top of page

One9Five - คอนโดพระราม 9 ที่เด่นด้วยทำเล ส่วนกลาง และ Spec ในราคาที่จับต้องได้


วันนี้ทำเลพระราม 9 ได้รับการยอมรับแล้วค่ะ ว่าเป็นทำเลที่ปังจริง อะไรจริง!

แถมความปังไม่ได้กระจุกอยู่แค่แยกนี้นะคะ แต่เลยขึ้นไปบนถนนรัชดาไปถึง MRT ศูนย์วัตนธรรมแล้ว

ตลอดเส้น MRT สายสีน้ำเงินเอง ก็มี Mega Project เตรียมผุดตลอดแนว ทำให้อีก 3-5 ปีข้างหน้า (คือรอ Mega Project พวกนี้เปิดใช้งานจริง) เส้น MRT สายสีน้ำเงินจะกลายเป็นเส้นที่สำคัญมากกก (แต่ช่วยเพิ่มขบวนรถหน่อยเถอะ 555)

นั้นจะทำให้พระราม 9 กลายเป็นทำเลที่อยู่ใจกลางความเจริญของกรุงเทพฯแบบสุดๆคะ

สี่แยกนี้ยังมีอีกความเก๋ของการเป็นทำเลผสมระหว่าง 'ย่านธุรกิจ' และ 'ย่านที่อยู่อาศัย' ในอนาคต (ต้องรอคอนโดทั้งหมดสร้างเสร็จย้ายเข้ามาอยู่จริงกันก่อน) ซึ่งทำเลที่เป็นลูกผสมแบบนี้จะมี Traffic ปริมาณมากตลอดเวลาทำให้ครึกครื้นตั้งแต่เช้ายันค่ำ ถ้าจะให้เปรียบเทียบให้เห็นภาพ ก็ให้นึกถึง 'พร้อมพงษ์' ที่เป็นลูกผสมของทั้งอาคารสำนักงาน ห้าง และคอนโด กระจุกอยู่รวมกัน เป็นย่านที่มี Traffic สูงตั้งแต่เช้ายันค่ำ มีร้านอาหารและ Cafe เกร๋ๆ สิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ขึ้นมารองรับทั้งคนทำงานในวันธรรมดาและคนอยู่อาศัยในวันเสาร์-อาทิตย์ และกลายเป็นย่านที่มีมูลค่าสูงมากกก จากปริมาณเม็ดเงินที่ไหลสะพัด

พูดมาสะขนาดนี้ แล้วคอนโดไหนในแยกพระราม 9 ละ ที่น่าซื้อ?

สำหรับเจ้ เจ้ว่าคอนโดที่อยู่ฝั่งข้างตึก Unilever ที่รวมถึงโครงการ One9Five นั้นแหละน่าซื้อ (ณ วันนี้ที่ดินและราคาของ One9Five น่าสนใจที่สุดค่ะ)

ที่ชอบทำเลฝั่งนี้มากที่สุดเพราะว่า ใน 4 แยกนี้ จะมีทางขึ้นลง MRT อยู่แค่ 2 ฝั่ง คือฝั่ง Central และฝั่ง Fortune ใช่ไหมค่ะ?

นั้นแปลว่าเราจะไม่ต้องเสี่ยงชีวิตวิ่งข้ามถนนตรงสี่แยก ยืนตากแดด ดมควันรถ กันให้ลำบากค่ะ

อีกทั้งใต้ตึก Unilever และ G Tower มีร้านอาหารเยอะมากกก รวมถึงร้านสะดวกซื้อด้วย

เดินมาแค่ 5 นาทีก็เข้าตึก G Tower ไปเข้าระบบ MRT หรือทะลุไป Central Plaza Rama 9ได้ค่ะ จะข้ามไป Fortune ก็ลอดใต้ดินตากแอร์เย็นๆไปค่ะ บ้านเราเมืองร้อนเนอะ อย่ามโนว่าเดินจะเดินข้ามแยกแบบผมพริ้วปลิวสไวแบบโฆษณาที่ถ่ายที่ New York City

ถ้าจะเดินทางไปต่างประเทศ ตรงนี้ก็ห่างจาก Artport Link แค่ 1 สถานี

ถ้าขับรถก็ถือว่าสะดวกมากกก เข้าสู่ย่านสำคัญอย่าง เพชรบุรี สุขุมวิท พหลโยธิน หรือขึ้นไปทางรัชดา ได้หมด เพราะได้ถนนวัฒนธรรมตรงแยกผังเมืองมาช่วยชีวิตค่ะ เช่นถ้าจะไปเพชรบุรี - สุขุมวิท ก็เลี้ยวเข้าสู่ถนนเพชรอุทัย ไปออกเพชรบุรี แล้วทะลุไปออกสุขุทวิทได้

ถ้าจะขับรถไป Central Plaza Rama 9 หรือเข้าเส้นรัชดาไปทางเหนือ ก็เลี้ยวเข้าแยกผังเมืองไปออกรัชดาตรงแยกศูนย์วัฒนธรรมได้อีก

แล้วจากเส้นรัชดาเอง ก็ยังทะลุไปออกเส้นพหลโยธิน ตรงแยกสุทธิสารได้ด้วยค่ะ

จะเห็นได้เลยว่า ทำเลตรงนี้คือใจกลางของย่านสำคัญๆของกรุงเทพจริงๆค่ะ

ทีนี้มาดูรายละเอียดของโครงการ One9Five กันบ้าง

เป็นคอนโด High Rise 61 ชั้น 2 อาคาร

ที่ดิน 11 - 1 - 6 ไร่

อาคาร A มี 954 ยูนิต, อาคาร B มี 957 ยูนิต

ที่จอดรถแบบไม่รวมจอดซ้อนคัน 951 คัน (50%)

ห้องชุดมี 5 แบบคือ

- 1 Bedroom Junior Suite 25.5 - 27.5 ตารางเมตร

- 1 Bedroom Deluxe 35 - 41 และ 48 - 69.5 ตารางเมตร

- 2 Bedroom Deluxe 55 - 67.5 ตารางเมตร

- 3 Bedroom Exclusive 94 - 109.5 ตารางเมตร - Penthouse 194 - 271.5 ตารางเมตร

จุดเด่นของโครงการ One9Five จะเป็น 'ส่วนกลาง' และ 'Spec ในห้องค่ะ' ที่เจ้ถือได้ว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอับดับต้นๆของย่านนี้เลยค่ะ

ที่นี่เค้า Claim ว่าเค้ามีพื้นที่ส่วนกลางมากถึง 8.6 ไร่เชียวนะคะ และมีพื้นที่ส่วนกลางเยอะมากๆ เริ่มตั้งแต่ชั้น 1 มีสวนพักผ่อนและร้านค้ามากถึง 28 ร้าน

จาก Master Plan จะเห็นเลยว่าโครงการมีพื้นที่สีเขียวเยอะมาก เริ่มตั้งแต่เลี้ยวเข้ามาในโครงการก็จะเจอกับสวนหย่อมด้านหน้าโครงการ ซึ่งจะลากยาวผ่านหน้าพื้นที่ Retail มาจนถึงสวนขนาดใหญ่ด้านหลังโครงการ ซึ่งจะทำให้พื้นที่หน้าส่วน Retail ได้บรรยากาศเป็นเหมือน Avenue เล็กๆ ให้ลูกบ้านลงมาทานกาแฟ ทานอาหารเช้า อ่านหนังสือ หรือพบปะเพื่อนบ้านในบรรยากาศสวนค่ะ

ขึ้นมาบนชั้น 8 จะเจอกับพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่เต็มพื้นที่ทั้งหมด เริ่มจากพื้นที่ Outdoor มีทั้งสระว่ายน้าความยาว 100 เมตร พื้นที่สวนที่ออกแบบ Landscape ให้เป็นเนินเขา และมีที่นั่งพักผ่อนมากมายซ่อนตัวอยู่ในร่มไม้ อาคารแยกด้านหลังสำหรับ Kid Room 2 ชั้น

แต่ที่น่าทึ่งกว่าพื้นที่ส่วนกลางภายในอาคารค่ะ ที่เค้าจัดมาให้แบบแยกอาคารกันไปเลย แถมมาแบบจัดเต็มมากค่ะ อย่างที่ตึก A จะมีทั้ง

- Fitness ขนาด 215 ราตางเมตร

- ห้อง Changing Room แยกชาย (127 ตารางเมตร) หญิง (131 ตารางเมตร) ที่ใหญ่ยังกับ Fitness ชื่อดังตามห้างสรรพสินค้า ภายในห้อง Changing Room มีทั้งห้อง Locker ห้องอาบน้ำ ห้อง Steam ห้อง Sauna ห้อง Warm Stone Spa อีก 2 ห้อง (รวมทั้งห้องน้ำชาย-หญิง และ Tower A, Tower B เป็นทั้งหมด 8 ห้องนะคะ!) และมีห้องน้ำ Handicap ให้บริการด้วย

- Residential Lounge ขนาด 131 ตารางเมตร

- Theater Room ขนาดเฉลี่ยประมาณ 35 ตารางเมตรอีก 2 ห้อง (รวมทั้ง 2 ตึกเป็น 4 ห้อง)

- และที่ Tower B จะมีห้อง Game Room ด้วย

ยังไม่จบแค่นั้นค่ะ เพราะบนชั้น 8 ยังมีส่วนกลางที่เป็นชั้นลอยด้วย ซึ่งก็จะมีทั้ง Fitness ที่มี Function Cross Fit และ Boxing มาให้ด้วย แถมมีห้อง Yoga ให้อีก นี่มันใหญ่ระดับ Fitness ดังๆเลยนะเนี้ย และยังมีห้อง Golf Simulator และ Library ด้วยค่ะ

บนชั้น 61 ยังมี Sky Lounge แบบ Duplex ที่มีเพดานสูงมากด้วยค่ะ

ต่อไปมาดูห้องชุดกันบ้างค่ะ ซึ่งห้องชุดที่โครงการเปิดให้จองจะมีทั้งหมด 8 แบบค่ะ

ที่ Sales Gallery จะมีห้องตัวอย่างให้ดู 4 แบบเลยค่ะ ซึ่งอยากพาไปให้ดู Spec วัสดุที่ให้มากับห้องชุด อยู่ในเกณฑ์ที่ดีมากเลยค่ะ

Type E - 35.5 Sq.M.

Digital Door Lock ที่ให้มากับห้องเป็นของ Yale ค่ะ สามารถใช้ได้ทั้งกุญแจ Card และกดรหัส

เครื่องปรับอากาศเป็นแบบ Concealed คือซ่อนในฝ้าเพดาน และโครงการยังบิ้วอินตู้รองเท้าและตู้เก็บของมาให้ด้วยค่ะ

ชุดครัวให้วัสดุดีเช่นกันค่ะ เป็นหน้าบาน High Gloss, Top หินสังเคราะห์ลายหินอ่อน อ่างล้างจานแบบฝั่ง Hood และเตาเซรามิค ของ MEX

ตู้เสื้อผ้าโครงการก็บิ้วมาให้ด้วยเช่นกันค่ะ

บานเลื่อนระเบียงขนาดใหญ่มาก เกือบจะ Full Height เลยค่ะ รวมถึงรวมกันตกระเบียงที่เป็นกระจก Temper และที่สำคัญที่สุดคือพื้นที่นี่เป็น Engineering Wood นะคะ

Type A - 40.5 Sq.M.

ห้องนี้ก็เป็นอีกห้องนึงที่ Hot มากค่ะ เพราะว่าได้หน้าต่างด้านข้าง ซึ่งจะช่วยทำให้ลม Flow เข้า-ออกห้องได้ดีขึ้น อีกทั้งหน้าต่างบริเวณห้องนอนและห้องนั่งเล่นบานใหญ่เต็มผนังมาก แล้วกั้นห้องด้วยบานเลื่อนกระจกใส ทำให้ห้องดูกว้าง สบายตามากค่ะ

ที่สำคัญคือระบบของบานเลื่อนที่นี่เค้าใช้ Fitting แบบที่ซ่อนอยู่บนฝ้าเพดานนะคะ ทำให้บนพื้นไม่มีรางมาให้เกะกะ หรือสะดุด อีกทั้งยังไม่ทำให้ฝุ่นผงลงไปสะสมทำความสะอาดลำบากอีกด้วย อย่างทุกวันนี้ถ้าใครใช้พวก Robot ดูดฝุ่น มันจะข้ามรางบนพื้นลำบากมาก บางครั้งข้ามไปเสร็จข้ามกลับมาชาร์ตตัวเองไม่ได้อีก แต่บานเลื่อนแบบรางบนของที่นี่ไม่มีปัญหาแบบนั้นค่ะ

ห้องนี้ได้ Walk-in closet ด้วยนะคะ

Type B - 41 Sq.M.

ห้องนี้จะต่างกับห้อง Type A ตรงที่ มีความเป็นสัดส่วนค่ะ คือจะได้ครัวปิด และแยกห้องนอนเป็นส่วนตัว อาจจะเหมาะสำหรับผู้ใหญ่หน่อย หรือคนที่ชอบมีเพื่อนมาบ้านเพราะได้ Space สำหรับวาง Sofa และ โต๊ะทานอาหารขนาดใหญ่ และไม่อยากให้ใครเข้าห้องนอนที่เป็นพื้นที่ส่วนตัวค่ะ

Type D - 68 Sq.M.

สุดท้ายนี้เป็นห้อง 2 ห้องนอนค่ะ ที่จะเน้นพื้นที่ Living Area ขนาดใหญ่มาก เหมาะสำหรับครอบครัวจริงๆ โดยจะเห็นได้ว่าทั้งพื้นที่ครัว ทานอาหาร และ Living จะ Connect ต่อกันได้ทั้งหมด ไม่ว่าใครจะทำกิจกรรมอะไรก็จะสามารถสื่อสารกันได้ค่ะ เป็น Function ที่เจ้ชอบสำหรับความเป็นครอบครัวนะคะ รวมถึงพื้นที่ Living ยังได้กระจกเข้ามุม เปิดให้ช่องแสงเข้าได้มาอย่างดี ทำให้ได้บรรยากาศที่อบอุ่นและ Lively ค่ะ

พื้นที่ห้องนอนเล็ก ก็ไม่ได้เล็กสะจนเป็นห้องเก็บของ คือสามารถใช้งานได้จริงยันลูกเข้ามหาลัยค่ะ

สรุป

สำหรับการเปิดตัวโครงการในช่วง Pre Sale แม้จะไม่มีห้องตัวอย่าง แต่โครงการก็กวาดยอดขายไปได้ถึง 65% ค่ะ เพราะรายละเอียดต่างๆ ของโครงการถือว่าทำออกมาได้ดีมากจริงๆ แถมทำเลก็ยังปังมากๆด้วย

โครงการโดดเด่นมากในเรื่องทำเลที่ตั้ง ที่สะดวกในการเดินทางสู่อาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า และ MRT โดยไม่ต้องวิ่งข้ามถนน หรือการเดินทางได้อย่างสะดวกด้วยรถยนต์ อีกทั้งยังโดดเด่นมากในเรื่องของส่วนกลางที่มีขนาดใหญ่และเยอะมาก สามารถใช้งานได้จริง เรียกได้ว่า แม้จะหั่นครึ่งโครงการออกเป็นสองส่วน ก็ยังถือว่าส่วนกลางยังเยอะมากอยู่เลยค่ะ ภายในห้องเองก็ให้วัสดุคุณภาพดีสมราคา

ปัจจุบันโครงการมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 165,000 บาทต่อตารางเมตร ซึ่งถือว่าเป็นราคาเฉลี่ยที่เป็นกลางของตลาดย่านนี้

ทำเลตรงสี่แยกพระราม 9 นี้ถือเป็นทำเลที่มีศักยภาพสูงมากค่ะ เพราะในอนาคตจะกลายเป็นย่านใจกลางธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีชาวต่างชาติเข้ามาเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกอย่าง Airport Link ที่อยู่ห่างไปเพียง 1 สถานีมาช่วยรองรับทั้งสนามบินดอนเมือง สุวรรณภูมิ และอู่ตะเภาอีกด้วย และที่สำคัญจะมี Super Interchange Station ของรถไฟฟ้าสายสำคัญอย่างสายสีส้มและสีน้ำเงิน ที่บริเวณสถานีศูนย์วัฒนธรรม และยังห่างจาก BTS อโศกใจกลางย่าน CBD เพียง 2 สถานีเท่านั้น

สนใจโครงการลงทะเบียนได้ที่ http://register.one9five.com/

โทร 02 245 0999


bottom of page