค่ะ คือแบบ Loft ที่มีเพดานสูง 4.4 เมตร และแบบ Simplex ที่มีเพดานสูง 2.7 เมตร

แม้ว่าห้องชุดจะมีขนาด 29.75 ตารางเมตร แต่ทางโครงการยังให้พื้นที่ชั้นลอยเพิ่มมาอีกถึง 10 ตารางเมตร

Digital Door Lock ของ Yale

ชุดครัวที่โครงการค่อนข้างประทับใจมากค่ะเพราะนอกจากขนาดของครัวจะใหญ่มากแล้ว ยังให้ spec ค่อนข้างดี อย่าง Top เป็นหินควอตซึ่งเป็นหินที่ดีกว่าหินอื่นๆที่ตามโครงการต่างๆชอบใช้กันเพราะมีรูฟองอากาศน้อย ทำให้ไม่เป็นรอยด่างและทนทานต่อรอยขีดข่วน

หน้าบานและวัสดุกรุผิวภายในตู้ชุดครัวคือดีงามถูกใจมากค่ะ

อ่างล้างหน้าทั้งชิ้นเป็นหินสังเคราะห์ของ Lavenz

ตู้รองเท้าที่โครงการให้มาด้วยค่อนข้าง ok มากเลย เก็บของได้เยอะแล้วไม่ต้องมานั่งหาช่างบิ้วเพิ่มอีก

ด้วยความสูงถึง 4.4 เมตร ถ้าออกแบบดีๆจะสามารถเก็บของได้เยอะมาก

สำหรับคอนโดภายใต้ brand The Reserve แล้วนอกจากจะได้ Spec ที่ค่อนข้างดีมากๆแล้ว ยังมีบริการ Concierge Service by The Reserve ที่จะเป็นเหมือน Concierge ตามโรงแรมที่คอยช่วยเหลือลูกบ้านสำหรับเรื่องเล็กๆน้อยของลูกบ้านอย่างเช่น ซักรีดเสื้อผ้า รับ-ส่งพัสดุ หรือจองตั๋วต่างๆ สำหรับการจองส่วนกลางต่างๆก็จะมี Mobile Application ช่วยให้ลูกบ้านสามารถจอง Facility ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ภายใต้การดูแลของนิติฯ อีกทั้งในส่วนกลางต่างๆยังติดตั้ง Motion Censer และ Timer ไว้ด้วย เลยไม่ต้องเป็นห่วงว่าจะไม่มีใครมาคอยเดินปิดไฟและเครื่องปรับอากาศด้วย แถมยังมี High Speed Wifi ไว้ให้ลูกบ้านใช้ตามส่วนกลางอีก

สำหรับลูกบ้านที่ขับรถยนต์ ก็สามารถเลือกจอดรถได้ทั้งแบบปกติและแบบ automatic พร้อมทั้งมีจุด Electric Car Charger ให้อีกด้วย

สรุป

ถ้าเทียบกับคอนโดที่เป็นห้องชุดแบบเพดานสูงทั้งหมด ต้องยอมรับเลยว่า The Reserve Phahol – Pradipat เป็นคอนโดที่น่าสนใจที่สุด เพราะด้วยระดับราคาต่อตารางเมตรที่พอๆกัน ทั้ง Spec และ Location ของตัวนี้ดีที่สุดเลยก็ว่าได้ ทั้งอยู่ใกล้เมืองกว่า Spec ของที่ให้มากับห้องถือว่าดีมากๆ แถมอยู่ในทำเลที่อุดมสมบูรณ์มากด้วย และยังไม่เกิน BTS ส่วนต่อขยายอีก ทำให้ไม่ว่าเดินทางไปตาม Business District ต่างๆในเส้นพหลฯก็สะดวก เข้าเมืองก็ไม่ไกล แถมยังใกล้แหล่ง Life Style อย่างอารีย์อีกด้วย ตอนนี้รอบๆ BTS สะพานควายเองก็มีหลายโครงการที่เริ่มเคลียที่ดินกันแล้ว แน่นอนว่าจะมีคอนโดใหม่ๆมาช่วยเพิ่มความเจริญและดันราคาแน่นอนค่ะ นอกจากนี้โครงการยังได้รับรางวัล Asia Property Award Winner (Residential High-rise development, 2018-2019) อีกด้วย

ปัจจุบันราคาเริ่มต้นที่ 6.5 ล้านบาท พร้อมรับโปรโมชั่น รวมมูลค่าสูงสุดถึง 400,000 บาท

สนใจโครงการสามารถมาร่วมงาน Exclusive Event วันที่ 31 มี.ค. - 1 เม.ย.นี้ เพื่อรับสิทธิพิเศษต่างๆมากมาย

ลงทะเบียนรับส่วนลดได้ที่ https://goo.gl/is6VC6

Add Line : https://goo.gl/78CpuZ

http://thereservecondo.com/Phahol-Pradipat/

โทร 1739


 
 
 

Comments


bottom of page