top of page

ทำไม One 9 Five Asoke - Rama 9 ถึงเป็นคอนโดที่น่าซื้อมากสำหรับเจ้

  • Sukrit Udom
  • Jan 17, 2018
  • 3 min read

เจ้ขอบอกเลยว่าตอนนี้คอนโดที่คนหลังไมค์มาถามกันเยอะมากสะจนวันนี้เลยต้องหยิบยกมาเม้ามอยกันสะหน่อยก็คือคอนโด One 9 Five ของ TC Development ว่าทำไมโครงการนี้ถึงเป็นอีกหนึ่งโครงการที่น่าสนใจมากกก (แบบ ก ล้านตัว)

ด้วยนิสัยความชอบเผือกเรื่องอสังหาฯของเจ้ เจ้เลยได้เห็นพฤติกรรมบางอย่างของ Developer เวลาที่พวกนางต้องการจะสร้าง Sub Brand ตัวใหม่เข้าไปในตลาดให้ปัง นางจะทำจัดเต็มกับ product ตัวแรกของ Brand นั้นมากค่ะ ถ้าจะให้ยกตัวอย่างก็เอาพี่แสนละกันนะ Base 77 ตัวแรกงี้ ตั้งราคามาแบบถูกเวอร์ แถมอยู่ๆมา up spec เป็นพื้นหินอ่อนให้เฉยเลย (เราจะไม่พูดถึงเรื่อง 'โฟม' นะจ๊ะ อิอิ) มีคนในแอบมาเม้าหลัวไมค์ให้ฟังว่าตัวนี้แทบจะไม่ได้กำไรกันเลยทีเดียว (คงหมายถึงว่าน้อยกว่าตัวอื่นมาก) อารมณ์แบบทำเอาโล่ไปก่อนค่ะ ให้ Brand มันติดตลาด พอคนรู้สึกว่า เห้ย! คอนโดที่ชื่อ Base มัน Work ง่ะ คือราคาถูก ซื้อไปแล้วขายต่อได้กำไร ปล่อยเช่าก็ดี ตลาดก็จะจดจำภาพนั้นแล้วก็จะเข้าไปซื้อ Base ตัวใหม่ๆ (แบบที่พวกเธอเห็นพวกนางไปต่อคิวจอง Park West จนแทบจะ sold out ตั้งแต่วันแรกกันนั้นแหละ) เป็นการวางแผนสำหรับกินยาวๆค่ะ อีกตัวอย่างที่ดีก็คงจะเป็นคอนโดใน Brand Haus ซึ่งตัวสร้าง Brand แรกก็คือ Hasu ที่ราคาเปิดตัวถูกมากและ spec อะไรก็ให้ของดี แถมส่วนกลางดูดีเลย แล้วก็เป็นอีกหนึ่ง Brand ที่ติดตลาด จนทำให้ Haus อีก 2 ตัวถัดมาอย่าง Mori Haus และ Taka Haus ขายดีไปเลยค่ะ

เราย้อนกลับมาที่ TC Development กันบ้างค่ะ เจ้ว่าคุณพี่ผู้บริหารแกก็คงรู้ตัวดีค่ะ ว่าได้รับโจทย์สุดยาก ที่จะต้องลบภาพอาแปะโล้สำเภามาจากเมืองจีนออกไปจากหัวคนไทย คนแล้วใส่ภาพเข้าไปใหม่เป็นหนุ่มหล่อลูกครึ่งสไตล์ฮ่องกง-อเมริกัน นักเรียนนอกสุด Hiso ที่เพิ่งเรียนจบได้ปริญญาโทด้าน Art มาจาก New York หรือ London (ฉันก็มโนไปเรื่อย 555) ซึ่งแน่นอนว่า One 9 Five นี้แหละที่จะตัวชี้ชะตาของนางค่ะ ฉะนั้นเจ้มั่นใจมากว่านางต้องทุ่มแบบสุดตัวแน่นอนค่ะ เพราะถ้าตัวนี้เกิดนะ ต่อไป TC Developer สบายเลย

เอาละ ก่อนจะไปเม้าว่า One 9 Five Asoke - Rama 9 จะมันมีอะไรใหม่และดีงามบ้าง เรามาทำความเข้าใจกับทำเลกันค่ะ ว่าทำไม๊ทำไม ทำเลอโศก - พระราม 9 มันจะ Hot อะไรขนาดนั้น

Location

ทุกคนคงได้ยินกันจนเบื่อแล้วว่าไอ้เจ้าแยก Asoke - Rama 9 นี้มันจะเป็น New CBD แห่งใหม่ของกรุงเทพฯ แต่ทุกวันนี้เจ้ยังเห็นบางคนใช้คำว่า CBD ผิดอยู่เลย อารมณ์แบบ มีตึกออฟฟิตอยู่ตึกนึงก็เรียก CBD ละ

CBD ย่อมาจาก Central Business District ค่ะ แปลว่า 'ศูนย์กลางย่านธุรกิจ' ซึ่งในบ้านเราที่เป็นศูนย์กลางจริงๆอยู่หลายจุดค่ะ ไม่ว่าจะเป็น สีลม-สาทร แล้วก็เส้นพหลตั้งตอนบน และอีกจุดที่เจ้มองว่าเป็นจุดที่ใหญ่ที่สุดเลยคือ สุขุมวิทตอนต้น+อโศก ซึ่งพอมันเป็นศูนย์กลางธุรกิจขนาดใหญ่แล้วเนี้ย พวกสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายมันจะต้องถูกสร้างมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับย่านนี้ค่ะ เพราะมันเป็นย่านสำคัญของประเทศชาติ ไม่ว่าจะเป็น Mass Transit อย่าง BTS, MRT และ Airport Link เป็นต้น

แต่ด้วยความที่ สุขุมวิทตอนต้น + อโศก มันเป็นศูนย์กลางย่านธุรกิจมานานและแน่นมากแล้ว แต่เมืองก็ยังต้องการการขยายตัว เราเลยจะเห็นว่าเหล่านักลงทุนก็ต่างพยายามหาที่ดินขนาดใหญ่เพื่อเข้าไปลงทุนทำอาคารสำนักงานเพิ่มเติมในทำเลถัดออกมา ซึ่งถ้าเรามองจากกายภาพแล้วเนี้ย มันก็มีแค่สุขุมวิทขาออก กับ เส้นอโศกยาวขึ้นไปถึงรัชดา แล้วก็พระราม 4 นี้แหละ ที่มันจะขยายออกไปได้

อันนี้เป็นรูปที่วางมาให้ดูแบบคร่าวๆนะจ๊ะ จากรูปจะเห็นได้ว่า

สำหรับสุขุมวิทขาออก เจ้คิดเอาเองว่าไม่ค่อยน่าสนใจสำหรับการจะทำแหล่งธุรกิจ เพราะมันกำลังวิ่งออกไปทางต่างจังหวัดละ ละแถวนั้นเป็นย่านชุมชนที่อยู่อาศัยจำนวนมาก มันแอบไม่ค่อยเหมาะยังไงไม่รู้ ก็เลยจะเห็นเป็นแค่ตึกออฟฟิตๆกระจายตัวไปตามเส้นสุขุมวิทค่ะ ไม่ได้รวมกันเป็นกลุ่มก้อนธุรกิจขนาดใหญ่แล้ว (ออกไปไกลสะงั้นหลุดจาก Map เลย 555)

เส้นพระราม 4 แลดูเหมือนจะน่าสนใจเพราะสามารถเชื่อมต่อกับสีลม-สาทรได้ แต่เจ้มองว่าถ้าเลยจากแยกคลองเตยไปแล้วการคมนาคมจะไม่ค่อยสะดวกละ แถมพอลากลงมาจากอโศกก็ติดที่ดินผืนใหญ่ๆหลายแปลงเป็นของหน่วยงานรัฐอีก ก็เลยเห็น Mage Project มาแบบเป็นก้อนๆ ที่สามารถขยายมาจากทางสาทรสีลมได้ แต่ไม่สามารถเชื่อมต่อกับอโศกได้ ฉะนั้นมันก็จะโตออกมาได้อีกไม่ได้มากเท่าไรค่ะ

อโศก-รัชดา เส้นนี้แหละ ถ้ามองจากกายภาพแล้ว work สุด เพราะสามารถยาวขึ้นไปได้เรื่อยๆจนไปบรรจบกับพหลโยธิน ตลอดทั้งเส้นก็มี MRT วิ่ง แถมยังสามารถขึ้นเป็นอาคารสำนักงานได้ตลอดสองฝั่ง บริเวณมักกะสันยังเป็นจุดเชื่อมต่อกับ Airport Link และไม่ไกลจากสนามบินสุวรรณภูมิอีก ซึ่งแน่นอนว่า ประเทศไทยไม่ได้เป็นประเทศร่ำรวยด้วยตัวเองนะคะ เรายังต้องอาศัยต่างชาติเข้ามาลงทุนอยู่อีกเป็นจำนวนมาก เรื่องพวกนี้ฝรั่งเค้าก็ concern ค่ะ

ย่านธุรกิจนั้น มันจะส่งผลต่อทำเลที่อยู่อาศัยในเรื่องของราคาค่ะ เพราะพอมันเป็นย่านธุรกิจแล้ว มันจะเกิด Traffic หรือการสัญจรในปริมาณมากทำให้ที่ดินในย่านนั้นมีราคาสูงรวมถึงที่อยู่อาศัยด้วย ซึ่งแน่นอนว่าถ้าเราเข้าซื้อในช่วงราคายังไม่สูงมากก็ย่อมเป็นเรื่องดีค่ะ แต่ก็ต้องคำนึงถึงว่าย่านนั้นมีอาหารการกินที่สมบูรณ์หรืออยู่ได้จริงด้วยไหม ไม่ใช่มีแต่ตึกออฟฟิตแล้วเสาร์-อาทิตย์ไม่มีอะไรกินก็ไม่ไหวนะคะ

วันนี้เจ้ก็จะพาไปเดินดูรอบๆที่ตั้งโครงการกันค่ะ ว่ามันจะหน้าตาเป็นไงอยู่ได้จริงไหม แล้วทำไมตัวนี้ถึงหน้าสนใจกว่าคู่แข่งรอบๆ ที่กำลังจะเปิดตัวปีหน้าเหมือนกัน แต่จะเน้นไปที่โครงการใหม่ๆนะคะ คงไม่พาไปเดิน Central หรือ ฟอร์จูน คงเห็นกันจนเบื่อละ 555

จะเห็นว่าโครงการอยู่ห่างจากสถานี MRT พระราม 9 แค่ 290 เมตรเท่านั้น และห่างจาก Central Plaza Rama 9 แค่ 450 เมตร ห่างจาก Airport Link เพียง 1 กิโลเมตร หรือ 1 สถานี MRT และห่างจากทางขึ้น-ลงทางด่วน 950 เมตรเท่านั้น บริเวณโดยรอบยังรายล้อมด้วย Mega Project อย่าง Grand Rama 9 ที่มีทั้งอาคารสำนักงานอย่าง Unilever ตึก G Tower ตึก The Ninth Tower ตึก Super Tower อีกทั้งพอลงมาบริเวณแยกอโศก-เพชรบุรีก็ยังมี Mix Used ขนาดใหญ่อย่าง The Singha Complex อีกที่จะเป็น Office ที่มีแต่บริษัท Inter ขนาดใหญ่ อีกทั้งไม่ว่าจะขึ้นไปทางรัชดาหรือลงไปทางอโศกก็ยังเต็มไปด้วยอาคารสำนักงานมากมายตลอดทั้งเส้นอีกด้วย

ถ้ามองจากหน้าโครงการไปทางอโศก จะเจอโครงการใกล้เคียงค่ะ ที่น่าจะเปิดตัวปีหน้านี้แหละ แต่เชื่อเจ้เถอะ ถึงราคาจะเปิดตัวมาพอๆกันนะ แต่เรื่อง spec เจ้เดาว่าไม่มีในห้องชุดสู้ทาง One 9 Five ได้แน่นอน เจ้านี้ก็รู้ๆกันอยู่ ไม่เชื่อไปดูดราม่าแถว อโศก-สุขุมวิทได้ แถมถ้าจะไป Central นางยังต้องวิ่งข้ามทางม้าลายอีก ไม่ค่อยปลอดภัยเท่าไรนะคะ

ส่วนเจ้าที่อยู่ติดกัน ได้ข่าวมาว่าเค้าไปคุยกันมาแล้วว่าจะวางตึกให้สับหว่างกัน จะได้ไม่บังกันเอง ส่วนเรื่องราคาเจ้ค่อนข้างมั่นใจว่า ของ TC น่าจะถูกกว่ามาก เพราะใครๆก็รู้ว่าหลังๆเจ้านี้ พอร่วมทุนแล้วมาแบบราคา New High ตลอด แต่นางอาจจะไปเล่นช่องวางในส่วนของห้องขนาด 27-35 ตรม. ที่ One 9 Five ไม่มีแทน

ฉะนั้นจะเห็นได้ว่า ถ้าเทียบกัคู่แข่งรอบๆแล้ว One 9 Five ชนะขาดทั้งในเรื่องของ Spec และราคา แต่อาจจะติดที่ขนาดห้องส่วนมากที่ค่อนข้างใหญ่ เพื่อเน้นจับกลุ่มคนอยู่อาศัยจริง

เดินมาเพียงประมาณ 50-100 เมตรก็จะเจอตึก Unilever ซึ่งจะมีส่วนของ retail ด้านล่าง หลายคนอาจจะแบบ ก็อยู่ใกล้ Central อยู่แล้วจะสนใจ retail พวกนี้ทำไม เจ้ก็ต้องบอกว่า อย่าลืมนะคะว่า central เปิด 10 โมงค่ะ ถ้าเธอเป็นพวกตื่นเช้าแล้วอยากกินกาแฟสักแก้ว จะให้รอห้างเปิดคงไม่ไหวมั้งค่ะ ก็ต้องอาศัยร้านพวกนี้แหละคะ แถมข้อดีของร้านอาหารตามตึกออฟฟิตคือพวกนางจะไม่ค่อยเจ้งเท่าไร ยังไงก็มีลูกค้าคนออฟฟิตมาแย่งกันกินแย่งกันใช้ตอนพักเที่ยงค่ะ แต่ตอนนี้อาจจะยังไม่ค่อยเปิดวันเสาร์-อาทิตย์กัน เพราะว่าคอนโดตรงนี้ยังไม่เยอะเท่าไร แต่ในอนาคตถ้าคอนโดเปิดกันหมดแล้ว (มีตั้งหลายตึกแนะฝั่งนี้) วันเสาร์-อาทิตย์ร้านค้าพวกนี้น่าจะเปิดกันแต่เช้าแน่ๆ

เราไปเดินดูตึกอื่นกันต่อค่ะ

เดินมาประมาณ 290 เมตร จะเจอทางลงรถไฟใต้ดินหน้าตึก G Tower ค่ะ บริเวณก็จะยังมีส่วนของ Retail อีกเช่นกันและยังเชื่อมต่อไปถึง Central Plaza Rama 9 ได้อีกด้วย

ทางเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าใต้ดินค่ะ ซึ่งแน่นอนว่าสามารถทะลุไปถึงฟอร์จูนและตึก CP Tower ได้อีก

เชื่อมต่อกับ Central Plaza Rama 9 ด้วยค่ะ

บริเวณแยกนี้ก็ยังเป็นย่านธุรกิจที่มีโอกาสขยายตัวสูงมากค่ะ และน่าจะยาวออกไปเรื่อยๆตลอดเส้นรัชดา

นี้เราก็มาเข้าเรื่องของโครงการ One 9 Five กันบ้างดีกว่า ว่า TC Development โฉมใหม่จะเป็นยังไงบ้าง

เรื่องแรกที่ดังมากตอนนี้ก็คงจะเป็นเรื่องของ Design ที่เชื่อว่าทุกคนคงจะโล่งอกมากที่ปีนี้มงไม่ลง TC แล้วค่ะ แต่ก็ยังไม่มีภาพ Perspective ตัวตึกหลุดออกมาให้เห็นกันสักที แต่งานนี้นางเล่าปล่อยรายชื่อเหล่า Designer ออกมาเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้ากันก่อนเลยค่ะ แถมยังเป็นเป็นบริษัทระดับชั้นนำของประเทศทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็น

Shma บริษัท Landscape Design ที่คว้ารางวัลมาแล้วมากมาย และยังออกแบบ landscape ให้กับโครงการดังๆมาแล้วเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็น VIA 31 ที่เพิ่งคว้ารางวัลเมื่อปี 2014-2015, 23° Escape ที่เขาใหญ่, Ashton Morph, Sari, Hasu, Burasiri เป็นต้น

ซึ่งสำหรับโครงการ One 9 Five นี้ทาง Shma ได้ออกแบบ Landscape บนที่ดินกว่า 8.6 ไร่ ภายใต้ Concept ‘Sustainable Future for Modern Living’ ให้ร่มรื่นสุดๆด้วยการจำลองภูมิศาสตร์ที่มีทั้งแหล่งน้ำและภูเขา (อันนี้เสริมฮวงจุ้ยปะนิ 555) ซึ่งแน่นอนว่า ตัวเนินเขานั้นจะช่วยสร้างความ Private จากอาคารโดยรอบ ให้ความเป็นส่วนตัวให้กับผู้ที่ใช้งานในบริเวณดังกล่าว เสมือนกำลังแหวกว่ายอยู่ในแหล่งน้ำธรรมชาติแบบ infinity edged pool ความยาว 100 เมตร ที่มีภูเขาโอบล้อมกลางใจเมือง

Leo International บริษัท Interior Design ระดับโลกที่มีผลงานการออกแบบตกแต่งภายในให้กับโรงแรมชื่อดังมาแล้วมากมายทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น Shangri-la, Kempinski, Hilton, Le Meridien เป็นต้น ซึ่งจะมาดูแลในการออกแบบตกแต่งภายในของส่วนกลางให้สวยงาม โอ่งโถง และหรูหราเหมือนได้พักอาศัยอยู่ในโรงแรม 5 ดาวในทุกๆวัน

ซึ่งที่ One 9 Five นี้จัดปริมาณส่วนกลางมาให้เยอะมากกก เยอะแบบมั่นใจว่าตอนดึกเสร็จนี้ได้เดินดูส่วนกลางแบบตื่นตาตื่นใจกันทั้งวันแน่ๆค่ะ (แอบเม้าว่าที่นางปล่อยออกมาตอนนี้คือแค่ 80% นะคะ อาจจะมีอะไรดีๆที่ยังไม่ปล่อยออกมาอีกก็ได้ค่ะ) ถ้าไม่เชื่อลองดูจาก List ส่วนกลางข้างล่างนี้ได้ค่ะ

นอกจากส่วนกลางจะเยอะมากขนาดนี้แล้ว ยังแยกมาให้เหมือนๆกันทั้งสองอาคารอีกด้วย ซึ่งบอกตรงๆว่าดูจากปริมาณส่วนกลางที่มากขนาดนี้แล้ว ไม่มีทางแออัดแน่นอนค่ะ แถมไม่ต้องลำบากข้ามไปใช้ของอีกอาคารด้วยค่ะ

ไม่เพียงแค่นั้น การนำเสนอสินค้าต่อลูกค้าก็ถือเป็นอีกหนึ่งรายละเอียดที่มีความสำคัญมาก เพราะเป็นการสร้างความประทับใจตั้งแต่แรกพบ ทาง TC Development เลยดึง PIA Interior มาช่วยออกแบบ Sales Gallery ที่จะเป็นเสมือน Flagship Store ขนาดใหญ่ของ Luxury Brand ให้สมกับการ re-branding ใหม่ของ TC Development ในครั้งนี้ด้วย

ซึ่ง PIA Interior สำหรับเจ้มองว่าเค้าเป็นเจ้าที่โดดเด่นมากในเรื่องของการออกแบบ Style New Luxury หรือนิยามความหรูหราของคนรุ่นใหม่ ที่ไม่ได้ Value แค่วัสดุที่หายากและมีราคาแพงเพียงอย่างเดียว แต่ให้ความสำคัญในเรื่องของกระบวนการคิดและการสื่อความหมายที่บ่งบอกเอกลักษณ์ของเจ้าของ เสมือนเป็นงานศิลป์ที่ทรงคุณค่าอีกด้วย (แปลง่ายๆว่า สวย เกร๋ และฉลาด ค่ะ) เจ้ขอบอกเลยว่า ตื่นเต้นมากจริงๆจะรอเข้าไปชม Sales Gallery ของจริง มั่นใจว่าต้อง WOW จนรูดปรื๊ดๆแบบไม่รู้ตัวแน่นอนค่ะ 555

นอกจากการวางทีมนักออกแบบระดับตัว Top แล้ว ทางโครงการยังมีอะไรให้ WOW กันอีกมาก ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบ Floor Plan ให้ประมาณ 60% เป็นเสมือนห้องมุม และมีห้องสูงสุดแค่ 18 ยูนิต ต่อชั้น พร้อมกับลิฟต์โดยสาร 6 ตัว + ลิฟต์ขนของ 1 ตัว เพิ่มความ Private ไปอีก

และเรื่องที่ WOW ที่สุดก็คงจะเป็นเรื่องของ Specification ที่ได้ยินมาว่า ความสูงเพดานห้องชุดคือ 2.7 เมตรที่มาพร้อมกระจกแบบ Full Height พื้น Engineering Wood! ชุดครัว RCD เป็นต้น(ทั้งนี้รอคอนเฟริมอีกทีตอน Sales Gallery เปิดตัวปีหน้านะคะ) แถมมีที่จอดรถมากถึงประมาณ 50% เลยค่ะ และทางโครงการแอบกระซิบมาว่า สำหรับใครที่ขี้เกียจออกไปล้างรถไกลๆ ในโครงการก็มีที่ล้างรถแบบหยอดเหรียญ เป็นโซนพิเศษ self-service car wash อยู่ภายในโครงการอีกด้วย (ภาพตัวอย่าง อาจจะคล้ายๆด้านล่าง)

สรุป

งานนี้สรุปกันง่ายๆแบบไม่ต้องยืดเยื้อเลยว่า นางหายไปรอบนี้ กลับมาแบบจัดเต็มมากจริงๆค่ะ (สงสัยแอบบินไปโมใหม่ที่เกาหลีมา) ทั้ง Spec ในห้อง นอกห้อง ส่วนกลาง นี้ขนาดแค่น้ำจิ้มนะคะ เจ้เชื่อว่าถ้า Sales Gallery สร้างเสร็จและมีภาพ Perspective พร้อม video product walk through ออกมาละก็ น้ำลายไหลกันเป็นแถวแน่ๆค่ะ

เรื่องอาหารการกินไม่ต้องห่วงเลย เพราะใกล้ห้าง ใกล้ Food Court มากมาย แถมด้วยความที่เป็นแหล่งออฟฟิตก็จะมีพวกตลาดเยอะมาก อย่างเช่น ตลาดร่มเปิด ตรงอาคารว่องวานิช, ตลาด อสมท, ตลาดละลายทรัพย์ รัชดา ซ.4 ซึ่งแต่ละที่อยู่ห่างจากโครงการไม่เกิน 500 เมตร แถมในโครงการเองมี shop มากถึง 27 shop ยังไงก็ต้องมีพวกร้านอาหารมาเปิดแน่นอนค่ะ

สำหรับราคาที่ทุกคนถามมา ตอนนี้เจ้ก็ทราบอยู่แค่ว่าราคาเริ่มต้นคือ 2.89 ล้านบาท ซึ่งห้องขนาดเล็กสุดก็คือ 25.5 ตารางเมตรนะคะ

แถมวงในยังเล่ามาอีกว่า จะมีรอบพิเศษสำหรับลูกค้าที่ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ ถ้าใครสนใจต้องรีบลงทะเบียนรอไว้ก่อนเลยค่ะที่ www.one9five.com

(Event @Park Hyatt วันที่ 10 ก.พ. 61 รอบลูกค้าเก่า TC, 11 ก.พ. 61 รอบลูกค้าลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์)

ที่สำคัญขายคนไทยก่อนต่างชาติด้วยนะ (ชอบตรงนี้แหละ)

ส่วนอันนี้เป็นของแถมพิเศษ ที่เพิ่งได้มาตะกี้นี้เลยจ้า


 
 
 

Comments


bottom of page