top of page

ปล่อยเช่าต้องรู้! กับคุณบลู SpaceFinder

  • Sukrit Udom
  • Feb 1, 2018
  • 3 min read

หลายคนอาจจะแบบ คุณบลูนี้ใครฟร่ะ? แล้วทำไมช้านต้องเชื่อนาง?

คุณบลู เป็น agency ห้องเช่าชาวต่างชาติโดยเฉพาะย่านพร้อมพงษ์ – อ่อนนุช เป็น agency จนรุ่งขนาดเปิดบริษัทมาทำจริงจังกันเลยทีเดียวค่ะ ตอนแรกเจ้ก็ไม่ได้รู้จักคุณบลูหรอกค่ะ แต่เห็นนางมาเม้นเม้ามอยบ่อยๆในเพจ จากนั้นไม่นานก็เห็นนางไปตอบคำถามเรื่องห้องเช่าไว้ในห้อง Fight Club ด้วยนิสัยขี้เผือกของเจ้ ก็เอาชื่อนางไปเม้าสิค่ะ (จะเหลือรึ 555) ซึ่งมีแต่คนบอกว่า คุณบลูแกช่วยปล่อยมาหลายห้องละ เจ้เลยไม่รอช้า รีบไปขอสัมภาษณ์มาแชร์ความรู้ให้ได้ฟัง ใครสนใจลงทุนปล่อยเช่าจะได้ไม่หวยผิดเบอร์ เดียวจะเจ็บใจแบบช้าน 555

เนื่องจากเราไปขอรบกวนเค้ามาให้สัมภาษณ์เราฟรีๆแล้ว เราก็ต้องช่วยโปรโมต (ช่วยเค้าทำมาหากินนิดนึง 555)

ใครต้องการที่ปรึกษาปล่อยเช่าคอนโดย่านพร้อมพงษ์ – อ่อนนุช ติดต่อนางได้นะคะ

โทร 089 050 5525 (Line ID ก็เบอร์เดียวกันนี้แหละคะ)

Email: Tudchapon.a@icloud.com

Facebook: SpacefinderTH

เอาละ ถึงเวลาเข้าสู่เนื้อหาสาระกันแล้ว เตรียมกระดาษปากกามาจดโล้ดค้า!

เจ้ : อยากให้อธิบายลักษณะของลูกค้าที่จะมาเช่าคอนโดในไทยหน่อยค่ะ

คุณบลู : ลูกค้าจะมีสองแบบครับ พวกแรกคือมาถึงเมืองไทยแล้วไม่รู้อะไรเลย ซึ่งกลุ่มนี้มาใหม่ ก็จะต้องเช่าอยู่เลยอย่างน้อย 1 ปี ขอติดรถไฟฟ้าไว้ก่อน BTS ไหนก็ว่ากันไป ส่วนอีกกลุ่มคือทำการบ้านมาแล้ว มาถึงก็จะรู้จักแต่สุขุมวิท จะอยู่สุขุมวิทเท่านั้น หรือมีเพื่อนแนะนำกันมาว่าอยู่แถวนี้แล้วดี

เจ้ : ทำเลตั้งแต่ อโศก ถึง อ่อนนุช เนี้ย มีทำเลไหนไหม ที่ลูกค้าแบบไม่เอาเลย หรือมีคนเช่าน้อย?

คุณบลู : อย่างซอยคาวบอยเนี้ย ฝรั่งไม่ชอบเลยเพราะเสียงมันดังและไม่ใช่ residential area เคย Offer ห้องแถวๆนั้น ลูกค้าบอกว่าอยากสะดวกแต่ไม่ได้อยากไม่สงบขนาดนั้น แต่ญี่ปุ่น ok นะ ลูกค้าหลายคนเลยจะมาอยู่พร้อมพงษ์ ทองหล่อ ซอย 36-38 อะไรแบบนี้ แต่ทุกอย่างก็ขึ้นกับประสบการณ์ของแต่ละคนด้วย คือไม่ทุกคนที่ชอบอะไรเหมือนๆกัน แล้วอีกอย่างที่ลูกค้าไม่เอาเลยคือ มาถึงแล้วเจอกำลังก่อสร้าง ไม่เอา อยู่แล้วเสียงดัง ไม่เอา อันนี้คือสิ่งที่ลูกค้าจะยี้แน่นอน (ที่ยี้เพราะถ้าเซนต์เช่าห้องไปอย่างน้อยต้องอยู่ 6 เดือนหรือ 1 ปี เสียตังแล้วต้องปวดประสาทน่าจะไม่ไหว) [if !supportLineBreakNewLine] [endif]

เจ้ : แล้วพระโขนง เป็นอย่างไรบ้าง?

คุณบลู : แต่ก่อนลูกค้าเฉยๆนะ แต่พอมี Summer Hill มาเนี้ย เค้า ok ละ ซึ่งกลุ่ม Expat เนี้ยส่วนมากที่มา ไม่รู้อะไรเลย อย่างน้อยก็ขอให้มี 7-11 เป็นอย่างน้อยใกล้ๆ เรื่องปากท้องเป็นเรื่องสำคัญ บางคนไม่ทำกับข้าว ส่วนบางคนที่ทำกับข้าวก็ต้องขอแบบใกล้ตลาด ใกล้ Supermarket ครับ

เจ้ : แอบเม้ามอยเพื่อนต่างชาติที่เช่าอยู่ทองหล่อในซอยลึกๆ แต่นาง Happy มากเพราะของกินเพียบ

คุณบลู : แสดงว่าคนนี้เค้าอยู่ในไทยมานานแล้วใช่ไหมครับ Nature คนที่อยู่มานานเนี้ย จะเริ่มรับได้กับทำเลไกลรถไฟฟ้าละ ถ้าไกลแล้วได้ห้องกว้าง ราคาไม่แพง ยอม แต่พวกมาใหม่เนี้ย เอาใกล้ก่อน เอาสะดวกก่อน สักพักพอเรียนรู้แล้วค่อยเขยิบไปไกลหน่อย

เจ้ : กลับมาเม้าที่พระโขนงต่อ

คุณบลู : คือพระโขนงเนี้ย choice มันไม่เยอะไง อย่างก่อนหน้านี้ก็มี skywalk แต่ราคามันเปิดมาแรงไง คอนโดย่านพระโขนงเนี้ยไม่ควรเกิน 20,000 อันนี้ผมเอามาจากคนส่วนมากที่มาถามอะนะ ถ้าไม่เกิน 20,000 เค้ารับได้ แล้ว choice 20,000 ตอนนี้มีอะไร มี The Line, The Bloom, Wyne ตอนนี้มี Life 48 กับ Aspire แต่เขยิบออกไปไกลหน่อย

เจ้ : งั้น Factor แรกที่ลูกค้า Concern คือราคาหรือทำเล?

คุณบลู : ผมว่า ขึ้นอยู่กับ Group คือถ้าแบ่งจริงๆแล้วเนี้ย มันจะได้ 2 กลุ่ม กลุ่มแรกคือพวก Price Sensitive เนี้ย คือพวกที่ไม่เกิน 15,000 คืออย่างถ้าเช่า 15,000 แล้วอยู่พระโขนง ไม่ต้องมีอะไร ok เอา แต่พอเริ่มขยับขึ้นมา 20,000 เนี้ย จะเริ่มมีความคาดหวังมากขึ้น ห้องต้องมีอะไรมากขึ้น Facility ต้องดีขึ้น กลุ่มนี้จะเริ่มทำการบ้านมาละ ว่า budget เท่านี้เค้าอยู่ตรงไหนได้บ้าง ทองหล่ออยู่ได้ เอกมัยอยู่ได้ พร้อมพงษ์อยู่ได้ แต่ว่าต้องเก่าหน่อย

เจ้ : ถ้าสมมติลูกค้ามี Budget 20,000+ หลักการในการเลือกทำเลของลูกค้าคือยังไง

คุณบลู : ผมว่าเค้าจะดูทำเลก่อน ทุกวันนี้เวลาพูดพร้อมพงษ์ ทองหล่อ เอกมัย เค้ารู้จักอยู่แล้ว อย่างพร้อมพงษ์เค้าจะรู้ว่ามันเป็นแหล่งที่แพงที่สุด ของแพงสุด ทองหล่อนี้เป็นพวก night life ยิ่งพวกชอบ night life จะเอาฝั่งสุขุมวิทเลขคี่เท่านั้น ส่วนฝั่งเลขคู่จะเป็นพวกชอบความสงบ จริงๆผมก็เจอปัญหานะ อย่างคอนโดเก่าที่เกิน 3-4 ปี ถ้าเจ้าของไม่ปรับปรุงหรือนิติไม่ค่อยสนใจนะ ปัญหาจะตามมาเยอะมาก ฉะนั้นคอนโดใหม่จะปัญหาน้อยกว่ากรณีไปปล่อยเช่า (หมายถึงหลังจากที่ผู้เช่าเข้าอยู่แล้ว)

เจ้ : แบบนี้ถ้าแบ่งด้วยราคา คือเราสามารถเป็นสองกลุ่ม คือ พร้อมพงษ์ – เอกมัย / พระโขนง – อ่อนนุช ได้ใช่ไหม?

คุณบลู : ใช่ๆ ที่ผม Focus 2 อันเนี้ย เป็นย่านที่มีคนถามทุกวัน ไม่ใช่แค่ลูกค้าผมนะ agent เจ้าอื่นๆก็โดนถามตลอด มันมีความต้องการทุกวันจริงๆ

เจ้ : แล้วคิดว่า พระโขนง อ่อนนุช เป็นยังไง

คุณบลู : ผมว่าอ่อนนุชเป็นย่านวัยรุ่นนะ ตั้งแต่เริ่มทำงาน 22 ไปจนถึงประมาณ 35 และกลุ่มพระโขนง กับ อ่อนนุช จะมีพฤติกรรมคล้ายๆกัน คือตอนนี้ต่างชาติรู้จักพระโขนง อ่อนนุชละ ว่าห้องแถวนี้ affordable จ่ายได้ จ่ายไหว ทำเลปลอดภัย ส่วนทำเลที่เลยอ่อนนุชไป หลายคนยังไม่ค่อยมั่นใจ อย่างถ้าพูดชื่อบางจาก หลายคนไม่รู้จักบางจาก ซึ่งถ้าอีก 3-5 ปี มีคอนโดขึ้นเยอะ มีห้างขึ้น ลูกค้าอาจจะแบบ ok ฉันยอมไปอยู่บางจาก ซึ่งจริงๆมันแค่สถานีเดียว

เจ้ : สิ่งที่คนเช่า concern 3 อันดับแรกคืออะไร

คุณบลู : พวกมาเดี่ยวก่อน ถ้า budget จำกัด ราคามาก่อน จากนั้นก็ size ห้องได้ป่าว ซึ่ง size ที่รับได้คือ 30 up ถ้า size เล็กกว่านั้นจะต้องถูกชดเชยด้วยทำเลที่ดีกว่า เช่นใกล้ BTS หรือเป็นทำเลที่แพง ตามมาก็ต้องใกล้ร้านสะดวกซื้อ มีร้านอาหารกินแถวนั้น ส่วนที่จะเพิ่ม Value ของตัวห้องคือต้องมีของให้ครบ เช่นผ้าปูที่นอน ผ้าห่ม จาน ชาม ช้อน ซ่อม บางทีลงทุนไม่กี่บาท แต่เวลาลูกค้ามาดูห้องแล้ว ok เพราะว่าฉันไม่ต้องลงทุนเพิ่ม

เจ้ : การแต่งห้องมีผลไหม

คุณบลู : ผมว่าห้องที่ปล่อยง่ายสุดคือห้องที่แต่งเรียบๆ แต่มีของครบ แล้วดูสะอาด ดู Bright คือทุกคนชอบห้องที่โล่งๆเรียบๆของครบหมายถึง เครื่องใช้ไฟฟ้า ที่นอน หมอน ผ้าห่ม โซฟานิ่มๆ ไม่ต้องแต่งเยอะ อาจจะมีรูปแขวนห้องให้ดูไม่โล่ง แต่ถ้าเป็นกลุ่มที่ค่าเช่าแพงๆ พวกนี้จะ expect เยอะมาก

ทีนี้กลับมาที่กลุ่มครอบครัวบ้าง กลุ่มนี้จะเริ่มกังวลเรื่องขนาดของห้อง ขนาดห้องที่ยอมรับส่วนมากสุดคือ 70 ตารางเมตรขึ้นไป น้อยคนมากจะมาอยู่ 3 คนแต่ยอมรับ size 50 ซึ่งหลายคนบางที คิดว่าจะอยู่ได้ สุดท้ายก็ต้องขอย้ายก็เห็นมาละ กลุ่มนี้เค้าจ่ายได้อยู่ละ ต่อมาคือการแต่งห้อง ห้องต้องตกแต่งดี ถึงดีมาก เพราะกลุ่มนี้เค้ามีหน้าที่การงานที่ดี เวลาเพื่อนมาหามันต้องอวดได้ เพราะเค้าต้องมาพาเพื่อนมาปาร์ตี้ที่ห้อง พอเพื่อนมาถึงห้องแล้ว WOW ลำดับต่อมา คือของต้องครบเช่นกันแต่ 50,000 up เนี้ย expect เยอะ คือโรงแรมมีอะไร ในห้องต้องมีอย่างนั้น อยากรู้ง่ายๆว่าต้องมีอะไรบ้าง ให้เข้าไปดู Marriot ให้อะไรบ้าง ไดร์เป่าผมมี เครื่องดูดฝุ่นมี อะไรแบบนี้ ถ้า 70,000 up คุณก็ต้องมีเมตให้นะ แบบ 2 ครั้งต่ออาทิตย์ ซึ่งเจ้าของจะชอบมาก เพราะมันเป็นการการันตีว่าห้องเค้าไม่เละ แอบสอดส่องได้อีกต่างหาก

ผมอยากจะขอเพิ่มอีกกลุ่มนึง ที่คนไทยไม่คิดถึง แต่ผมเจอบ่อย คือกลุ่มเลี้ยงสัตว์ เพราะกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่มีปัญญาจ่าย และไม่แคร์ ให้นึกถึงคอนโดเครือ Major หรือคอนโด Ashton Morph 38 ได้ ผมยังลุ้นอยู่ว่า Ashton Asoke จะเลี้ยงสัตว์ได้ไหม ถ้าได้นะ ขายดีแน่นอน เพราะคอนโดใหม่ที่เลี้ยงสัตว์ได้มันไม่มีในตลาด อย่างที่ Ashton Morph 38 เนี้ย ห้องเล็กก็ start กันที่ 25,000 แล้วอะ ไม่มีตกไปกว่านั้น จริงๆกลุ่มเลี้ยงสัตว์มันก็ไม่ใช่เรื่องยุ่งยากขนาดนั้น คือคุณสามารถชาร์ตค่าทำความสะอาด คือชาร์ตไปตอนออกเลยว่า จะมีค่า Big Cleaning นะ แล้วกลุ่มที่มีสัตว์เลี้ยงเนี้ย มีแนวโน้มว่าจะเช่านานเพราะการขนย้ายสัตว์มันมีค่าใช้จ่าย ซึ่งถ้าเค้า ok อยู่ลงตัวแล้วอะ เค้าไม่ย้ายแล้ว

เจ้ : ตอนนี้ในซอย 36 – 38 ขึ้นกันเยอะมาก คิดว่าเป็นยังไงบ้าง

คุณบลู : ผมว่าอนาคตพอคอนโดใหม่ๆขึ้นนะ คอนโดเก่าๆจะปล่อยได้ดีกว่า เพราะว่าต้นทุนมาถูกกว่า อันนี้ผมพูดถึงต้นทุนราคาค่าเช่าที่คนยอมรับนะ ผมว่าคนก็เริ่ม accept ทำเลนั้นแล้วนะครับ โดยเฉพาะกลุ่มญี่ปุ่นนะเยอะมาก เห็นต่างอย่าว่าผมน้า ผมเอาตามความจริงที่เห็นที่เจอมา

เจ้ : กลุ่มญี่ปุ่น กับ ฝรั่งนี้สิ่งที่เค้าคาดหวังในห้องเหมือนกันไหม?

คุณบลู : ไม่เหมือนกันนะ จริงๆทุกคน expect ของครบก่อน และสะอาดเป็น 2 อย่างแรก สำหรับญี่ปุ่นเนี้ย ชอบสไตล์ Furniture ไม้ๆง่ายๆ เตียงไม่ต้องใหญ่ แต่อุปกรณ์ทำครัวต้องครบ ยิ่งพวกที่มากับแม่บ้านเป็นครอบครัวด้วย แต่ฝรั่งรุ่นใหม่บางคนบอกไม่ชอบ ไม่ชอบไม้ ห้องที่ไม้เยอะฉันไม่เอา ชอบ modern พวก glossy แต่ถ้าแต่งดูหนักๆมืดๆ จะเป็นการบีบกลุ่มลูกค้าตัวเองให้เล็กลงนะ

เจ้ : ทุกวันนี้ญี่ปุ่นอยู่ตรงไหนกันบ้าง

คุณบลู : ก็ 36-38 แล้วก็พร้อมพงษ์ อย่าง Bright 24 เนี้ย ผมไปบ่อยมากเลย ถ้าคุณลองไปนั่งเย็นๆนะ จะเจอแม่บ้านญี่ปุ่นลงมาเป็นตับเลย ลงมารับสามี ผมว่าคนที่อยู่นั้นค่อนข้างจ่ายแพงมาก เพราะทุกคนที่อยู่ที่นั้นมีรถมาส่งหมดเลย ส่วนฝรั่งจะชอบฝั่งเลขคี่นะ เพราะเค้าชอบ night life บางคนก็ชอบคอนโดเก่า เพราะชอบห้องใหญ่ๆ

เจ้ : แล้ว 2 ห้องนอนกับ 1 ห้องนอน อันไหนปล่อยเช่าง่ายกว่า

คุณบลู : ทุกคนอยากได้ 2 นอน แต่ขึ้นกับ Budget อยู่ดี เพราะถ้าญี่ปุ่นมาคนเดียว แต่บริษัทจ่ายให้ก็เอา 2 นอน แต่ถ้าจ่ายเองเอา 1 นอน ส่วนฝรั่งเนี้ย อยากได้ 2 นอนเพราะบางทีเค้ามี Guest มานอนด้วยบ้าง

เจ้ : Low Rise กับ High Rise มีผลไหม

คุณบลู : ผมชอบ High Rise ในด้าน Resale นะ แต่ถ้าถือยาวๆ ผมเอา Low Rise เพราะ 80% ของลูกค้ามาซื้อต่อ เอาชั้นสูงหมด อย่างฮ่องกงเนี้ย เอาชั้นสูงเกือบ top เท่านั้น แต่ถ้าปล่อยเช่ายาวเนี้ย Low Rise ได้ เพราะต้นทุนมันมาถูก ความเป็นส่วนตัวสูง แต่ต้องเลือก Dev และนิติที่ ok ด้วย แอบเสริมได้ป่าวอันนี้นิติที่เจอและชอบระบบการทำงานเป็นการส่วนตัว CBRE / Saville / LPN / Smart

เจ้ : คิดยังไงกับการเอาห้องเก่ามา renovate ปล่อยเช่า

คุณบลู : ถ้าตึกเก่าหรือมือสองเนี้ย ราคาถูกมากมีเยอะ แต่ต้องดูด้วยว่าส่วนกลางดูแลดีไหม อย่างมีตึกนึงชื่อว่า D.S. Tower 2 ผมไปแล้วแบบ ตึกเก่ามาก 20 กว่าปีละ แต่ส่วนกลางดีมาก ปรับปรุงตลอด ห้องก็ไม่แพง คุณไปหาห้อง 120 ตารางเมตร ราคาไม่ถึง 10 ล้านโซนพร้อมพงษ์นะที่อื่นไม่มีละ แต่ที่นี้ยังมีอยู่

เจ้ : สิ่งที่ลูกค้าพลาดเยอะที่สุด สำหรับการซื้อห้องมาปล่อยเช่า คืออะไร

คุณบลู : เรื่องแรกคือ ราคาค่าเช่าห้องที่ Sales บอกมา (อย่าโทษเซลล์นะ คุณควรทำการบ้านมา เพจรีวิวดีๆก็มีเยอะแยะ All About Living อวยแป้บ / Insocondo อันนี้เค้ามี Unit Recommend เลย/ ThinkofLiving ผมดูประจำเวลาไปรีวิว ร้านอาหาร อ้าวๆไม่ใช่เหรอ อ่านอีกนิดเถอะอย่างน้อยก็ถือว่าทำการบ้านแล้ว :) ) แต่มันไม่ได้เยอะตามนั้นจริง ซึ่งพอปล่อยๆไปสักพักแล้วยังไม่ได้ ก็จะเริ่มมีคน Dump ราคาลง ซึ่งพอเค้าโพสราคาที่ถูกลงไปแล้วเนี้ย มันอยู่ใน Internet ตลอด เวลามีคนมา Search ก็เลยจะเป็นมาตราฐานไปเลยว่า ห้องที่นี้ต้องราคาถูกแบบนี้ อีกเรื่องคือตำแหน่งห้องที่ราคาถูกที่ Sales ชอบบอกว่า เนี้ยห้องเนี้ยราคาถูก ทุนต่ำ กำไรดี แต่ Layout ไม่สวยหรือวิว Block ซึ่งจะเป็นปัญหามากตอนจะขายต่อ อันนี้เรื่องใหญ่มาก อย่างพวกแบบชั้นเตี้ยๆ ใกล้ลานจอดรถ จะขายต่อราคาสูงๆนี้ยากเลย แล้วก็เรื่องที่บางคนไม่ทำการบ้าน เช่นไม่เคยมาดูโครงการแล้วถามจาก Sales เอา แล้วปรากฏที่ข้างๆว่าง มีตึกขึ้นมาบัง โดยเฉพาะกลุ่มต่างชาติที่สนใจแต่ตัวเลข สนใจแต่ Yield แล้วก็เชื่อแต่ Sales ว่าจะได้ค่าเช่าประมาณนี้เท่านั้น แต่ไม่ยอมมาดูว่าในตลาดจริงๆกันปล่อยกันอยู่เท่าไร (ท่านใดเป็น Sales อย่าโกรธผมนะ ผมฟังจากเจ้าของห้องมาอีกทีเวลาเค้าปล่อยห้องยากๆ หลายคนนี่เครียดเลยกะว่าเอาค่าเช่าไปผ่อนต่อเก็บเงินสบายๆ)

เจ้ : อยากฝากอะไรไหม

คุณบลู : เวลาเลือก Agent ควรหา Agent ที่ใส่ใจ ไม่ใช่ช่วยปล่อยห้องเสร็จรับค่าคอมแล้วหายไปเลย ซึ่ง Agent ที่ใส่ใจเนี้ย จะต้อง 1. คนเช่าไม่ต้องโทรหาเจ้าของห้องเลย เค้าจะมาเจอคุณแค่วันเซ็นสัญญากับวันที่มารับห้องแค่นั้นพอ คุณไม่ต้องมานั่งปวดหัว 2. คุณได้รับเงินตรงทุกเดือน Agent ไปจัดการมาให้ 3. ถ้าห้องคุณมีปัญหาเรื่องซ่อม Agent ควรไปจัดการมาให้คุณให้เสร็จแล้วแค่รายงานเจ้าของห้องแค่นั้นพอ แจ้งก่อนกรณีมีค่าใช้จ่ายซ่อม (Agent ควรผูกมิตรกับนิตินะครับ เค้าช่วยเราได้เยอะมากกกก กไก่ล้านตัว ลูกค้าเช่ามีปัญหาน้อย นิติก็ไม่ต้องปวดหัว Agentก็ไม่ต้องเหนื่อยวิ่งไปวิ่งมา เจ้าของห้องก็รอรับค่าเช่าทุกเดือน คิดดูแบบ​โคตร Win-Win เลย)

เจ้ : ตั้งแต่พร้อมพงษ์ถึงอ่อนนุช มีตรงไหนไหม ที่หาคนเช่ายากมาก

คุณบลู : ถ้าห้องไม่แย่จริงๆนะ ยังไงก็ปล่อยเช่าเพราะมันคือสุขุมวิทอะคนรู้จักอยู่ละ

เจ้ : คำถามสุดท้ายละ ทำไมโรงเรียนนานาชาติ ถึงมีผลต่อคอนโด

คุณบลู : ต่างชาติเนี้ย เค้าจะเลือกคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดให้ลูก เค้าจะเลือกที่เดินไปโรงเรียนได้ ยกตัวอย่างนิชดาธานีนี้เป็นตัวอย่างที่ดีมาก หมู่บ้านที่บ้านไม่เคยว่าง ค่าเช่าหลัก 80,000 - 150,000 บาท แต่มีคนเช่าตลอดต่างชาติเค้าซีเรียสเรื่องครอบครัวมากสำหรับกลุ่มที่อยู่แพงๆ ครอบครัวมาก่อน ความปลอดภัยมาก่อน

จบแล้วจ้า เป็นไงบ้างพวกเธอ ได้อะไรดีๆกันไปเยอะไหม ชอบหรือไม่ชอบบทความแบบนี้เม้ามอยกันได้นะจ๊ะ ถ้าชอบก็ฝาก Like ฝากแชร์ให้เจ้ด้วยน้า จะได้มีกำลังใจในการไปหาเหยื่อมาสัมภาษณ์ต่ออีก จุ๊บๆ

All About Living


 
 
 

Comments


bottom of page