top of page

The Tree ลาดพร้าว 15 – มนุษย์เงินเดือนซื้อได้ ใกล้ทั้ง BTS MRT และ Central Plaza ลาดพร้าว

  • Sukrit Udom
  • Jan 18, 2018
  • 3 min read

สารภาพตามตรงเลยคะ ว่าตอนแรกที่ได้ยินชื่อโครงการนี้ ตอนแรกก็แอบเฉยๆนะ เพราะคอนโดรอบๆ MRT สถานีลาดพร้าวราคาค่อนข้างสูงมากคิดว่าตัวนี้คงแพงแน่ๆ จนกระทั้งมีคนหลังไมค์มาถามถึงคอนโดตัวนี้ ด้วยนิสัยชอบเผือกของเจ้ก็เลยต้อง Google Map ดู location สะหน่อย พอดูไปดูมา เอ๊ะ! ทำไมมันใกล้ Central Plaza ลาดพร้าวอ่ะ ด้วยความที่แต่ก่อนเจ้ขับรถแล้วจะชอบส่องดูว่ามันมีซอยลัดไปทะลุออกไหนได้บ้างไหม เลยลองไล่ดูไปเรื่อยๆค่ะ ปรากฏว่ามันไปทะลุออกด้านหลังของ Tesco Lotus ที่สามารถทะลุไปออกทางถนนพหลโยธินได้ด้วย ความน่าสนใจของโครงการนี้เลยพุ่งพรวดขึ้นทันทีค่ะ เพราะเท่ากับว่า นี้มันใกล้ทั้ง BTS, MRT, Central ลาดพร้าว, Tesco Lotus, Big C และ Gourmet Market เลยนะ แต่ราคาเริ่มต้นแค่ 1.49 ล้านบาท

เราลองมาดูช่วงราคาของคอนโดตัวนี้กันก่อนค่ะ เท่าที่เจ้ลองจิ้มๆราคามาหลายๆวิว จะพบว่า ถ้าเลือกวิวด้านนอก จะมีราคาแบบตารางเมตรละ 7x,xxx บาท แต่ถ้าวิวด้านในจะราคาสูงขึ้นมาค่ะ เพราะเป็นวิวที่ Safe จริงๆเริ่มต้นประมาณ 8 หมื่นกว่าบาทค่ะ แต่ว่าจองกันเต็มไปหมดแล้วค่ะ แต่ด้วยข้อดีของสิ่งแวดล้อมรอบๆที่เต็มไปด้วยบ้านคนรวยที่มีสวนขนาดใหญ่และต้นไม้ร่มรื่นเยอะมาก ทำให้วิวด้านนอกค่อนข้าง ok เลยค่ะ (เดี๋ยวเจ้จะพาทัวร์ดูรอบๆตอนท้ายนะคะ) ตอนนี้ขอกลับมาที่เรื่องราคาก่อนค่ะ คือมีห้องวิวด้านนอกที่อยู่ในช่วงราคาประมาณ 2 ล้านหรือต่ำกว่าค่อนข้างเยอะนะคะ ซึ่งเป็นช่วงราคาที่มนุษย์เงินเดือนแบบเธอๆเจ้ๆหาซื้อกันได้อยากสะดวกผ่อนแบงค์แล้วมีเงินเหลือกินเหลือเที่ยวได้ไม่ลำบาก ซึ่งถ้าคำนวนแล้ว เงินเดือนที่เจ้แนะนำคือช่วงเงินเดือนประมาณ 4 หมื่นบาทขึ้นไปค่ะ (คือผ่อนแบงค์แล้วไม่ลำบากนะคะ) ซึ่งถ้าดูราคาคอนโดรอบๆนี้แล้ว (ขออ้างอิงราคาปัจจุบันจาก hipflat.com นะคะ) จะเห็นได้ว่าคอนโดที่เป็นแบรนด์ใหญ่แล้วราคาประมาณ 2 ล้านนี้หายากมาก

ทีนี้เราลองมาดูย่านออฟฟิตรอบๆนี้กันบ้าง จะเห็นได้ว่ารอบๆนี้มีย่านออฟฟิตค่อนข้างเยอะอยู่ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นย่านอารีย์ลงไป หรือหมอชิต ห้าแยกลาดพร้าว พหล 24 หรือจะไปทาง MRT อย่างเส้นรัชดาที่ยาวลงไปถึงอโศก และด้วยข้อด้อยของทำเลที่เป็นคอนโดในซอย ก็เลยเกิดเป็นข้อดีสะงั้น ที่ดันไปใกล้กับทางออกไปขึ้น BTS ได้สะงั้นแหละ ซึ่งเป็นข้อดีสำหรับมนุษย์เงินเดือนมากค่ะ ซึ่งถ้าวันนึงต้องย้ายบริษัทสมมติว่าจากที่เคยใกล้ BTS อยู่ๆไปใกล้ MRT ก็ทำให้ ไม่ต้องหาที่อยู่ใหม่ให้วุ่นวายด้วยค่ะ

แถมที่สำคัญสำหรับคอนโดอยู่อาศัยจริง การมีคอนโดอยู่ใกล้ห้างโดยเดินทางเพียงต่อเดียวได้ มันเป็นอะไรที่ดีมากกก

ทีนี้ก็จะติดปัญหาแรกค่ะ คือ ขากลับเข้าคอนโดอะง่ายนะ เพราะหน้า MRT BTS มีวินมอไซค์อยู่แล้ว อย่างหน้า MRT ทางออก 3 เนี้ย เจ้ไปลองถามพี่วินมาแล้วค่ะ ราคาอยู่ที่ 15 บาท (ถูกกว่าอ่อนนุชบ้านเจ้อีก คิดตั้ง 25 บาทแนะ) ส่วนฝั่งพหล ตอนนี้มันยังไม่มี BTS (น่าจะเสร็จปี 62 พอๆกับคอนโดสร้างเสร็จพอดี) เลยยังไม่ได้ไปถามพี่วินค่ะ

แต่ขาออกไปทำงานละ จะออกไปยังไง?

อันนี้จากประสบการณ์ตรงที่เจ้อยู่คอนโดที่ห่างรถไฟฟ้า 1.2 กิโลเมตรค่ะ คนในย่านนั้นจะใช้ Shuttle Bus ของโครงการไปส่งที่ BTS กันค่ะ เพราะเราจะรู้เวลาที่แน่นอนอยู่แล้วว่าจะออกช่วงไหน ทำให้ไม่มีปัญหาในการออกไปทำงานเลยค่ะ

พอเจอหน้า Marketing ของโครงการ เจ้ก็เลยถามก่อนเลยค่ะ ซึ่งทางการตลาดก็แจ้งมาว่า เค้าก็ได้ไปทำการบ้านในเรื่องนี้มาเหมือนกัน ก็เลยสรุปกันว่าจะมี Budget ให้ 1.3 ล้านบาท สำหรับให้โครงการไป Manage ในเรื่องนี้ ซึ่งตามใจเลยว่าจะซื้อรถอะไร แล้วทำ route วิ่งยังไง (ส่วนตัวแอบเชียร์ให้วันไปลงหน้า Lotus ได้ด้วยจะเริศมาก เพราะเท่ากับว่าลูกบ้านจะเดินแค่ 150 เมตรจากหน้า Tesco Lotus ก็ถึง BTS และ Central ลาดพร้าวแล้ว) ซึ่งทางโครงการแจ้งมาว่าลูกค้าไม่ต้องเป็นกังวลเลยค่ะ เพราะเค้าจะแนบรายละเอียดไปในท้ายสัญญาจะซื้อจะขายมาให้เลย สบายใจได้เลยค่ะงานนี้

อีกทั้งที่ดินของโครงการยังเป็นที่ดินขนาดใหญ่ยาวทะลุทั้งสองซอย ซึ่งถ้าหากโครงการทำทางให้มีทางคนเดินออกด้านหลังได้ ก็จะสะดวกขึ้นมากสำหรับการเดินไปฝั่งพหลโยธินค่ะ

เดียวเราลองไปดูรายละเอียดโครงการและห้องชุดกันบ้าง แล้วตอนจบเจ้จะพาเดินทัวร์ดูรอบๆโครงการนะคะ

Sales Gallery โครงการจะตั้งอยู่ที่ซอยลาดพร้าว 5 ค่ะ

โครงการ The Tree ลาดพร้าว 15 เป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้นค่ะ มีจำนวนห้องพักทั้งหมดแค่ 214 ยูนิต บนที่ดิน 1-2-92ไร่ ห้องชุดเป็นแบบ studio และ 1 ห้องนอน ขนาดตั้งแต่ 22.30 – 30.30 ตารางเมตรค่ะ

สิ่งแรกที่เจ้ชอบเลยคือ ส่วนกลางที่ให้มาใหญ่นะ สำหรับคอนโด 214 ยูนิต แถม Lobby ยังจะอุตส่าห์ให้แบบเพดานสูงอีก และยังมี Glass House ที่สามารถนั่งพักผ่อนชมวิวสวนตามยาวได้ งานตกแต่งภายในจะเป็นสไตล์ Modern Classic ซึ่งน่าจะถูกใจคุณสาวๆค่ะ

สำหรับวัสดุที่ใช้ตกแต่งภายในทางโครงการแจ้งว่าใช้เป็นหินอ่อนค่ะ ซึ่งตอนแรกที่เจ้เห็นรูป Perspective เจ้ก็แอบคิดว่าแบบ เชื่อได้ป่าวหว่า แต่พอนางมีตัวอย่างหินมาตั้งขนาดนี้ ก็ค่อยสบายใจขึ้นมาหน่อยคะ

โดยถ้าดูจากในรูป หินตัวแรกชื่อ White Volakas ทางโครงการจะเอามาวางลายแบบ book match บริเวณโถงลิฟตามรูป Perspective ด้านบนค่ะ

หินตัวที่สองที่ชื่อ White Carrara ตัวนี้เอามาใช้ปูพื้นค่ะ

และตัวสุดท้ายที่ชื่อ Onyx เป็นหินโปร่งแสง จะเอามาตกแต่งบริเวณสาระว่ายน้ำค่ะ คือเวลาเย้นๆค่ำๆ เค้าจะเปิดไฟที่ซ่อนไว้ด้านหลังหิน ทำให้หินดูเรืองแสงออกมา เพื่อความสวยงามไฮโซค่ะ

หินที่เห็นในรูปที่ปลายสระนั้นแหละคะ คือหินอ่อนโปร่งแสง Onyx

สระว่ายน้ำโครงการเป็นแบบน้ำเกลือนะคะ แต่แอบตินิดนึงว่าความยาว 15 เมตรมันสั้นไปหน่อย ตัวต่อๆไป อยากให้เค้าให้มาสัก 25 เมตร จะกำลังดีมากๆเลยค่ะ

ข้างๆสระว่ายน้ำจะเป็นฟิตเนสและห้องน้ำฟิตเนสค่ะ ส่วนชั้นสองทำเป็นสวนสำหรับนั่งพักผ่อน

ชั้น 8 ยังมี co-working space และบันไดเพื่อขึ้นไปสวนดาดฟ้าได้อีกค่ะ

แค่นี้เจ้ก็แอบยิ้มละนะ แบบเห้ย คอนโดยุคนี้ราคาเฉลี่ยแค่ 2 ล้าน ให้ขนาดนี้คือ ok เลย

เราไปดูห้องตัวอย่างกันต่อค่ะ ทางโครงการมีห้องตัวอย่างให้ดู 1 แบบ คือแบบ 30.30 ตารางเมตร

จากรูปนี้จะเห็นได้ว่า ระยะห่างจาก sofa ถึงทีวีค่อนข้าง ok เลย เจ้ลืมถามมาว่ากี่เมตร แต่น่าจะประมาณ 3 เมตร +/- ค่ะ อีกทั้งแปลนห้องครัวปิดแบบนี้ ค่อนข้างเป็นที่นิยมมากสำหรับกลุ่มผู้ที่มองหาคอนโดราคานี้ ส่วนความสูงเพดานอยู่ที่ 2.5 เมตรค่ะ

ถ้าเป็นห้องมุม จะมีห้องต่างข้างให้ด้วยละ

Top ชุดครัวเป็นหินสังเคราะห์ค่ะ ส่วนอ่างล้างจาน เตาเซรามิค และ hood ดูดควันของ Franke ผนังบริเวณชุดครัว และพื้นห้องครัวเป็นแกรนิตโต้ลายหินอ่อน ห้องชุดเป็นแบบ Fully Fitted นะคะ คือมีครัว ห้องน้ำ ตู้เสื้อผ้า แอร์มาให้

Hood ดูดควันต่อท่อออกไปข้างนอกนะคะ

งานเฟรมทั้งหมดจะเป็นสีอลูมิเนียมค่ะ

พื้นเป็นลามิเนต 8 มิลสีอ่อนออกเทาๆหน่อยค่ะ เป็นสีที่ดูแพงดีนะ เจ้ว่า

โครงการบิ้วตู้เสื้อผ้ามาให้เลยค่ะ แอบดีอยู่นะ ไม่ต้องไปนั่งหาช่างบิ้วให้ปวดหัว เพราะงานเล็กๆเค้าก็ไม่ค่อยรับกันอีก

ห้องเป็นแบบสำเร็จรูปค่ะ โดยจะมีช่อง Service อยู่ด้านหลังชักโครก

ทีนี้เราไปดูรอบๆโครงการกันบ้างค่ะ สำหรับฝั่ง BTS ทุกคนก็คงจะรู้อยู่แล้วว่าใกล้กับ Central ลาดพร้าวและ Tesco Lotus แถมตอนนี้ BTS ก็ยังสร้างไม่เสร็จ (เค้าบอกว่าจะเสร็จปี 62 นะคะ) ส่วนฝั่ง MRT ก็เพิ่งจะเปิดตัวกันไปกับ Gourmet Market ที่อาคารจอดแล้วจร ซึ่งถือว่ามาช่วยทำให้ MRT ลาดพร้าวนี้ มีความอุดมสมบูรณ์ขึ้นมากทีเดียวค่ะ (เพื่อนที่อยู่ Chapter One Midtown บอกว่า พอมี Gourmet Market แล้วชีวิคดีมาก นาง Happy มากคะ)

ถ้าจะไป Gourmet Market ต้องไปทาง ทางออก 4 อันที่บอกว่าไปอาคารจอดแล้วจรนะคะ ส่วนคอนโดออกทางออก 3 จะใกล้กว่าค่ะ

พื้นทางเดินจะมี Sticker บอกเป็นระยะๆค่ะ

เปิด 7 โมงเช้าถึง 4 ทุ่มค่ะ

มีของกินเยอะอยู่นะ เหมาะกับชีวิตชาวคอนโดค่ะ ส่วนใน Supermarket ของ Gourmet Market นางมีโปรบ่อยมากกก เจ้ซื้อของ Gourmet ประจำค่ะ เพราะรวมๆแล้วถูกกว่าที่อื่น ยกเว้นพวกของสดเพราะนางจะมีแต่ของคุณภาพดีมากเลยจะแพงขึ้นมานิดนึง

ถ้าออกมาทางทางออก 3 จะมีวินมอเตอร์ไซค์จอดรออยู่ค่ะ เจ้ลองถามราคาดู ถ้าเข้าไปที่ลาดพร้าว 15 แยก 7 อยู่ที่ 15 บาทค่ะ

รอบๆสถานี มีคอนโดเยอะค่ะ แต่ราคาวันนี้อยู่ที่ตารางเมตรละ 12x,xxx บาทต่อตารางเมตร (อ้างอิงจากราคาเฉลี่ยใน hipflat.com) อย่างโครงการ Chapter One Midtown ลาดพร้าว 24 ราคาเฉลี่ยวันนี้อยู่ที่ 132,242 บาทต่อตารางเมตรค่ะ เจ้ลองพยายามหาห้องที่ราคาถูกที่สุดอยู่ที่ตารางเมตรละ 115,113 บาท หรือ 2.8 ล้านบาทสำหรับห้องขนาด 24 ตารางเมตรค่ะ (ซึ่งมีอยู่ห้องเดียวใน hipflat.com และเจ้ยังไม่ได้ลองโทรไปถามนะคะ ว่ายังอยู่ไหม ส่วนห้องอื่นๆส่วนมากจะอยู่ราคาประมาณตารางเมตรละ 120,000 – 140,000 บาทค่ะ) แปลว่าถ้าเธอมี Budget ในการซื้อคอนโดที่ 2 ล้านบาท ก็ไม่มีทางซื้อได้แน่นอนค่ะ ส่วนบนถนนลาดพร้าวก็จะมีร้านอาหารอยู่ตามทางเรื่อยๆเลยค่ะ

รวมถึงอยู่ไม่ไกลจาก Big C ด้วยค่ะ (300 เมตรจากปากซอยลาดพร้าว 15)

ที่นี้เราลองเข้าไปดูในซอยกันบ้างค่ะ จะได้ดูบรรยากาศรอบๆโครงการ อันนี้จะเป็นทางเข้าฝั่งลาดพร้าว 15 นะคะ

ตรงนี้ทางแยกที่ถ้าตรงไปคือซอยลาดพร้าว 15 แยก 7 ซึ่งเป็นด้านหน้าของโครงการค่ะ ถ้าเลี้ยวขวาจะเป็น ซอยลาดพร้าว 15 แยก 9 ซึ่งเป็นทางด้านหลังของโครงการ และสามารถไปออกทางพหลโยธินได้ค่ะ

จะเห็นได้ว่าบรรยากาศในซอยจะเต็มไปด้วยบ้าน 2-3 ชั้น ซึ่งส่วนมากเป็นบ้านขนาดใหญ่ (น่าจะรวยนะ) ที่มีพื้นที่สวนและต้นไม้ใหญ่ค่อนข้างร่มรื่นคะ แต่จะไม่ได้ครึกครื้นเหมือนอยู่คอนโดริมถนนใหญ่คะ มันจะได้อารมณ์เหมือนอยู่บ้านหรืออยู่หมู่บ้านมากกว่าค่ะ ซึ่งข้อดีก็คือเรื่องของวิวค่ะ ที่ไม่ค่อยจะโดน Block โดยฉพาะวิวด้านหลังนี้ เขียวร่มรื่นมากๆค่ะ

อันนี้เจ้เอารูปจาก Google Map มาให้ดูคะ รอบๆจะเป็นบ้านคนสูง 2-3 ชั้น ส่วนวิวที่เจ้อยากแนะนำคือวิวด้านหลังค่ะ เพราะต้นไม้สูงและร่มรื่นมากๆ แต่ราคาอาจจะขยับขึ้นมานิดนึงเพราะเป็นทิศตะวันออกค่ะ

ซึ่งที่ดินของโครงการจะยาวทะลุมาถึงซอยลาดพร้าว 15 แยก 9 ด้วย ทางโครงการออกแบบให้ห้องพักขยะอยู่ด้านหลังเจ้เลยไม่แน่ใจว่าเค้าอาจจะทำประตูคนเดินเข้าออกด้านหลังด้วยไหม สำหรับให้รถขยะมาเก็บขยะได้ ซึ่งมันก็จะเป็นข้อดีได้ค่ะ เพราะจะทำให้ระยะทางเดินไปออกทางถนนพหลโยธินใกล้มากขึ้น ถ้าไปถึงท้ายโลตัสหน้าจะประมาณ 1 กิโลเมตรค่ะ ถ้าถึง BTS หรือ Central อาจจะอยู่ที่ 1.2 กิโลเมตรโดยประมาณ

แต่ถ้าไม่มีทางออกด้านหลังก็จะต้องเดินอ้อมประมาณ 400 เมตรค่ะ

ทีนี้เราลองไปดูทางออกฝั่งพหลโยธินกันบ้างค่ะ แต่คราวนี้เจ้จะนั่งรถยนต์ไปนะคะ เพราะอยากรู้ว่าสามารถขับรถยนต์ทะลุไปออกเส้นพหลโยธินได้ไหม ทาง Tesco Lotus เค้าเก็บเงินค่าผ่านทางหรือเปล่าค่ะ

ตลอดทางจะเห็นอพาร์ทเม้นและ Office ขนาดเล็กเยอะมากค่ะ ฝั่งนี้จะมีร้านอาหารตามสั่งอยู่ตามทางประปรายค่ะ

จะมาเจอทางเข้าด้านหลัง Tesco Lotus ค่ะ

สามารถทะลุออกด้านหน้าได้นะคะ ไม่เสียเงินค่ะ ซึ่งถ้าทางโครงการให้เงิน 1.3 ล้านบาทมาซื้อรถรับส่งตามที่ทาง Marketing โครงการบอกมานี้ สมมติเอาเป็นรถสามล้อ 2 คัน คันนึงวิ่งส่งลาดพร้าว อีกคันวิ่งพหลนี้คือชนะเลิศมากอะ กับราคาห้องเฉลี่ยแค่ 2 ล้านแต่เข้าออกได้ทั้ง BTS และ MRT (แค่ idea เฉยๆนะจ๊ะ)

สรุป

บรรยายมาสะขนาดนี้แล้ว เราก็สรุปกันสั้นๆเลยละกันค่ะว่า ถ้ามี Budget ประมาณ 2 ล้านหรือต่ำกว่า แต่อยากได้คอนโดที่ไม่ไกลเมืองมาก แถมเดินทางเข้า Business ได้สะดวกในหลายจุด อีกทั้งใกล้ทั้ง BTS, MRT, Tesco Lotus, Big C และ Gourmet Market ส่วนกลางค่อนข้าง ok ก็คงไม่ค่อยมีตัวเลือกเยอะมากนักสำหรับแถวนี้ค่ะ ไม่งั้นอีกทีก็ไปนู้นนนนแถวสะพานใหม่นะคะ

ปล เค้าบอกมาว่าห้องราคาตั้งแต่ 2 ล้านลงมามีเยอะอยู่นะคะ แถมตอนนี้ EIA Approve แล้วค้า ทางโครงการก็เลยเข้าเคลียพื้นที่เตรียมก่อสร้างแล้ว

สนใจก็ลงทะเบียน Online ไปก่อนเพื่อรับส่วนลดเพิ่มสูงสุดถึง 100,000 บาท* ที่

หรือโทร 1739 เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจ้า


 
 
 

Comments


bottom of page