top of page

THE BASE สะพานใหม่ - คอนโดติดรถไฟฟ้า ส่วนกลางจัดเต็ม บนทำเลที่อุดมสมบูรณ์สุดๆของพหลโยธินฯ

  • Sukrit Udom
  • Sep 17, 2018
  • 3 min read

ทำเลที่เจ้มองว่ามีอนาคต ในแง่ของการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจ ซึ่งแน่นอนว่าจะส่งผลต่อด้านการพักอาศัยในตอนนี้ก็จะมี เส้นสุขุมวิท เส้นรัชดาฯ และก็เส้นพหลโยธินนี้แหละ ซึ่งวันนี้เราจะมา Focus กันที่เส้น พหลโยธินกันค่ะ

ราคาคอนโดบนเส้นพหลโยธินช่วงที่รถไฟฟ้าวิ่งแล้วนั้นมีราคาสูงมาก เพราะมีย่านธุรกิจกระจายตัวอยู่ตลอดทั้งเส้น รวมถึงยังไม่มีการเปิดให้บริการของรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายหมอชิต - สะพานใหม่ - คูคต ทำให้คอนโดที่คนจะสร้างอยู่แล้วนั่งรถไฟฟ้าไปทำงานได้จริงกระจุกตัวอยู่ในเมือง ราคาจึงสูงมากๆ (รถไฟฟ้าส่วนต่อขยายจะเริ่มเปิดใช้งานปี 63 นี้)

แต่ในทางกลับกัน จะเห็นได้ถึงความต้องการขยายตัวของย่านธุรกิจที่ขยายตัวเลยออกไปถึงย่านรัชโยธินแล้ว ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อมีการจ้างงาน ก็ย่อมมีความต้องการที่อยู่อาศัยตามแนวเส้นรถไฟฟ้าสายสีเขียวในราคาที่คนทั่วไปจับต้องได้ ทำให้คอนโดรอบๆ รถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายที่จะสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ในเวลาใกล้เคียงกับการเปิดให้บริการในปี 2563 กลายเป็นทำเลที่น่าสนใจสำหรับคอนโดระดับกลางค่ะ

ซึ่งย่านที่มีความสนใจมากที่สุดสำหรับรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย ก็คงจะหนีไม่พ้นย่าน 'สะพานใหม่' เพราะเป็นย่านที่มีความอุดมสมบูรณ์มากที่สุดของรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย ที่มีแม่เหล็กสำคัญขนาดใหญ่หลายจุด ไม่ว่าจะเป็นตลาดยิ่งเจริญที่เป็นตลาดขนาดใหญ่มากกกจนต้องพาไปดู แถมยังมี Central Plaza รามอินทรา และสนามบินดอนเมืองที่จะมีการเวนคืนที่ดินเพื่อทำถนนวิ่งจากพหลโยธินไปออกวิภาวดีฯ ได้อีก

หรือถ้าจะเอาให้ง่ายที่สุด ก็คือดูการกระจุกตัวของ Developer ว่าไปกระจุกกันอยู่ในช่วงไหนมากที่ ซึ่งโดยปกติแล้วการกระจุกตัวของโครงการ ก็จะมีอยู่ 2 ประเภท คือ 1. กระจุกตัวตาม Mega Project ที่จะทำให้เกิดกระแส เพราะแม่เหล็กเหล่านี้ช่วยให้กลุ่มนักลงทุนทั้งระยะสั้นและระยะยาวมองเห็นโอกาสในการลงทุน 2. กระจุกตัวตามย่านชุมชนที่มีความเจริญ เพราะเป็นทำเลที่ Real Demand ชอบ มีความอุดมสมบูรณ์สูง พร้อมจะขยายตัวเป็น Residential Hub หรือแหล่งที่อยู่อาศัยที่ดีในอนาคต

สำหรับทำเลสะพานใหม่ก็จะเป็นแบบที่ 2 คือ คือมี Developer ทั้งรายใหญ่ รายเล็กมากระจุกตัวเปิดโครงการกันเป็นจำนวนมาก เพราะนั้นหมายถึงการทำวิจัยและการทำการบ้านมาเป็นอย่างดีของ Developer แล้วคนซื้อก็มั่นใจได้ว่าในอนาคตจะกลายเป็นทำเลที่ดีสำหรับการอยู่อาศัยค่ะ

Location

จากแผนที่จะเห็นว่าโครงการ THE BASE สะพานใหม่สามารถเดินทางเข้าเมืองได้อย่างสะดวก เพราะโครงการอยู่ติดกับรถไฟฟ้าสถานีสายหยุด ซึ่งเดินทางเพียง 6 สถานีถึง ม. เกษตร, 9 สถานีถึงสถานีพหลโยธิน 24, 10 สถานีถึงสถานีห้าแยกลาดพร้าว, 11 สถานีถึงสถานีหมอชิต และ 13 สถานีถึงสถานีอารีย์

โครงการอยู่ห่างจากตลาดยิ่งเจริญเพียง 1 กิโมเตร หรือ 1 สถานีรถไฟฟ้า

อยู่ห่างจาก Central Plaza รามอินทรา เพียง 2.3 กิโลเมตร หรือ 2 สถานีรถไฟฟ้า

และอยู่ห่างจากสนามบิน 9.5 กิโลเมตรหากเดินทางด้วยรถยนต์

ตลาดยิ่งเจริญมีขนาดใหญ่มากถึงประมาณ 18 ไร่ โดยยังไม่รวมลานจอดรถขนาดใหญ่ด้านข้างตลาดอีก 2 ลานค่ะ ถือว่าเป็นตลาดที่มีความอุดมสมบูรณ์มาก เพราะมี Food Court ติดแอร์เปิดให้บริการแบบ 24 ชั่วโมง

รายละเอียดโครงการ THE BASE สะพานใหม่

คอนโดมิเนียม Mid Rise 14 ชั้น บนที่ดินประมาณ 4 ไร่

จำนวนยูนิตห้องหมด 820 ยูนิต

ห้องชุดประกอบด้วย

1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 24.75 - 35.50 ตารางเมตร

2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 48.25 - 55.75 ตารางเมตร

1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ (เพดานสูง 4.55 เมตร) 25.50 - 34.25 ตารางเมตร

2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ (เพดานสูง 4.55 เมตร) 55.75 ตารางเมตร

ส่วนกลางประกอบด้วย:

-Lobby

-Clubhouse และ Recreation Area

-Outdoor Garden บนชั้น 1 และ ชั้น 6

-Fitness แบบเพดานสูงบนชั้น 14

-Multi Purpose Room

-Self Laundry

-Steam Room แยกชาย/หญิง

-สระว่ายน้ำบนดาดฟ้าอาคาร

-สนามเด็กเล่นและสวนดาดฟ้า

-Internet Wifi ในพื้นที่ส่วนกลาง

-EV Charging Station

จุดเด่นข้อแรกของโครงการคือ Location ที่อยู่ติดกับรถไฟฟ้าสถานีสายหยุดเลย ซึ่งโดยปกติแล้ว Brand Segment THE BASE จะไม่มีทางได้ Location ที่ดีขนาดนี้ ซึ่งตัว THE BASE สะพานใหม่นี้มีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ตารางเมตรละ 115,000 บาท

ถามว่าราคานี้สูงไหม? เจ้แนะนำให้ของดูราคาเฉลี่ยๆของโครงการรอบๆที่อยู่ติดกับสถานีสายหยุดเหมือนกันค่ะ

แน่นอนว่าของแสนสิริอาจจะสูงกว่าอยู่นิดหน่อย ซึ่งอันนี้ก็แล้วแต่คนซื้อว่าจะยอมจ่ายค่า Quality ระดับ SANSIRI ไหม

อันนี้เป็นการบ้านที่ต้องไปศึกษาเองนะคะ ว่าคอนโด Brand ไหนโทรมไว โทรมช้า, After Sale ดูแลเป็นยังไง, นิติของที่ไหนดี

แต่เจ้จะบอกไบ้ให้นิดนึงว่า เจ้เป็นคนนึงที่ยอมจ่ายแพงกว่าหน่อย แต่ขอได้งานคุณภาพระดับ SANSIRI ค่ะ

งานออกแบบของที่นี่จะใช้ความ Contrast มาเป็น Concept ในการออกแบบค่ะ

อย่างตัว Facade ด้านนอกอาคาร และการออกแบบ Interior Design จะใช้วัสดุที่มีความแข็งมาทำให้เกิดรูปแบบที่พริ้วไหวเหมือนผ้า เหมือนกับการออกแบบ Shop ของร้าน Miu Miu ที่เป็น Hi-end Fashion Brand ค่ะ

โดยตัว Sales Gallery โครงการนี้ เมื่อโครงการสร้างเสร็จแล้วจะทุบออกครึ่งนึงค่ะ เพื่อทำเป็นพื้นที่ส่วน และอีกครึ่งนึงจะเป็นพื้นที่ Club House ของโครงการค่ะ

Floor Plan ชั้น 1 บริเวณด้านหน้าโครงการ จะมีพื้นที่สวนและ Clubhouse ซึ่งเป็นครึ่งหนึ่งของ Sales Gallery เดิมค่ะ

เมื่อผ่านจุด Drop Off เข้ามาจะมีพื้นที่ Lobby Lounge ที่เป็นแบบเพดานสูง ห้อง Mail Box และห้อง Smart Locker

ที่บริเวณ Lobby Lounge จะมีบันไดวนขึ้นไปเชื่อมต่อกับ Atrium Area ที่ชั้น 2

ทั้งรั้วโครงการ ตัว Facade ด้านนอกของ Club House และตึกพักอาศัย และบริเวณ Drop Off จะมีการออกแบบให้เกิดความโค้งมนของความพริ้วไหว

Lobby เพดานสูงก็จะมีการใช้วัสดุที่เป็นโลหะ มาออกแบบให้เป็น Pattern ที่พริวไหวเหมือนผ้าบนผนังด้านขวา

การปลูกต้นไม้แบบ Upside Down บนเพดาน Lobby ที่ทำให้เกิดความสวยงามแปลกตา

การตัดหินอ่อนเป็นวงกลม วางรองได้พื้นที่พักผ่อนเสมือนเป็นพรม บ่งบอกถึงความ Contrast ของการใช้วัสดุที่มีความแข็งแทนวัสดุที่อ่อนนุ่ม

การตกแต่งฝ้าเพดานจำลองที่ Sales Gallery โครงการค่ะ

<ใส่รูป Shop Miu Miu>

พื้นที่สวนพักผ่อนด้านหลังโครงการ

ขึ้นมาที่ชั้นสอง จะเริ่มเป็นพื้นที่พักอาศัยแล้วค่ะ และมีช่อง Void ตรงกลางที่ออกแบบให้เป็น Atrium Area หรือสวนแบบ Indoor ซึ่งจะได้รับช่องแสงมาจาก Skylight ด้านบนค่ะ

บนชั้น 6 จะมีพื้นที่สวนค่ะ

บนชั้น 14 จะเป็นพื้นที่ส่วนกลาง Fitness, Multi Purpose Room, ห้อง Changing Room ที่มีห้อง Steam และห้องชุดแบบเพดานสูง 4.55 เมตรค่ะ รวมถึงทาง Slope วนขึ้นสู่ชั้นดาดฟ้า สำหรับผู้ที่ไม่สะดวกในการเดินขึ้นบันไดค่ะ

ห้อง Fitness ขนาดใหญ่แบบเพดานสูง

ห้อง Multi Purpose Room

ห้อง Changing Room ชายที่ตกแต่งด้วยหิน Terrazzo ซึ่งเป็น Trend การออกแบบที่กำลังนิยมทั้งในไทยและต่างประเทศ โดยจะเป็นได้จากตกแต่งภายในของ Shop Brand Hi-End อย่าง Valentino และ Celine

ตัวอย่างห้องน้ำที่ตกแต่งด้วยหิน Terrazzo สามารถชมได้ที่โครงการค่ะ

ขึ้นมาบนชั้นดาดฟ้าจะมีพื้นที่สระว่ายน้ำและสวนพักผ่อนค่ะ

สระว่ายน้ำสามารถเปลี่ยนแสงในสระเป็นสีชมพูได้ค่ะ

ที่นี่มาดูห้องตัวอย่างกันบ้างค่ะ ที่โครงการจะมีห้องตัวอย่างให้ดู 2 แบบ คือแบบ 1CM - 27.75 - 29.50 ตารางเมตร และแบบ 1F - 33.75 - 34.25 ตารางเมตร

ซึ่งเจ้จะพาไปดูห้องตัวแบบ 1F - 33.75 - 34.25 ตารางเมตรกันก่อนค่ะ เพราะเป็น Plan แบบใหม่ที่มีการกั้นห้อง Multi Purpose ไว้ให้ และมีการแยกพื้นที่ส่วน Living Area ออกจากส่วนอื่นอย่างชัดเจนรวมถึงการขยายพื้นที่ Living Area ให้ดูกว้างขึ้น

เดี๋ยวนี้ Digital Door Lock ใช้ของ Yale กันแล้ว

ห้องชุดจะมี 2 แบบคือแบบความสูง 2.55 เมตร และ 4.55 เมตรค่ะ ซึ่งจะเป็นครัวปิดเกือบทั้งหมด (มีแค่ Type 2C และ 2C-1 ที่เป็นครัวเปิด)

Spec ของชุดครัวถือว่า Upgrade ขึ้นมาจาก THE BASE ตัวเก่าๆมากเลยค่ะ

นอกจากนี้ยังมีระบบ Home Automation มาให้ด้วย ซึ่งรวมถึงสวิตไฟแบบ Touch

ตัวรับสัญญาณสำหรับระบบ Home Automation

ตัวรับคำสั่งผ่านเสียง

ด้วยความที่ห้องมีพื้นที่ Living Space ที่กว้างขึ้น ทำให้มีพื้นที่มากพอที่จะวางชุดโต๊ะอาหารที่สามารถนั่งได้ถึง 4 ที่นั่งได้สบายๆ ซึ่งห้องชุดจะมาแบบ Fully Furnished ด้วยค่ะ

พื้นที่ Multi Purpose ที่ทางโครงการจะทำบานเลื่อนกั้นห้องมาให้ โดยที่ห้องตัวอย่างจะทำเป็นห้อง Working Area + Storage Room มาให้ดูค่ะ แต่ลูกบ้านสามารถปรับเปลี่ยนเป็นอะไรก็ได้ค่ะ เช่นห้องทำงาน ห้องเก็บของ เป็นต้น

นอกจากนี้ยังทำให้มีพื้นที่ท้ายเตียงกว้างขึ้นอีก ได้พื้นที่เปิดโล่งไม่อึดอัด

กระจกหน้าต่างและบานเลื่อนได้เป็นกระจก Laminate ซึ่งเป็นกระจกนิรภัยสองชั้น กันเสียงและความร้อนได้ดี

รูปแบบของ Furniture Package ที่มากับห้องชุด

และห้องตัวอย่างแบบ 1CM - 27.75 - 29.50 ตารางเมตร

สรุป

แม้ว่าทุกวันนี้ทำเลสะพานใหม่อาจจะยังดูไม่น่าตื่นตาตื่นใจมาก รวมถึง Rate ค่าเช่าก็ยังไม่สูง เป็นเพราะยังไม่มีการให้บริการของรถไฟฟ้า แต่หลังจากที่รถไฟฟ้าเริ่มเปิดบริการ จะทำให้ Traffic ของคนที่ทำงานในเมืองขยับขยายเข้ามาในบริเวณสะพานใหม่เป็นจำนวนมาก เพราะทั้งเดินทางสะดวก อาหารการกินอุดมสมบูรณ์ รวมถึงยังมีแม่แหล็กใหญ่อย่าง ตลาดยิ่งเจริญ Central Plaza รามอินทราด้วย ซึ่งเมื่อถึงวันนั้น พื้นฐานหลายๆอย่างของทำเลนี้จะเปลี่ยนไป รวมถึง Rate ค่าเช่าและราคาคอนโดด้วย

โครงการ THE BASE สะพานใหม่ของ SANSIRI ถือได้ว่าเป็นโครงการที่มี Spec ดีมาก ทั้งในส่วนกลางและภายในห้องพักอาศัย อย่างชุดครัวที่ Upgrade ให้ทั้งมีขนาดใหญ่ขึ้น มีที่เก็บของมากขึ้น และใช้วัสดุที่ดีขึ้นด้วย ส่วนกลางก็ความหลากหมายและมีขนาดใหญ่ รวมถึงทำเลที่ตั้งที่อยู่ติดกับสถานีรถไฟฟ้า ทำให้ใช้ชีวิตคนเมืองได้อย่างสะดวกสบายมาก

เรื่องของราคาเมื่อนำราคาเฉลี่ยมาเทียบกับโครงการรอบข้างที่ติดกับรถไฟฟ้าสถานีสายหยุดแล้ว อาจะมีราคาสูงกว่านิดหน่อย แต่ว่าได้ Spec ห้องชุดและส่วนกลางที่ดีกว่า รวมถึง Brand SANSIRI ก็เป็น Brand ระดับ Top ที่ให้ความมั่นใจได้ในคุณภาพการก่อสร้างและบริการหลังการขายที่ดี

สนใจโครงการสามารถลงทะเบียนเพื่อรับส่วนลดสูงสุด 30,000 บาท*ได้ที่ https://bit.ly/2QBY0h2

เปิดให้จองรอบ Pre - Sale วันที่ 22 - 23 กันยายนนี้

พร้อมรับ Promotion

ฟรี! เครื่องใช้ไฟฟ้า

ฟรี! ห้องชุดแบบ Fully Furnished

ผ่อนดาวน์สบายๆ เริ่มต้นเพียงเดือนละ 2,499 บาท*

โทร 1685


 
 
 

Comments


bottom of page