THE LINE วงศ์สว่าง – หนีความวุ่นวาย สู่ทุกสิ่งที่ดีกว่า
- Sukrit Udom
- Mar 2, 2018
- 4 min read

มนุษย์เงินเดือนอย่างเราๆ (แต่ของเจ้เงินต้นเดือนนะ อิอิ) เวลาจะตัดสินใจหาซื้อคอนโดสักที่ สองสิ่งแรกที่คิดถึงก็คือ “ราคา” และ “ขนาด” ชิมิละ หรือบางคนก็อาจจะคิดถึง “คุณภาพ” ด้วย ซึ่งพอเวลาเข้าไปดูคอนโดในเมืองทีไรแล้วก็แบบ เคลิ้บเคลิ้ม-หลงไหล ไปกับห้องตัวอย่างแสนสวย ภาพ Perspective สุดว้าว แต่ก็มาสะดุดแทบล้มหัวทิ้มกับราคาห้องที่แพงจนขนหัวลุก พอลองไปดูคอนโดที่ราคาถูกลงมาหน่อย ก็จะเจอกับความไกลรถไฟฟ้า เพดานเตี้ย Spec ไม่ดี ไม่สวย ไม่ถูกใจต่างๆนาๆ
วันที่เจ้เข้าไปรีวิวที่ THE LINE วงศ์สว่าง ทำให้เจ้คิดได้ว่า ถ้ายอมออกมาไกลเมืองอีกนิด เราจะได้ทุกสิ่งที่ดีกว่าจริงๆนะ (คือตอนนี้ก็อยากได้ 2 ห้องนอนอยู่เหมือนกัน แต่ปัญหาคือวงเงินกู้เจ้เต็มแล้วจ้า T-T)
ลองนึกภาพเวลาเราได้ออกมานอกเมืองหน่อย Feeling มันจะแบบ…
สิ่งแรกเลยที่เจ้นึกถึงคือ “เสียง” มันจะต่างกันมาก อย่างคอนโดเจ้ เวลานั่งอยู่ในห้องมีแต่เสียงรถวิ่งไปมาจนเจ้เริ่มชินไปละ (แถมดึกๆมีเสียงแว้นด้วยนะเธอ 555) แต่พอออกมานอกเมืองหน่อย เสียงที่จะเจอคือ เสียงลม เสียงใบไม้ เสียงนกร้อง (ดูทอแหลมะ แต่มันเรื่องจริงนะ)
อย่างที่สองเลยคือ “ท้องฟ้า” เวลาเราอยู่ในเมือง มองไปทางไหนก็เจอแต่ “หมอก”(เรียกให้ดูดี ความจริงคือฝุ่นนั้นแหละ เจ้ชอบเรียกกะเพื่อนว่า ‘หมอกมรณะ’ มาอีกละ) กะ “ตึก” แต่เวลาออกมานอกเมือง สิ่งที่เจ้เห็นในวันที่อากาศดีๆ คือท้องฟ้าสวยๆ ที่มีเมฆลอยเป็นรูปต่างๆ นอนเปิดแอร์ในห้องมองท้องฟ้าทางหน้าต่าง หรือ นอนมองต้นไม้ในสวน มันชิวดีนะ
พิมพ์ไปพิมพ์มา รู้สึกเราจะออกกันไปถึงเขาใหญ่แล้วนะคะ กลับมาก่อน!!!
คืออยากจะบอกว่า ยอมออกมาอีกนิด อาจจะได้เจอกับชีวิตที่ดีกว่า (รอดูราคา แล้วจะ Shock!)
และเจ้ก็คิดว่าพี่แสนนางใช้ Concept นี้แหละในการออกแบบ THE LINE วงศ์สว่าง ที่เค้าคัดเลือกแรงบันดาลใจดีๆรอบตัวมาออกแบบเป็นคอนโดดีๆที่เหมาะแก่การอยู่อาศัยจริงๆ
LOCATION

หลายคนอาจจะแบบ… ‘วงศ์สว่าง’ ที่ไหนค่ะ? ฟังดูไกล้ไกล (ฉันนี้แหละ คนแรก 555 เลยค่ะ)
แต่ถ้ามองคอนโดในกรุงเทพตอนเหนือแล้ว ต้องถือว่าวงศ์สว่างไม่ไกลนะ อย่างระยะห่างจาก Central Plaza ลาดพร้าว ที่ถือเป็นแหล่งอารยธรรมสูงสุดของกรุงเทพฯตอนเหนือ (ขอยืมคำพี่ Vo Inso Condo มา ฉันชอบคำนี้ 555) แค่ 5 km. เอง หรือถ้านั่ง MRT มาก็ประมาณ 25 นาทีได้
แม้ว่าจะเป็นสายสีม่วง แต่นางอยู่แค่สถานีที่ 2 จากสายสีน้ำเงินเองค่ะ แถมที่เจ้ชอบมากคือสองสายนี้เชื่อมต่อกันได้ดีงามมาก (ค่อยดูเหมือนประเทศพัฒนาแล้วหน่อย) เอาจริงๆคือไม่รู้สึกด้วยซ้ำว่ามันเป็นคนละสายกันอะ

ส่วนถ้าจะพูดถึงอนาคตของกรุงเทพฯตอนเหนือ ก็ยังมีอีก 2 Mega Projects ที่กำลังดังมาก (ถ้าไม่พูดถึง เดี๋ยวดูไม่ In trend 555 เจ้ขอโหนกระแสหน่อย) ก็คือ Mega Project ของ BTS + G Land ขนาดใหญ่ที่เชื่อมทะลุ ถนนพหลโยธิน กับ ถนนวิภาวดี-รังสิต และ Mega Project บางซื่อ ที่แน่นอนว่าจะต้องเป็น Mix Used ที่มี Retail และ Office นะจ๊ะ แถมบริเวณบางซื่อ ห้าแยกลาดพร้าว และ พหลฯ24 เอง ก็ถือว่าเป็นแหล่งงานขนาดใหญ่ของบริษัทระดับ Top ของประเทศอีกด้วย แต่เจ้จะไม่ลงลึกมากนะคะ เอาแค่ให้รู้ว่า THE LINE วงศ์สว่างอยู่ไม่ไกลจากความเจริญพอละ 555
ทีนี้เราลองมาดูกันบ้างว่าเวลาเดินทางจริงเป็นยังไง ซึ่งเจ้ลองจับเวลาจาก MRT สถานีสวนจตุจักร มาถึงสถานี วงศ์สว่างอยู่ที่ 20-25 นาทีค่ะ (แต่เจ้เดินทางตอน 10 โมงนะ ถ้าเป็นช่วงเวลาเร่งด่วน รถจะวิ่งถี่กว่านี้ น่าจะเร็วกว่านี้ค่ะ)
ข้อเสียก็มีค่ะ (เดี๋ยวจะหาว่าอวยเวอร์วัง) คือ MRT นี้จำนวนรถมีน้อยงะ ทำให้ต้องรถนาน
อย่างช่วงเวลาเร่งด่วน ความถี่รถคือไม่เกิน 5 นาที (ส่วนช่วงเวลาปกติคือไม่เกิน 10 นาที เล่น ROV จบได้เกมส์นึง…มุขนะ) (ถ้าเป็น BTS ความถี่ช่วงเร่งด่วนจะไม่เกิน 2.30 นาที ซึ่งถือว่าเร็วกว่ามาก) ทำให้ตอนเช้าก็อาจจะมีความเบียดกับผู้ชายนิดนึง ฉะนั้นก่อนเข้ารถก็ควรเล็งๆก่อนนะคะ ว่าแถวไหน ประตูไหน ผู้ชายหล่อ จะได้เปลี่ยนความเบียดเป็นความฟินแทน 555

ราคาจากสถานีสวนจตุจักร ถึง สถานีวงศ์สว่าง 27 บาท (เจ้ถามพนักงานเค้าบอกเดี๋ยวนี้ไม่มีตั๋วเดือนแล้วหรอ)

พอมาถึงสถานีเตาปูน ก็แค่เดินออกมาจากรถ ขึ้นบันไดเลื่อน ก็เข้ารถไฟฟ้าสายสีม่วงได้เลย ไม่ต้องเปลี่ยนระบบแตะบัตรเข้าออกใหม่ค่ะ สบายมาก (อยากให้ทุก interchange station ในไทยเป็นแบบนี้)



ถึงสถานีวงศ์สว่างปุ๊ป ก็เห็นคอนโด THE LINE อยู่ตรงหน้าเลยจ๊ะ (คือถ้ากระโดดลงไปก็ถึงเลยงะ แต่ทางลงมันดันอ้อมไปทาง Big C หน่อยนึง)

ไปทางออก 4 นะจ๊ะ


ทางขึ้น-ลง มีบันไดเลื่อนนะจ๊ะ เหมาะกับสาวข้อเข่าเสื่อมแบบเจ้ 555

พอลงมาจากทางออก 4 แล้ว แค่ข้ามถนนตรงสี่แยกวงศ์สว่างก็จะเจอกับ ‘วงศ์สว่าง Town Center’ ที่เป็น Community Mall ของย่านนี้ค่ะ ซึ่งในนั้นมี Big C ด้วย ทำให้ทำเลนี้อยู่ได้จริงแบบไม่ต้องมโน เพราะเดินมาแค่ 240 เมตร ก็มีอาหารการกินอุดมสมบูรณ์ ทั้งร้าน Fast Food, Food Court, ร้านอาหาร, ร้านขายยา, ร้านตัดผม, ร้านกาแฟ และ Super Market (แต่ถ้าอยาก Hiso ก็นั่ง MRT ไป Central ลาดพร้าวได้ ไม่ไกลค่ะ)







PRICE

เรื่องราคา เจ้จะขอเปรียบเทียบเฉพาะโครงการที่อยู่ใกล้เคียงนะคะ ซึ่งจะเห็นได้ว่า THE LINE Spec ดีที่สุดในย่านนี้ ซึ่งหลายคนก็อาจจะมีคำถามว่า B กับ C ต่างกันยังไงงะ? จริงๆมันเป็นเรื่องของการแบ่ง Segmentation ของการตลาดนะคะ แต่ถ้าอธิบายก็คงจะยาวเหยียดเลยละ เจ้เลยสรุปเอาแบบสั้นๆ เวลาว่า ความสูงเพดานสูงกว่า และวัสดุต่างๆที่ใช้ดีกว่า ส่วนกลางเยอะกว่า เดี๋ยวจะอธิบายใต้ภาพในห้องตัวอย่างและส่วนกลางละกันนะจ๊ะ
ส่วนเรื่องราคาของ THE LINE คือบอกเลยว่า ตอนเค้าส่งมาให้ดูนี้ Shock มาก (ต้องบอกก่อนนะ นี้คือราคาของการขายรอบแรก แต่กระจายทั่วทั้งตึกนะจ๊ะ)
1 Bedroom size S (28 – 28.75 ตรม) ราคา 1.99 – 3.2 MB
1 Bedroom size M (31.75 – 40.75 ตรม) ราคา 2.19 – 4 MB
2 Bedroom 1 Bathroom (47.75 – 53.75 ตรม) ราคา 3.7 – 5.9 MB
2 Bedroom 2 Bathroom (54 – 55.75 ตรม) ราคา 5.5 – 6.30 MB
ลองหารเป็นราคาต่อตารางเมตรกันเอาเองนะจ๊ะ บางห้องราคาถูกกว่า The Base Garden อีกเหอะ
แต่ยังไงรอดูราคาจริงวันเปิดตัว 17-18 มีนาคม อีกทีค่ะ
PRODUCT
นวนห้องชุดพักอาศัย 1,287 ยูนิตค่ะ และมีร้านค้าอีก 1 ยูนิต ที่จอดรถ 47% รวมซ้อนคัน (ถ้าไม่รวม 41%) ที่ดินโครงการประมาณ 7 ไร่ พื้นที่ส่วนกลางประมาณ 6,000 ตารางเมตร

คราวนี้เดินจากทางออก 4 มาทาง THE LINE บ้าง ซึ่งก่อนถึงโครงการประมาณ 60 เมตร จะมี 7-11 ค่ะ บางคนอาจจะแบบ ต้องบอกด้วยหรอ ขอบอกเลยว่านี้แหละสัญญาลักษณ์ของความไม่อดตายนะจ๊ะ 555 กาแฟ All Café 30 และแซนวิสแฮมชีสสามารถช่วยชีวิตท่านได้ในวันเสาร์-อาทิตย์ (และช่วงสิ้นเดือน คริคริ)

ทางเข้าโครงการยังทำไม่เสร็จนะคะ แต่ถ้าเป็นพี่แสน สวยแน่นอน (โดยเฉพาะถ้ายังขายไม่หมดด้วย 555)

เข้ามาปุ๊บ เราจะเจอกับอาคารแรกก่อน ซึ่งเป็นอาคารจอดรถสูง 9 ชั้น มีร้านค้า, Co-working Space, สวน + ลาน BBQ, Fitness และสระว่ายน้ำค่ะ

เดินเลยตึกแรกเข้ามาจะเจอสวนขนาดใหญ่กั้นระหว่างอาคารจอดรถและอาคารพักอาศัยค่ะ และมีคลองเล็กๆวิ่งผ่าน

รู้เลยว่าจะต้องมีความถามว่าคลองมีกลิ่นไหม วันที่เข้าไปรีวิว ไปลองยืนดมอยู่พักใหญ่ ไม่มีกลิ่นนะ (หรือจมูกฉันไม่ดี 555)

สิ่งที่ชอบคือต้นไม้ที่นี้เยอะมาก แต่ต้องรออีก 1 ปี ให้ต้นหูกระจงโตหน่อย จะร่มรื่นมากค่ะ

กลัวพวกเธอไม่เชื่อ เลยลงไปถ่ายจากหน้าคอนโดเจ้มาให้ดูเป็นตัวอย่างตอนมันโตแล้ว (ประมาณ 2 ปีกว่า) เวลาเดินออกจากคอนโดจะได้ Feel เหมือนเดิมแบบ Spring Collection ใส่ #EverydayRunway

สวนฝั่งติดกับตึกพักอาศัย อีก 1 ปีสวยแน่นอนค่ะ เพราะต้นไม้ใหญ่เยอะมาก รอบๆตึกยังมี Jogging Track ด้วยนะ

อันนี้ถ่ายมาให้ดูว่า ลมแรงมาก ไม่เชื่อดูใบไม้ดิ

Lobby ที่นี้ใหญ่มากค่ะ (254 ตารางเมตร) และเป็นหินอ่อนนำเข้าจากตุรกีทั้งหมด ความสูงเพดานอยู่ที่ 4.8-5 เมตร อีกทั้ง Lobby ยังออกแบบให้สามารถเปิดหน้าต่าง หน้า-หลัง เพื่อให้ลมผ่านได้ในช่วงเวลาที่ไม่ได้เปิดแอร์ อีกทั้งข้อดีของ Lobby หินอ่อนแบบแสนสิริคือจะเก็บความเย็นได้ดีมาก บางทีลงมา Lobby สายๆไม่ได้เปิดแอร์ก็ยังเย็นอยู่เลยค่ะ รวมกับข้อดีของเพดานสูงที่อากาศร้อนจะลอยตัวขึ้นด้านบน ทำให้อุณภูมิบริเวณพักอาศัยเย็นกว่า มันมีงานวิจัยพิสูจน์ด้วยนะคะว่าอุณหภูมิต่างกันอย่างมีนัยสำคัญจริงๆ (ไม่ได้แค่สวยแพงนะจ๊ะ มีประโยชน์ด้วย)

หินอ่อนกันตั้งแต่บันไดเข้าตึกเลยอะคะ

Video Door Phone (เวลาคนนอกมาอย่างเช่นบุรุษไปรษณีย์ กดปุ่มแล้วนิติจะ Scan ก่อนได้ค่ะว่าจะให้เข้าไหม) และที่ Scan Key Card

Lobby มีความใหญ่จริงจังงะ

อย่าเรียก Lobby เลย เรียกฉันว่า ‘เหมืองหินอ่อน’ เถอะ




ชอบสิ่งนี้ จะเรียกว่าอะไรดี แต่คือ Design Concept ของที่นี้คือ Cloud (ไม่ใช่ที่ Upload Data นะ อิอิ มุขเสี่ยว IT) แต่หมายถึงก้อนเมฆค่ะ นางก็จะมีความท้องฟ้าฟุ้งๆ อารมณ์แบบแสงอาทิตย์ที่สาดส่องผ่านก้อนเมฆลงมาเป็นลำแสงยามเช้า สวยคะ(และทอแหลมาก) ชอบบบ

อารมณ์ประมาณนี้อะ เกร๋มะ




เดี๋ยวนี้เป็นมาตราฐานของพี่แสนไปแล้วค่ะ ว่าต้องมีห้องน้ำสำหรับผู้ใช้รถเข็น เพราะว่าเรากำลังจะก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุนะคะ นางต้องมีความเตรียมพร้อม แถมคนสมัยนี้คนก็ชอบพาพ่อแม่มาอยู่คอนโดด้วย เพราะสะดวกและสิ่งแวดล้อมดีสำหรับผู้ใหญ่ค่ะ (แถมพอกลับถึงบ้าน แม่ก็จะไม่บ่น/นินทาเรื่องคนข้างบ้านในฟังด้วย แต่อาจจะนินทานิติแทน 555 มีความแอบนินทาหม่อมแม่ อิอิ) ซึ่งเจ้ว่าอันนี้เค้าใส่ใจรายละเอียดเล็กๆน้อยๆพวกนี้ดีค่ะ
ถ้าใครสงสัยว่า ผู้สูงอายุอยู่ในห้องคนเดียว ล้มไปจะทำไง แสนสิริเค้าก็มี co กับทางโรงพยาบาลสมิติเวชไว้นะคะ เป็นสายรัดข้อมูลที่จะแจ้งเตือนหากผู้สูงอายุหกล้มหรือกดเพื่อขอความช่วยเหลือได้ค่ะ ลองดู video นี้

จะเห็นได้ว่าห้องน้ำจะกว้างมากและมีอุปกรณ์ช่วยผยุงตลอด

อ่างล้างมือก็จะมีความกว้างมากและมีที่วางของด้านข้างด้วย และยังคงหรูหราสไตล์พี่แสน

สำหรับห้องน้ำปกติ งานเหมืองหินอ่อนก็ต้องมาสิค่ะ เป็น Signature ของนางไปแล้ว (คือไปคอนโดแสนที่ไหนต้องวิ่งเข้าไปดูห้องน้ำ 555)


ที่นี้ยังมี Smart Locker อยู่ในห้อง Mail Box ด้วยนะคะ (แต่วันที่ไปยังติดตั้งไม่เสร็จค่ะ) ซึ่งเจ้ชอบมากกก เพราะชาวเราจะชอบซื้อของ Online กันชิมิค่ะ แต่ไปรษณีย์ก็จะมาส่งในเวลาที่เราออกไปทำงาน ของก็จะไปเก็บไว้ในห้องนิติ กว่าจะกลับมาถึงคอนโด นิติก็ปิดละ กว่าจะได้ของก็รอไปนู้นค่ะ เสาร์-อาทิตย์ คือเข้าใจไหมค่ะ ว่าคนมันเห่ออ่ะ 555 แต่ด้วย Smart Locker เราสามารถให้นิติเอาของไปเก็บไว้ใน Smart Locker ได้ค่ะ แล้วพอเราถึงคอนโด ก็ไป Scan QR เพื่อเปิดเอาของขึ้นไปเห่อให้สาสมใจ



ขึ้นมาดูส่วนกลางชั้น 37 กันบ้างค่ะ ใครสังเกตุเห็นความแรดของนางบ้าง คือเพดานชั้นนี้จะซ่อนไฟที่ให้ Feeling เหมือนเป็นแสงธรรมชาติค่ะ (พอดีเจ้ถ่ายรูปไม่เก่ง กราบขออภัย เลยดูไม่ออกค่ะ อิอิ) เข้ากับ Concept แบบ On The Could ไรงี้
ข้อดีคือเวลาที่เราได้รับแสงแบบนี้ สมองจะหลังฮอร์โมนเซโรโทนิน (Serotonin) เป็นสารสื่อประสาทที่ช่วยให้อารมณ์ดี ดี้ด้า และฮอร์โมนเอนดอร์ฟิน (Endorphin) สารแห่งความสุข ลดอาการซึมเศร้าได้ค่ะ สวย ฉลาดอีกแล้วพี่แสน มีความไม่ธรรมดา

ส่วนกลางบนชั้น 37 จะแบ่งออกเป็น 2 ปีกค่ะ คือปีกฝั่งเด็ก กับ ฝั่งผู้ใหญ่





สำหรับบริเวณ Outdoor จะเลือกใช้วัสดุที่เป็นยางนิ่มๆค่ะ เวลาล้มแล้วจะช่วยลดการบาดเจ็บ


มีมุมคุณแม่ ไว้ให้นั่งเม้ามอย ระหว่างปล่อยลูกวิ่งเล่น (เธอๆ งวดนี้ซื้อเลขไรดีอ่ะ)


ส่วนฝั่งผู้ใหญ่ก็จะมีห้องดูหนัง, Sky Lounge และสวนค่ะ



Sky Lounge เพดานสูง 5 เมตรนะจ๊ะ ที่นอกจากจะเห็นวิวสวยๆมากกว่า 180 องศาแล้วยังสามารถเปิดหน้าต่างให้ลม flow ได้ทั้งสามด้าน



จริงๆหน้า Pantry ถ้าตามรูป Tive ต้องมีเคาเตอร์อีก 1 ตัว แต่สงสัยมาไม่ทัน มันเลยดูโล่งๆไปนิด (อันนี้คือแอบทวงให้ อิอิ)

ห้องน้ำเกร๋เวอร์










เราไปดูส่วนกลางที่ฝั่งอาคารจอดรถกันบ้างค่ะ
เริ่มจากชั้นแรกที่เป็น Co-Working Space เพดานสูง 4.3 เมตร ซึ่งเจ้มองว่าเป็น Facility ที่สำคัญอันดับต้นๆที่คอนโดสมัยนี้ต้องมีและต้องออกแบบให้ดี เพราะด้วยความที่ห้องในคอนโดสมัยนี้ค่อนข้างจะเล็ก (ในเมืองนี้ 23-24 ตารางเมตรกันเป็นเรื่องปกติไปแล้ว) ทำให้พอเสาร์-อาทิตย์ก็อยากออกมานั่งพักผ่อนในบริเวณที่เปิดโล่ง นั่งสบาย บรรยากาศดีๆ บางคนทำงานหลาย Job (แบบเจ้งี้) หรือน้องๆที่ต้องการที่อ่านหนังสือ ต้องการสถานที่ที่นั่งแล้วถูกสรีระไม่ปวดหลังค่ะ ซึ่งจะเห็นได้ว่าที่นี้ออกแบบได้ค่อนข้างดีเลย




เป็นห้องประชุมที่สริดมาก ขอยืมเอาไว้ดูดวงได้ไหม คริคริ หรือจะตั้งวงไพ่ดีค่ะ (นี้คือชอบนะ)

กดลิฟไปชั้น 3 กันค่ะ เป็นสวนและลาน BBQ



เตาและอ่างล้างจานจริงจังมากอะ

จากรูปนี้จะเห็นว่ามีเสาไฟฟ้าแรงสูง ซึ่งหลายคนไม่ชอบแน่ๆ แต่ในความข้อเสียก็มีข้อดีนะ คือห้องมุม 37 ตารางเมตร จะได้วิวที่โล่งมากจากตัวตึก THE LINE และ PARKLAND ที่เบี่ยงหลบสายไฟ ตามรูปด้านล่างจ้า แถมชั้นประมาณ 3-6 หน้ากว้างของห้องยังหันมาทางสวน วิวน่าจะโออยู่ (ยังไม่ได้เห็นของจริงนะ)

จากนั้นก็ขึ้นไปชั้น 8 ที่เป็นห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าและชั้น 9 ที่มี Fitness สระว่ายน้ำ และสวนค่ะ

ถ้าไม่ใช่หินอ่อน อย่ามาเรียกว่าพี่แสน

เป็นฟิตเนสที่ใหญ่และอุปกรณ์ออกกำลังกายเยอะมาก




สระนางมีความ Resort


เห็นภาพตัวเองใส่ 2 พีช นอนอาบแดด สวยๆ (หมูแดดเดียว)

สระว่ายน้ำยาว 50 เมตร กว้าง 9 เมตรนะจ๊ะ ขอบสระมีความหินอีกแล้ว


ชอบมุมนี้ มีความ Resort




ฝั่งสระเด็กยังมีสวนที่ทำเป็นเนินให้เด็กวิ่งเล่นอีก


ติดกับสระเด็กจะมีที่นั่งให้คุณแม่นั่งเม้าเช่นเคย



มองลงไปจะเห็นได้ว่าสวนใหญ่มากกก และต้นไม้เยอะมากกก คิดว่าส่วนกลางหมดและอาสิ ยังค้า ยังมีสนามฟุตซอลอีก



ความใส่ใจของนาง จะเห็นได้ว่ารอบๆสนามยังมีต้นไม้สูงให้ร่มเงา มีที่นั่งสำหรับเชียร์ และ Score Board อีกด้วย
แค่ส่วนกลางอย่างเดียวก็เยอะมากจนรีวิวเจ้จะยาวเป็นวิทยานิพนธ์เรียนจบ ป.เอกแล้วค่ะ
ทีนี้เราไปดูห้องตัวอย่างกันบ้างค่ะ เริ่มจากห้อง 1 Bedroom ขนาด 28.75 ตารางเมตร กันค่ะ
Spec ภายในห้องก็คือ THE LINE เลยค่ะ จะมีต่างก็แค่ความสูงเพดานอยู่ 2.65 เมตร (ถ้าเป็นเกรด C จะอยู่ประมาณ 2.45-2.55 เมตร หรือบางที่ให้ 2.6 แบบไม่มีฝ้าค่ะ)


Digital Door Lock รุ่นนี้เจ้ก็ใช้อยู่ค่ะ จะแตะบัตร กดรหัส หรือกุญแจก็ได้ บัตรก็ Key Card คอนโดได้เลยคะ เอาบัตรไว้ในกระเป๋าตังก็สามารถแตะได้ (แต่ต้องเอาไว้ริมสุดนะ) เวลาเข้าห้องสะดวกมาก คือเอาบัตรแตะตรงแป้นก่อน 1 ที แล้วเลื่อนลงวงตรงวงกลม แค่นั้น ส่วนเวลาออกก็แค่ปิดประตู ประมาณ 1 วิมันจะ lock ของมันเองค่ะ


ห้องชุดมีให้เลือกสองแบบค่ะ คือแบบ Fully Fitted กับแบบ Fully Furnished ค่ะ คือให้เฟอร์นิเจอร์ตามที่เห็นในห้องตัวอย่างเลย (ยกเว้นของตกแต่งนะจ๊ะ) อย่างโต๊ะกลางตัวนี้ ก็จะมีซ่อนสายไฟไว้ด้วย สามารถดึงสายออกไปเสียบปลั๊กและดึงเพื่อม้วนเก็บกลับเข้าไปได้ค่ะ




จะเห็นได้ว่าชุดครัวให้ของดีเลย คือ Top หินแกรนิต (ทนกว่าหินอ่อนค่ะ) อ่างล้างจานแบบฝั่ง เตาเซรามิค บิ้วชุดครัวเต็มสุดพื้นและเพดาน และมี Function เกร๋ๆซ่อนอยู่ (ถ้าเป็นเกรด C ส่วนมากจะเป็น Top ไม้อัดปิดผัวลามิเนต อ่างล้างจานแบบมีขอบเกยอยู่บน Top ครัว เตาบางที่เป็นให้เป็น Hot Plate ที่เยินไวมาก)



ชั้นวางทีวีก็มีบิ้วตู้รองเท้าและเก็บของมาให้แล้ว ถ้าหน้าบานยังเป็นกระจกเงา ไว้เช็คความเรียบร้อยตัวเองก่อนออกจากบ้านได้อีก

หนาบ้านตู้ด้านในยังมีตะขอไว้แขวนของได้อีก

ในห้องน้ำฝั่งเปียก ก็จะมี Rain Shower ของ Cotto และผนังพอร์ซเลนลายหินลายแบบ Random (ราคาสูงกว่ากระเบื้องแกรนิตโต้นะ ไม่แน่ใจว่าของ Cotto ด้วยป่าว เจ้เคยไปดูเค้าบอกว่าลายมันจะ 40,000 แผ่นถึงจะเจอลายซ้ำกันที) (ถ้าเป็นเกรด C ส่วนมากจะไม่มี Rain Shower และตู้แบบนี้ค่ะ)

สุขภัณฑ์อื่นๆก็ Cotto เช่นกันค่ะ มีตู้เก็บของมาให้ด้วย (The Base ไม่มีนะ)


ในห้องนอนบิ้วเตียงมาให้ด้วยค่ะ แถมยังมีไฟหัวนอนที่พับเก็บได้และลิ้นชักเก็บของ ส่วนหน้าต่างห้องสูงตั้งแต่พื้นถึงเพดานเลยค่ะ



ตู้เสื้อผ้าที่ให้มาด้วยก็บิ้วมาให้อย่างดี มีซ่อนไฟ LED, สวิตเปิดไฟอัตโนมัติเวลาเปิดตู้ด้วย และลิ้นชักสำหรับเก็บเครื่องประดับด้วย
ไปดู 2 ห้องนอนกันบ้างค่ะ อันนี้เป็นห้อง 2 นอน 1 น้ำ 49 ตารางเมตรนะคะ


บิ้วตู้รองเท้าและเก็บของมาใหญ่สะใจมากค่ะ คุณสาวๆน่าจะชอบ (ถ้ายังไม่พออีกนี้ เธอควรพิจารณาตัวเองแล้วละ)

ตู้ลอคแรกจะเป็นตู้เก็บของขนาดใหญ่เช่นพวก ที่รองรีดผ้าหรือเครื่องดูดฝุ่นอะไรแบบนี้ หรือจะเก็บถุงกอล์ฟก็น่าจะได้

ส่วนอีกสองลอคที่เหลือเป็นตู้เก็บรองเท้า ที่น่าจะเก็บได้ประมาณ 20 คู่+++ สาแก่ใจคุณผู้หญิงยิ่งนัก





สิ่งนี้คือดีงามมาก คุณผู้ชายอาจไม่เข้าใจว่ากะอีกแค่มีที่นั่งมันดียังไง แต่สำหรับตุ๊ดและชนี เวลาจะสครัปตัวที ให้ก้มๆเงยๆ เดี๋ยวหัวฟาดก๊อกเลือดอาบตายคาห้องน้ำได้นะคะ ฉะนั้นการมีที่นั่งสำหรับนั่งขัดสีฉวีวรรณและจุดเทียนอโรม่ากลิ่นวนิลา-ลาเวนเดอร์พร้อมเพลง Jazz เบาๆในห้องน้ำมันจะเป็นอะไรที่ฟินมากกก (แถวบ้านเรียก Spa แบบ Low Cost คริคริ)



เป็นครัวปิดที่ Size ใหญ่ดีค่ะ และอ่างล้างจานก็ size ใหญ่กว่าห้อง 1 นอนด้วย





ถ้าจะติดเครื่องซักผ้าก็แค่ถอดลิ้นชักออกค่ะ ใส่เครื่องซักผ้าฝาหน้าตรงนี้















สำหรับห้อง Master Bedroom ตู้เสื้อผ้าจะมี Function ตู้เก็บของพร้อมกระจกเงาขนาดใหญ่มาให้ด้วยค่ะ
CONCLUSION
เอาแบบสั้นเลยนะ เพราะนี้ยาวมากแล้วงะ
คือยอมอยู่ไกลออกมานิดนึง แต่ได้ห้องใหญ่กว่า Spec ดีกว่า ส่วนกลางเยอะมาก แถมยังร่มรื่นจริงจังเพราะได้พื้นที่สวนขนาดใหญ่ ราคาก็ถือพอๆกับเพื่อนบ้านแต่ได้ของดีกว่ามาก แล้วชื่อแสนสิริการันตีคุณภาพอยู่แล้ว
เจ้ลองจับเวลาเดินทางจาก MRT วงศ์สว่าง มา MRT พระราม 9 อยู่ที่ 30-35 นาที ถ้ามาถึงอโศกอยู่ที่ 40-45 นาทีค่ะ ถ้าเป็นทำงานย่านกรุงเทพฯตอนเหนืออยู่แล้วด้วยจะสะดวกมาก เพราะตรงนั้นก็ Business District อยู่แล้วด้วย แต่ราคาถูกกว่าย่านพหลฯ-เกษตร 30-50%
จริงๆห่างสายสีแดงแค่ 1 สถานี หรือ 1 กิโลเมตรเองด้วยนะ เวลาจะสนามบินก็ถือว่าสะดวกค่ะ
รอบบ้านมีอาหารการกิน Super Market อย่างใกล้ไม่ลำบากแน่นอน
ข้อเสียคือ MRT นี้แหละ ถ้าวิ่งถี่กว่านี้ได้จะดีมากๆ
ใครมองหาคอนโดไว้อยู่เองจริงๆ เจ้อยากให้ลองแวะไปดูก่อน
(ไม่ต้องซื้อก็ได้ แต่ระวังจะโดนมนต์สะกดของพี่แสนจนเผลอรูดไปแบบไม่รู้ตัว อิอิอิ)
วันที่ 17-18 มีนาคมนี้ เค้าจะเปิดขายดูห้องจริงวิวจริงได้เลยจ๊ะ
ลงทะเบียนและอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.sansiri.com/condominium/theline-wongsawang/th/
หรือโทร 1685 จ้า
Commentaires