MITI CHIVA – นิยามของคุณภาพชีวิต

MITI คอนโดอะไรอะเจ้?

ชื่อ MITI อาจไม่คุ้นหูเท่าไรชิมิละ แต่ถ้าเจ้จะบอกว่า MITI เป็นโครงการที่ 2 ของบริษัท One Real Estate ที่มีเจ้าของเป็นอดีตผู้บริหารแลนด์ (ขอเรียกย่อๆนะ) ที่คร่ำหวอดในวงการอสังหาริมทรัพย์ไทยมานานหลายสิบปี ก็ไม่แปลกใช่ไหมละที่โครงการจะขายดีทั้งตัวแรก MITI ลาดพร้าว – วังหิน และโครงการที่สอง MITI CHIVA ที่เพิ่งจะเปิดขายรอบลูกบ้านเก่า ก็ได้ข่าวมาว่าขายไปแล้วกว่า 50%

ทำเล ม.เกษตร อาจดูไม่ได้หวือหวาวี๊ดว้าวอะไรมากมาย เพราะมันไม่ได้โดนปั่นกระแสตามกลไกการสร้าง Demand แต่ถ้าคนที่เคยอยู่บ้านหรือคอนโดรอบมหาลัยจะรู้ว่า มันจะมีความเริศบางประการ ไม่นอกจากเด็กมหาลัยหล่อ เอาะ หน้าตาดีแล้ว (แหนะ!) ทำเลรอบมหาวิทยาลัยจะมีความอุดมสมบูรณ์มากกก เพราะจะมีร้านค้า ร้านอาหาร สิ่งอำนวยความสะดวกมากมายเปิดมาเพื่อดึงลูกค้ากลุ่มนี้ให้เข้ามาใช้บริการ ซึ่งแน่นอนว่า ขายของเด็กมหาลัยจะมาขายแพงแบบคนทำงานกลางเมืองไม่ได้หรอก ฉะนั้นที่อยู่อาศัยในย่านนี้และจะมีความชีวิตดี๊ดีในราคาไม่แรงค่ะ

โครงการ MITI CHIVA ก็มีความโดดเด่นในหลายๆด้าน ที่ตอบโจทย์คำว่า ‘คุณภาพชีวิตดี’ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ Location ที่เดินทางสะดวก ใกล้พื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ ตัว Product ออกแบบมาให้มีความคุ้มค่าในการใช้งาน ส่วนกลางและ Specification ดีมาก สวยงาม และเป็นส่วนตัว

LOCATION

ต้องถือว่านางได้ที่ดินในทำเลค่อนข้างดีมาก เพราะเดินจากสถานี BTS ม.เกษตรแค่ประมาณ 150 เมตรเท่านั้น (เข้าทางซอยพหลโยธิน 38) แถมบริเวณ 4 แยกนั้นยังจะเป็น Interchange Station ของรถไฟฟ้าสายสีเขียวและรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล (แคราย-บึงกุ่ม) และห่างจากสายสีแดงไปแค่ 1 สถานีเท่านั้น แถมตอนนี้ก็กำลังก่อสร้าง Bang Sue Grand Central Station ที่จะเป็นศูนย์รวมรถไฟมากมาย รวมถึงรถไฟความเร็วสูงด้วย ทำให้ไม่ว่าจะเดินทางไปจังหวัดไหนก็ถือว่าสะดวกมาก เพราะใกล้ทั้งสนามบินและสถานีรถไฟค่ะ

โครงการยังอยู่ห่างจากประตูทางเข้า ม.เกษตร แค่ 250 เมตร ซึ่งถ้าได้ลองเข้าไปเดินสวยใน ม.เกษตรแล้วจะรู้ว่ามันความชีวิตดี มีเสน่ห์ ที่เป็นเอกลักษณ์ของที่นี้เท่านั้น อารมณ์มันจะเหมือน Community Mall ขนาดใหญ่ที่กระจายตัวอยู่ใน Park ขนาด 846 ไร่ มันจะเป็นอย่างไร มาดูกันเลยจ้า

สถานีรถไฟฟ้า BTS มีแผนจะเปิดให้บริการในปี 2563

ทันทีที่เดินเข้ามาใน ม.เกษตรจะเจอ MoBike มันคืออารมณ์แบบจักรยานให้เช่าที่เป็น Start Up ดังมากกก มาจากที่จีนค่ะ แต่เรียกจักรยานให้เช่ามันก็จังฟังดูธรรมด้าธรรมดา แต่จริงๆแล้วมันเริศกว่านั้นมากค่ะ

ก่อนอื่นพวกเธอก็ต้อง Download Application ‘MoBike’ มาลงในมือถือกันก่อนจ๊ะ ใน App มันจะบอกได้ว่ามีจักรยานของ Mobike จอดอยู่แถวไหนใกล้ตัวบ้าง เราก็แค่เลือกคันที่อยู่ตัวที่สุดแล้วเดินไปหาจักรยานค่ะ พอเจอจักรยานของ MoBike แล้วแค่กดปุ่ม Unlock แล้ว Scan QR Code บนจักรยาน จักรยานจะปลด Lock ให้เราเอาไปปั่นสวยๆได้ทั่ว ม.เกษตร สมมติเจ้ขี่ไปถึง Too Fast Too Sleep ใน ม.เกษตร ที่เปิด 24 ชั่วโมง เจ้ก็จอดทิ้งไว้หน้าร้านได้ค่ะ มันจะ Lock ของมันเอง แล้วพอเราจะกลับ ก็แค่ Scan หาคันที่อยู่ใกล้ตัวแล้วขี่กลับไป เท่าที่เจ้ลองดูใน App จะเจอว่าจักรยานกระจายอยู่ทั่ว ม.เกษตรเลยค่ะ ไม่ลำบากแน่นอน แถมเกร๋สุดๆประดุจอยู่ใน Silicon Valley 555

นอกจากบรรยากาศดีเหมือนอยู่ใน Park ขนาด 846 ไร่แล้ว ภายใน ม.เกษตรยังมีร้านค้าที่เป็นเหมือน Mall หรือ Avenue เล็กๆกระจายตัวอยู่ทั่วมหาวิทยาลัยเต็มไปหมด แล้วมีครบเกือบทุกอย่างจริงๆ ไม่ว่าจะ Food Court, ร้านอาหาร, ร้านกาแฟแบรนด์ดังอย่าง Starbucks, Coffee World, Amazon หรือแม้แต่ธนาคารก็มีเกือบครบทุกสี

นอกจากบรรยากาศเกร๋ๆ หรือจะวิ่งออกกำลังกายแล้วถ่ายรูปอวดชีวิตดี๊ดีลง Social ให้คนหมั่นไส้เล่นได้แล้ว การเข้าไปเดินในพื้นที่สีเขียวยังมีประโยชน์ดีๆซ่อนอยู่ เพราะมันมีงานวิจัยมาจากที่พิสูจน์แล้วว่าช่วยให้เรามีอายุยืนยาวขึ้น สุขภาพดีขึ้น เครียดน้อยลง และส่งผลต่อดีสมองอีกด้วย (ส่งผลสมองส่วน Amygdala ที่ทำหน้าที่ควบคุมอารมณ์) รวมถึงอาจช่วยลดอาการป่วยทางจิต (สมัยนี้คนยิ่งเป็นโรคซึมเศร้ากันเยอะด้วย)

Reference:

https://well.blogs.nytimes.com/2015/07/22/how-nature-changes-the-brain/

http://www.pnas.org/content/112/28/8567

https://psmag.com/environment/living-near-a-forest-is-linked-to-better-brain-health

บริเวณรอบๆ ม.เกษตรก็ยังมีร้านอาหารและ Café เกร๋ๆเยอะมาก

นอกจาก ม.เกษตรแล้ว โครงการก็อยู่ไม่ไกลจากย่านออฟฟิตของกรุงเทพตอนเหนืออีก ไล่มายาวมาตั้งแต่อารีย์จนถึงสี่แยกรัชโยธิน และแน่นอนว่า จะไม่พูดถึง Mega Project ก็คงไม่ได้ เพราะยังอยู่ใกล้กับ ที่ดินขนาดใหญ่ของ BTS + G Land และ Bang Sue Grand Central Station ที่จะมีการพัฒนาเป็นย่านธุรกิจขนาดใหญ่อีกด้วย

PRODUCT

โครงการ MITI CHIVA KASET STATION เป็นคอนโด High Rise สูง 23 ชั้น บนที่ดิน 1-2-6.7 ไร่ มีห้องชุดพักอาศัยเพียง 200 ยูนิตเท่านั้น จุดเด่นคือเพดานห้องสูง 3 เมตร

มีห้องชุดให้เลือกถึง 4 แบบ ตั้งแต่ 23 – 34.5 ตารางเมตร โดยมี Highlight เป็นห้องชุดแบบ 1 Bedroom Plus ขนาด 33.5 – 34.5 ตารางเมตร ที่มีหน้ากว้างถึง 8 เมตร

อีกทั้งยังมียูนิตพิเศษ ชั้น 20, 22 และ 23 ที่มีเพดานห้องสูงถึง 4.4 - 4.6 เมตรด้วย

จากรูปนี้ทางด้านขวา จะเห็นยูนิตพิเศษบนชั้น 20, 22 และ 23 ที่มีความสูงเพดานห้องอยู่ที่ 4.4 – 4.6 เมตร รวมถึงพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่เชื่อมต่อกันถึง 3 ชั้น

Plan ส่วนกลางชั้น 21 ที่มีพื้นที่สวน สระว่ายน้ำ ฟิตเนส และห้องซาวน่าแยกชาย-หญิง ที่สามารถ Take View ได้ 360 องศา

ยูนิตพิเศษชั้น 22 และ 23 ที่มีเพดานสูง 4.4 เมตร และสวนพักผ่อนลอยฟ้าบนชั้น 21

ห้องออกกำลังกายเพดานสูงประมาณ 4.6 เมตร บนชั้น 21 ที่สามารถมองเห็นวิวพื้นที่สีเขียว 846 ไร่ของ ม.เกษตร และวิวเมืองที่สวยงาม

ชั้น 22 ที่มี Co-Working Space ขนาดใหญ่ที่ Take วิวเมืองแบบเต็มๆ สวยทั้งกลางวันและกลางคืนค่ะ และห้องพักยูนิตพิเศษเพดานสูงแถมยังเป็นแบบ Single Corridor ด้วย ทางเดินออกจากลิฟล์เข้าห้องน่าสวยมาก

Co-Working Space เพดานสูง 4.4 เมตร ที่ใช้กระจก Size ใหญ่พิเศษยาวตั้งแต่พื้นจรดเพดาน (แพงมากกก)

ชั้น 23 ที่เหมือน Sky Lounge ขนาดใหญ่เพดานสูงกว่า 5 เมตรเลยจ้า

ที่ Sales Gallery มีห้องตัวอย่างให้ดู 3 แบบค่ะ

ทุกห้องมาพร้อม Digital Door Lock ของ Yale ที่สามารถใช้ได้ทั้งรหัส แตะบัตร สแกนลายนิ้วมือ หรือกุญแจ (ส่วนมากคอนโดดังๆที่เห็นยังไม่ให้ถึงรุ่นที่มีสแกนนิ้วกันเลยนะ)

ชุดครัวเป็น Top หินสังเคราะห์ เตาเซรามิค อ่างล้างจานแบบฝัง แต่ยังมีความพิเศษที่ได้จากเพดานห้องที่สูงเป็นพิเศษ ทำให้สามารถเพิ่มฟังก์ชั่นต่างๆรวมถึงพื้นที่เก็บของที่ได้มากกว่าปกติ

ออกแบบให้มีพื้นพักอาศัยกว้างขึ้น ด้วยการลดพื้นที่ทางเดินที่สิ้นเปลืองในห้องครัว

จะเห็นได้ถึงความใส่ใจในการออกแบบและเลือกใช้วัสดุ ตั้งแต่ภายนอกโครงการจนถึงภายในห้องพักที่มีความสอดคล้องเป็น Story และ Theme เดียวกัน

ครัวปิดยังคงเป็นฟังก์ชั่นสำคัญที่กลุ่ม Real Demand ชอบมาก อีกทั้งการออกแบบให้มีครัวปิดอยู่บริเวณทางเข้าห้องยังช่วยกั้นเสียงรบกวนจาก Corridor ได้อีกด้วย

ตู้เสื้อผ้าที่บิ้วอินมาให้กับห้องยังมีฟังก์ชั่นเก็บของพร้อมกระจกแต่งหน้าซ่อนอยู่ด้วย และสามารถเลือกปิดหน้าบานกระจกเพื่อใช้เป็นโต๊ะทำงานได้อย่างเอนกประสงค์

ห้องตัวอย่างแบบ 27 ตารางเมตร

ห้องตัวอย่างแบบ 34 ตารางเมตรที่มีหน้ากว้าง 8 เมตร ถือเป็นห้อง Highlight ของที่นี้

PRICE

คำถามคือราคาเฉลี่ยๆ 140,000 บาทต่อตารางเมตรถือว่าแพงไหม?

คำตอบแบบไม่ได้อวย Dev ในมุมมองของเจ้คือ ไม่เห็นแพงเลย เพราะ LPN ที่อยู่ห่างจาก BTS ม.เกษตร ประมาณ 1.6 กิโลเมตร ยังมาราคา 120,000-140,000 บาทต่อตารางเมตร แถมขายดีมาก หรือจะเทียบกับ Low Rise ตัวเก่าอย่าง Chapter One The Campus เกษตร ที่ราคา Resale เฉลี่ยทุกวันนี้อยู่ที่ตารางเมตรละ 121,000 บาทแล้ว

MITI CHIVA ที่เป็น High Rise ห่าง BTS 150 เมตร แถม Spec ดีกว่ามาก ก็ไม่ถือว่าแพงนะ แถมโครงการใหม่ๆใกล้ Mega Project รัชโยธินก็จะปาไปตารางเมตรละ 2 แสนแล้วด้วย (เค้าเรียกราคาสมเหตุสมผลค่ะ)

ละจริงๆ ราคาเริ่มต้นคือ 3.25 ล้านบาท ซึ่งคือ 129,000 บาท / ตารางเมตรเท่านั้นค่ะ

หลายคนอาจจะมองว่า ทำไมคอนโดกรุงเทพตอนบนราคาแพงจัง ทั้งๆที่ BTS ก็ยังไม่วิ่ง เจ้มองว่าย่านนั้นมันมีแม่เหล็กที่ดึดดูด Traffic ขนาดใหญ่ค่อนข้างเยอะค่ะ ไหนจะอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ แถมยังเป็นบริษัทที่พนักงานรายได้สูงลิ่ว โบนัสก็งาม (คนทำงานบริษัทน้ำมันงี้เธ้อออ ไม่รวยรึ) แล้วตัว ม.เกษตรเองที่เป็นมหาลัยวิทยาลัยรัฐอันดับต้นๆของไทย ก็ถือเป็นแม่เหล็กขนาดใหญ่อยู่แล้ว ที่ดินรอบๆนั้นมีความเจริญเป็นทุนเดิม ราคาก็เลยสูงตามไปด้วย ซึ่งก็มีความสมเหตุสมผลของมันอยู่ค่ะ

CONCLUSION

หลายคนอาจไม่กล้าซื้อคอนโดจาก Dev ชื่อแปลกๆ อันนี้เจ้ก็เป็นค่ะ เพราะเราไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง จะก่อสร้างดีไหม จะรับผิดชอบไหม นิติเป็นใคร โอ้ย…คำถามสารพัด แต่จากที่เจ้ได้ลองฟังๆจากคนที่เคยซื้อโครงการ MITI ตัวแรกที่ลาดพร้าว – วังหินมา เค้าก็บอกว่า OK นะ (ก็ไม่แปลกที่การเปิดขาย MITI CHIVA รอบลูกบ้านเก่า ซึ่งก็มีอยู่แค่โครงการเดียวคือ MITI ลาดพร้าว – วังหิน ถึงได้ขายดิบขายดี)