THE RESERVE 61 HIDEAWAY - 'Lifestyle' อีกระดับของ Super Luxury
- Sukrit Udom
- Oct 9, 2018
- 4 min read

ก่อนจะพาไปดูคอนโด THE RESERVE 61 HIDEAWAY คอนโด Brand Top ของพฤกษาตัวใหม่ล่าสุด เจ้อยากจะชวนเม้าเรื่องตลาดกลุ่มนี้กันก่อนค่ะ เพราะที่ THE RESERVE 61 HIDEAWAY นี้มีอะไรใหม่ๆมาให้ตื่นเต้นด้วยละ (ไม่รู้คนอื่นเค้าจะตื่นเต้นเหมือนเจ้ไหมนะ 555)
ด้วยความที่เจ้เป็นนักการตลาดเนอะ ก็จะต้องพยายามเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคหลายๆกลุ่ม ซึ่งพฤติกรรมหรือ Lifestyle ของคนอ่ะ ก็จะเปลี่ยนไปในแต่ละยุค แต่ละสมัย วันนี้เราจะมาเม้าคนรวยกันค่ะ คนรวยยุคใหม่ เค้าจะเน้นเรื่อง Lifestyle มาก คือหมดยุคแล้วอ่ะ ที่มาอวดกันเรื่องของแพง Brand Name มันไม่ดู Smart แล้ว (แต่ยังซื้อใช้นะ อวดแบบเนียนๆเหมือนไม่ตั้งใจ ดูเท่กว่า 555) แต่เป็นยุคที่ พอคนมีเงิน ก็อยากจะซื้อ Experience มากขึ้น เผื่อใครไม่เห็นภาพนะ ยกตัวอย่าง วันก่อนเจ้เจอผู้บริหารบริษัทนึงที่ร้านกาแฟ ก็เลยได้มีโอกาสนั่งเม้ากัน เจ้ก็ทักเค้าไปว่า พี่ดูผอมลงเยอะมากนะครับ เค้าก็บอกกลับมาว่า อ้อ พอดีช่วงนี้ผมชอบวิ่งครับ ผมเพิ่งกลับมาจากไปวิ่งที่ Central Park มาก บรรยากาศมันดีมากเลย (Central Park ที่ New York City นะจ๊ะเธอออ ของเจ้นี่ ได้ไปวิ่งสวนลุมก็รู้สึกตัวเองเก๋แล้ว) แล้วก็เม้ามอยเรื่องอสังหากันไป หรือถ้าใครติดตามดู 'สาจ๋า' จะเห็นเลยว่า EP 4 ป่ะ ที่เค้าจัด Party แล้วให้ Chef เข้ามาทำอาหารในกินที่บ้าน แถมยังได้มีโอกาสทำอาหารร่วมกับ Chef ชื่อดังอีก แต่เรื่องที่เห็นได้ชัดมากๆในทุกคนรวยคือ พอมีเงินแล้วทำไรคะ 'เที่ยวค่ะ !!!'
ทีนี้กลับมาดูที่คอนโดกันบ้าง ว่าแล้ว Lifestyle เหล่านี้มันเกี่ยวอะไรกับคอนโด THE RESERVE 61 HIDEAWAY หรอ
คือเวลาเจ้เห็น Developer เปิดตัวโครงการระดับ Super Luxury ตั้งแต่อดีตมานะ ส่วนมากก็จะพูดถึงแค่ 2 เรื่อง คือ Space กับ Spec แน่นอนค่ะ เรื่อง Space เรื่องใหญ่มาก ก็คนรวยเค้าเคยชินกับพื้นที่ใหญ่ๆกว้างๆ ฉะนั้นจะเห็นเลยว่า หลายๆโครงการที่เป็นระดับ Super Luxury ห้องหรือบ้านหลังแพงๆใหญ่ๆจะไปเร็วมากกก ซึ่งก็เป็นตัวบ่งบอกฐานะและความสำเร็จด้วย
ส่วนเรื่อง Spec นี้ เผื่อความแฟร์เราต้องแยกก่อนนะคะ เพราะ Spec มีหลายมุม Spec ในเรื่องของ Location เรื่องของ Branded หรือเรื่องของ Material เรื่องของ Location ก็เช่น สุดยอดทำเล ไม่มีอีกแล้ว อะไรแบบนี้ ก็มีให้เราเห็นกัน หรือเรื่องของ Branded เช่น การดึง Designer หรือบริษัทที่มีชื่อเสียงมาช่วยออกแบบ เพื่อให้เกิด Value Added ว่าโครงการนี้ไม่ใช่ตาสีตาสาที่ไหนออกแบบนะ แต่เป็นคนนี้เลย ส่วนเรื่องของ Material ก็จะเป็นการนำวัสดุเกรดที่ดีที่สุดมาใช้ในโครงการ
THE RESERVE 61 HIDEAWAY เป็นโครงการที่ทางพฤกษาเรียนรู้มาจาก THE RESERVE Sukhumvit 61 ตัวแรกที่ Sold Out ไปแล้ว แล้วพัฒนายิ่งขึ้นไปอีก ซึ่งที่นี่จะมีครบทั้ง 3 เรื่องคือ Space, Specification และ Lifestyle ค่ะ
Space
ที่นี่เค้า Up ขนาดห้องให้ใหญ่ขึ้นค่ะ โดยห้องเล็กสุดของโครงการจะอยู่ที่ 48.42 ตารางเมตร และห้องใหญ่สุดอยู่ที่ 228.55 ตารางเมตร โดยจะเน้นสัดส่วนของห้อง 2 ห้องนอนค่อนข้างเยอะ รวมถึงมีห้องแบบ 3 ห้องนอนด้วย ซึ่งบนเส้นสุขุมวิทนี้ ห้อง Size ใหญ่เป็นที่ต้องการของตลาดมาก เพราะทั้งคนอยู่เอง หรือผู้เช่าฝรั่งและญี่ปุ่น ต่างก็ชอบห้องใหญ่ๆกว้างๆทั้งนั้น ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจว่า พอเปิดโครงการมาวันแรก ห้องแบบ Duplex และ Triplex ที่เป็นห้องแบบ 3 ห้องนอนขายหมดไปอย่างไว
Specification
เรื่องของ Specification ในมุมของ Material ของโครงการ THE RESERVE 61 HIDEAWAY นี้ถือว่าสุดยอดมากค่ะ
แต่ที่ตั้งโครงการอาจจะมีระยะห่างจาก BTS เอกมัย 800 เมตร ซึ่งอาจจะดูเหมือนเป็นข้อด้อยใช่ไหมค่ะ แต่ถ้าเราย้อนกลับมาดูที่พฤติกรรมคนรวย เค้าขับรถกันอยู่แล้วค่ะ นั้นคือสาเหตุที่โครงการนี้ต้องมีปริมาณที่จอดรถ 100% อีกทั้งความเป็นถนนซอยกลับช่วยสร้างความ Private และลดเสียงรบกวนจากทั้ง BTS และถนนใหญ่ได้ด้วยค่ะ
ห้องตัวอย่างมีแค่ 1 แบบนะคะ เป็นแบบ 2 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ขนาด 121.36 ตารางเมตร


เริ่มกันจากประตูห้อง จะเป็นประตูที่สามารถเปิดออกไปทั้งสองข้าง เพื่อเปิดช่องทางเดินให้ได้กว้างมากขึ้น โดยช่องประตูจะกว้าง 90 cm. + 40 cm. (Furniture เกรด Super Luxury โดยมากแล้วจะมีขนาด Oversize ค่ะ จึงสะดวกมากขึ้นในการขนย้าย)

ห้องชุดจะมาพร้อมกับ Digital Door Lock ของ Yale รุ่น Push and Pull ค่ะ

ตรงบริเวณประตูบานเล็กจะมีช่อง Mail Box ซึ่งทาง Concierge by The Reserve เค้าจะนำมาหย่อนให้เราถึงหน้าห้องค่ะ ส่วนถ้าเป็นพัสดุขนาดใหญ่ ทางโครงการก็จะมี Smart Locker ไว้ให้บริการด้วยค่ะ

มี Video Door Phone เพื่อติดต่อกับ Guest ที่เข้ามาหาได้ด้วยค่ะ

หน้าจอสำหรับแสดงผลตัว Video Door Phone ค่ะ

พอเดินเข้าประตูมาจะมีตู้สำหรับเก็บรองเท้าและเก็บของบิ้วไว้ให้เลยค่ะ แถมวัสดุปิดผิวยังมีการตกแต่งให้มีลวดลายเพิ่มความหรูหราค่ะ


มีการออกแบบห้อง Laundry ที่สามารถวางได้ทั้งเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้า และยังมีพื้นที่มากพอเพื่อรีดผ้าและแขวนหรือพับก่อนย้ายไปไว้ในตู้เสื้อผ้าด้วยค่ะ

พื้นบริเวณครัวเป็น Porcelain ลายหินอ่อน และพื้นบริเวณ Living และห้องนอนจะเป็น Engineering Wood ปูลาย Herringbone ซึ่งตัวพื้น Engineering Wood คือการใช้ผิวหน้าไม้จริงมาเคลือบสารที่จะช่วยให้เกิดความคงทนมากขึ้น จึงจะได้สัมผัสของไม้จริง อีกทั้งการปูแบบลายก้างปลานี้ เป็นรูปแบบการปูแบบ Classic ที่ใช้กันมาตั้งแต่ในวังอย่างพระราชวังแวร์ซายเป็นต้น ซึ่งเป็นการปูที่ต้องมีความละเอียดและมีต้นทุนที่สูงกว่าการปูแบบปกติเนื่องจากต้องใช้ปริมาณไม้มากขึ้น

สำหรับห้องแบบ 2 ห้องนอน size ตั้งแต่ 67 ตารางเมตรขึ้นไป จะมี Island ชุดครัวเพิ่มมาให้ด้วยค่ะ ซึ่งนอกจากจะใช้งานได้จริงแล้วยังดูหรูหราสวยงาม เหมือนเป็น Furniture ตัวเด่นที่ตั้งไว้อวดโฉมภายในบ้านได้

โดยวัสดุที่ใช้ปิดผิวตัว Island ด้านบนจะเป็นหิน Quartz ซึ่งเป็นหินที่มีราคาสูงเพราะมีความแข็งแรงคงทนมากและมีรูพรุนน้อยทำให้ไม่ค่อยสะสมคราบสกปรก ส่วนด้านข้างจะเป็นหินอ่อน Black Forest ที่มีลายเส้นเฉพาะตัวที่โดดเด่นและโทนสีที่ตัดจากบรรยากาศรอบๆ เป็นเหมือนงานศิลป์ตั้งโชว์อยู่กลางห้อง



ชุดครัวสวยงามด้วยวัสดุและอุปกรณ์ไฟฟ้าเกรด Premium ซึ่งพอมาเจาะลงรายละเอียดแล้ว มีลูกเล่นอะไรอีกเพียบเลยค่ะ


ตัวก๊อกน้ำอ่างล้างจานตัวนี้เป็นระบบสัมผัสค่ะ เผื่อว่าบางทีมือเราเลอะอะไรมา แล้วไม่อยากให้ตรงก้านโยกเลอะเทอะ ก็สามารถให้แขนสัมผัสที่ตัวก๊อกเพื่อเปิดน้ำได้ค่ะ ส่วนตัวอย่างเป็นอ่างแบบหล่อด้วย Solid Surface

ตัว Island มีออกแบบพื้นที่สำหรับคว่ำจาน ซึ่งน้ำจะไหลลงไปรวมกับท่อน้ำทิ้งค่ะ ซึ่งถ้าวันไหนมีการจัด Party จะเปิดออกมาเอาน้ำแข็งใส่แล้วทำเป็นถังแช่เครื่องดื่มก็ได้นะคะ

ใต้อ่างล้างจานจะมีเครื่องปั่นเศษอาหารด้วยค่ะ ช่วยลดปัญหาการอุดตัน

วัสดุที่หน้าบานและภายในดูดีมากๆ

เตาอบ เตาไฟฟ้า และ Hood เป็นของ Gorenje รุ่นที่ออกแบบโดย Philippe Starck ที่เป็นสถาปนิคชื่อดังระดับโลก เจ้เคยไปดูราคามาค่ะ (ราคาเต็มนะคะ) ตกชิ้นละประมาณ 5x,xxx - 7x,xxx บาทอะค่ะ รวมกัน 3 ชิ้นนี้ก็หลักแสนแล้วค่ะ ซึ่งอย่างตัว Hood ดูดควันก็จะมีลูกเล่นตรงที่เป็นเครื่องฟอกอากาศได้ด้วยค่ะ

ตรงบริเวณพื้นที่ครัวจะมีห้องน้ำสำหรับแขกด้วยค่ะ




นอกจากจะมีการออกแบบพื้นที่ Living Area ให้มีขนาดใหญ่แล้ว ยังออกแบบให้มีห้อง Hideaway terrace เพิ่มมาด้วยค่ะ และถ้าสังเกตกระจกหน้าต่างให้ดี จะเห็นว่ากระจกหน้าต่างบานใหญ่มากกกและให้กระจกเต็มความสูง 2.7 เมตรของห้องและพยายามลดเฟรมหน้าต่างออกให้มากที่สุด แถมยังออกแบบให้มีพื้นที่ยื่นออกไปพร้อมกระจกโค้งเพื่อ Take วิวได้ 180 องศา เป็นเหมือนการดึงเอาวิวพื้นที่ส่วนกลางเข้ามาเป็นส่วนนึงของห้องค่ะ



พื้นที่ใน Hideaway terrace นี้จะเป็นพื้นที่ Semi Outdoor คือกึ่งๆว่าจะเป็นระเบียง แต่ก็สามารถปิดเป็นห้องได้อีกห้องเพราะเค้าติดตั้งเครื่องปรับอากาศมาด้วย โดยตัวบานสวิงสามารถเปิดได้ 90 องศา และจะมีกระจกกันตกอยู่เพื่อความปลอดภัยค่ะ ทำให้ในวันที่อากาศดีๆ อย่างช่วงหน้าหนาว ก็สามารถมานั่งพักผ่อนเปิดหน้าต่างรับลมชิวๆได้ค่ะ



ไปดูห้องนอนเล็กกันต่อ เน้นย้ำนะคะ ว่านี่คือห้องนอนเล็ก เพราะมันใหญ่มากกก






Master Bedroom ค่ะ


จะเห็นได้ว่ากระจกหน้าต่างอลังการมาก


เจ้ว่าห้องน้ำที่นี่เป็น Highlight มากค่ะ เพราะเค้าออกแบบให้เหมือนห้องน้ำในโรงแรมหรู เรียกได้ว่า เพิ่มสุนทรีย์ในการใช้ห้องน้ำได้มากทีเดียว ซึ่งตัว Walk-In Closet นี้จะบิ้วมาให้กับห้องเลยนะคะ

โดยที่เค้าจะวางเคาเตอร์อ่างล้างหน้าแบบ His & Her ไว้ตรงกลางห้อง และมีตู้เสื้อผ้าและชั้นวางของโอบล้อม

แม้ว่าหน้าบานตู้เสื้อผ้าจะเป็นกระจกชาดำ ที่เมื่อเปิดไฟจากข้างในตู้จะสามารถมองเห็นข้างในตู้ได้ แต่โครงการเค้าเตรียมทางแก้ไว้ให้แล้วค่ะ สำหรับคนที่ไม่อยากเห็นความรกของตู้เสื้อผ้า คือเมื่อปิดไฟปุ๊ป หน้าบานจะกลายเป็นเหมือนกระจกเงาทันที


ภายในตู้เสื้อผ้าบิ้วมาให้แล้วอย่างดีค่ะ

โต๊ะอเนกประสงค์ยังมี Function ช่องเก็บของพร้อมกระจกเงาสำหรับทาครีมหรือแต่งหน้าให้ด้วยค่ะ

มาดูอ่างล้างหน้าแบบ His & Her มาตั้งเก๋อยู่กลางห้องน้ำกันบ้าง เจ้ว่านี้เป็นคอนโดใน กทม. ที่แรกเลยป่ะ ที่มีความเก๋ระดับนี้ ก็อย่างที่เจ้บอกไปว่า ตอนนี้ไม่ใช่แค่เรื่อง Space กับ Spec แล้ว ต้องมีเรื่อง Lifestyle ด้วย ซึ่งทางโครงการเค้าก็ต้องคิดว่าจะทำยังไงให้เอา Lifestyle ระดับ Super Luxury มาผสมผสานไปกับชีวิตประจำวันได้ ก็เลยออกมาเป็นรายละเอียดความเก๋พวกนี้แหละค่ะ ซึ่งยังมีอีกมากที่ส่วนกลางที่เดียวจะพาไปดูทีหลังนะคะ ส่วนเรื่องวัสดุก็ไม่ต้องห่วงค่ะ Top อ่างล้างหน้าเป็นหินอ่อน Black Forest ตัวอ่างเป็นหินสังเคราะห์ ส่วนก๊อกน้ำเป็นของ Villeroy & Boch brand ระดับ Top จากประเทศเยอรมนี ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานมาตั้งแต่ปี 1748


ห้อง Shower Box และห้องสุขภัณฑ์ จะแยกเป็นห้องๆส่วนตัว เผื่อใครอยู่กันสองคน จะเข้าห้องน้ำพร้อมกันก็จะได้ไม่เคอะเขินมากเพราะบานกระจกนิรภัยที่ใช้เป็นสีชาดำค่ะ 555 ผนังห้องน้ำฝั่งนึงจะกรุด้วยหินอ่อน Black Forest ดูสวยงามเพิ่มความหรูหราให้ห้องน้ำค่ะ
ตัวสุขภัณฑ์เป็น Villeroy & Boch ที่ให้ Seat รุ่น Viclean-L ที่เป็นระบบ Washlet พร้อม Remote ติดตั้งบนผนัง

ห้อง Shower Box ก็ให้เป็น Set ฝักบัวพร้อม Rain Shower ของ Villeroy & Boch เช่นกันค่ะ แต่ที่เจ้ชอบมากคือมีที่นั่งให้ด้วย สำหรับคุณผู้หญิงและเจ้ๆ ที่อยากจะนั่งขัดตัว ขัดเท้า ก็สะดวกสบายมาก


แน่นอนนว่าสำหรับกลุ่มลูกค้า segment super luxury เรื่อง Space เป็นเรื่องสำคัญมากกก ทางโครงการจึงออกแบบให้มีห้องขนาด 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ ที่แต่ละห้องนอนมีห้องน้ำเป็นของตัวเองทั้งหมด และมีห้องน้ำแขกแยกต่างหาก อีกทั้งยังมีห้องนอนและห้องน้ำแม่บ้าน ห้องเก็บของ และ Hideaway terrace อีก ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานได้หลากหลาย เช่นหากลูกบ้านใช้บริการแม่บ้านจากภายนอกที่มาทำงานแบบไปเช้าเย็นกลับ ก็สามารถเปลี่ยนห้องแม่บ้านเป็น Storage ได้อีกค่ะ
Lifestyle
สำหรับ Part นี้ที่เจ้มองว่าเป็นจุดเด่นที่ทำให้โครงการ THE RESERVE 61 HIDEAWAY ไม่เหมือนที่อื่นคือการนำ Lifestyle ระดับ Super Luxury มาใช้ในการออกแบบโครงการ ซึ่งก็อย่างที่เห็นไปแล้วในห้องตัวอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการทำพื้นที่หน้าต่างยื่นออกไปสามารถชมวิวได้ 180 องศา เพื่อดึงวิวส่วนกลางเป็นสร้างบรรยากาศให้กับห้อง และห้อง Hideaway terrace แบบ Semi Outdoor ให้ออกไปนั่งรับลมในวันที่อากาศดีๆ รวมถึงห้องน้ำที่มีการออกแบบให้เหมือนโรงแรม 5 ดาว นอกจากนี้ในพื้นที่ส่วนกลางยังมีการออกแบบให้เหมือนกับได้พักผ่อนอยู่โรงแรมหรูอีกเช่นกันค่ะ ซึ่งเดียวเราจะไปไล่ดูตามรายละเอียดโครงการกันค่ะ
ที่ดิน : 3 - 2 - 60 ไร่
มีอาคารพักอาศัย 2 อาคาร 7 ชั้น (ไม่รวมชั้นใต้ดินนะคะ)
ห้องพักทั้งหมด 164 ยูนิต
ที่จอดรถแบบ Conventional มีช่องจอด 100%
ส่วนกลางประกอบด้วย:
Infinite Pool
Hideaway Garden
Panoramic Lobby
The Reserve Lounge
Fitness Suite
Wellness Retreat & Onsen
Private Salon & Spa
Pathway on 3rd

ไม่ใช่แค่เฉพาะภายในห้องชุดนะคะ งานสถาปติยกรรมภายนอกห้องชุด ทาง THE RESERVE เค้ามีความละเมียดละไมในการออกแบบมาก เริ่มกันตั้งแต่ตัวอาคารที่เค้าเลือกใช้หิน Limestone ที่ใช้ในงานสถาปิตยกรรมชื่อดังหลายแห่ง เช่น The Empire State, The Pentagon, The Lincoln Memorial เป็นต้น ซึ่งเจ้ว่าทำให้ตัวอาคารดูมีความ Classic ดูแพง และดู Timeless เรียกได้ว่ายิ่งนานยิ่งสวยค่ะ

โครงการ THE RESERVE 61 Hideaway ยังมีการออกแบบส่วนกลางและพื้นที่สีเขียวให้ใหญ่กว่าเดิมมาก จนเรียกได้ว่าเป็น Triple Facilities ที่มีขนาดมากถึง 2.3 ไร่ โดยส่วนกลางที่เด่นที่สุดเห็นจะเป็นตัว Infinite Pool ที่มีความยาวทั้ง 4 ด้านรวมกันมากถึง 144 เมตร โดยมีส่วนที่เป็น Lap Pool ยาวต่อเนื่องถึง 90 เมตรค่ะ ซึ่งสระที่ใหญ่ขนาดนี้เมื่อเทียบกับปริมาณห้องเพียง 164 ยูนิต ถือว่าเหลือเฟือสุดๆค่ะ แถมยังช่วยสร้างวิวที่สวยงามและเย็นสบายให้กับห้องชุดด้วย

ในบริเวณส่วนกลางนี้ยังมี Hideaway Garden ที่เป็นสวนเล่นระดับขนาดใหญ่ ทำให้เมื่อเวลาใช้งานจริง จะซ่อนตัวหายไปในร่มไม้ ไม่ปะทะสายตากับผู้ที่ใช้ส่วนกลางในบริเวณอื่นๆ

ใต้ Infinite Pool ยังมี Private Salon & Spa ซ่อนตัวอยู่ ซึ่งเป็นส่วนกลางที่ตอบโจทย์ Lifestyle คนประสบความสำเร็จรุ่นใหม่ที่ให้ความสำคัญกับการดูแลตัวเอง และเป็นการผ่อนคลายจากภารกิจในแต่ละวัน ซึ่งทางโครงการเข้าใน Lifestyle ของลูกค้า Segment นี้เป็นอย่างดี และรู้ว่าลูกค้ากลุ่มนี้ชอบความ Private มาก จึงออกแบบให้ลูกบ้านสามารถสั่งจองการใช้ห้อง Private Salon & Spa ได้อย่างเป็นส่วนตัว เสมือนกับการเข้าพักใน Resort หรูเลยค่ะ
ในบริเวณใกล้เคียงยังมีห้องห้อง Onsen แยกเป็นห้องผู้ชาย มี Onsen 2 บ่อ น้ำร้อน-น้ำเย็น และห้อง Sauna ส่วนห้องผู้หญิง มี Onsen 2 บ่อ น้ำร้อน-น้ำเย็น และห้อง Steam ค่ะ

แม้จะเป็น Condo Low Rise แต่ก็สามารถใส่ Lobby ความสูง 6 เมตร พร้อมกระจก Full Height ที่ใช่กระจกขนาดใหญ่พิเศษเพื่อที่จะพยายามลดปริมาณเฟรมให้ได้มากที่สุด เพื่อให้เวลานั่งอยู่ใน Lobby แล้วรู้สึก Connect กับสวนส่วนกลางภายนอก เหมือนว่าไม่มีอะไรมากั้นกลางค่ะ

บนชั้น 3 ยังมีห้อง The Reserve Lounge สำหรับให้ลูกบ้านพักผ่อน นั่งทำงาน หรือประชุม ซึ่งจะมีทางเชื่อมต่อไปสู่ ห้อง Fitness ได้ค่ะ
เรื่องของ Lifestyle ไม่ได้จบแค่ในโครงการเท่านั้น แต่ยังรวมถึง Location ที่ตอบโจทย์ Lifestyle สุด Luxury ของคนเมืองอีกด้วย อย่างที่ทราบกันดีว่าย่าน Lifestyle สุดเก๋ของชาวสุขุมวิทไม่ได้อยู่บริเวณต้นทองหล่อ แต่เป็นช่วงกลางทองหล่อต่างหาก ที่เต็มไปด้วย Avenue, Community Mall, ร้านอาหาร, ร้านค้า, Super Market และสถานที่ออกกำลังกายมากมายที่เป็นย่าน Hang Out ของทั้งชาวไทยและ Expat (คนรวยกับเพื่อนต่างชาติเป็นของคู่กันนะจ๊ะ) อาทิเช่น Seenspace, The COMMONS, J Avenue, 72 Courtyard เป็นต้น ซึ่งสามารถเดินทางได้โดยง่ายจากซอยทองหล่อ 10 ซึ่งโครงการ THE RESERVE 61 HIDEAWAY ก็ห่างจากซอยทองหล่อ 10 เพียงแค่ 350 เมตรเท่านั้น หรือถ้าจะนับถึงเส้นทองหล่อเลยก็แค่ 850 เมตรเท่านั้น

อีกทั้งในความเห็นส่วนตัวของเจ้ เจ้ยังมองเห็นว่ามีแนวโน้มที่จะกระจายออกมายังช่วงกลางของเอกมัยเช่นกัน โดยจะเห็นได้จากโครงการห้างสรรพสินค้าและโครงการใหม่ๆที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต รวมถึงร้านอาหารชื่อดังมากมายที่กระจายตัวเข้ามาในเอกมัย 12 แล้ว อาทิเช่น Pesca Mar & Terra Bistro ที่ได้รางวัล Best Restaurants 2018 จาก Thailand Tatler ด้วย ฉะนั้นช่วงของทองหล่อ-เอกมัยนี้แหละที่เป็นทำเลที่มีศักยภาพสูงค่ะ
ความเห็นที่มีต่อโครงการ
ต้องยอมรับเลยว่าทีมที่ดู THE RESERVE 61 นี้เป็นทีมที่ ถ้าเป็นพ่อครัวก็ต้องเรียกว่ามือหนัก ให้เครื่องเยอะมากกก เพราะใส่แต่ของดีๆมาแบบจัดเต็มมาก จนเจ้รู้สึกว่า ถ้าควรอยากเรียนรู้เรื่อง Specification ที่ดีเป็นยังไง โครงการนี้ก็เป็นหนึ่งในโครงการที่น่าเข้ามาศึกษามากๆค่ะ เพราะนอกจากเรื่อง Material ที่ให้มาจะจัดอยู่ในเกณฑ์ที่เรียกได้ว่า ดีมากกกแล้ว ยังไม่ขาดตกบกพร่องในเรื่องของการให้ Space ขนาดใหญ่เพื่อให้เหมาะกับ Segment ระดับ Super Luxury และการเพิ่มความเก๋ในการอยู่อาศัยด้วยการนำเอา Lifestyle มาใช้ในการออกแบบโครงการได้ออกมาดูน่ารื่นรมย์มาก
แม้ว่าโครงการจะเป็นโครงการ Low Rise และมีระยะห่างจาก BTS 800 เมตร แต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหาเลยสำหรับลูกค้ากลุ่มนี้ ซึ่งก็ได้พิสูจน์ไปแล้วใน THE RESERVE Sukhumvit 61 ที่ Sold Out ไปอย่างรวดเร็ว และ Phase นี้ที่เปิดเพียงวันแรกก็กวาดยอดขายไปได้เยอะมาก เพราะทั้งห้อง Triplex และ Duplex ที่มีอยู่หมดเกลี้ยงทันที
สุดท้ายนี้เป็นความเชื่อส่วนตัวนะคะ ว่าปีหน้าราคาคอนโดมิเนียมภายในเมืองน่าจะวิ่งขึ้นไปกันสูงมากแล้ว จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เราจะเห็นคนมีเงินเริ่มจับจองคอนโดมิเนียมทำเลดีใจกลางเมือง เพราะเค้ามองเห็นว่าเป็น Asset ที่มูลค่าในระยะยาวจะวิ่งไปได้ไกลมาก โดยเฉพาะเมื่อที่ดินสำหรับพัฒนาโครงการคอนโดนิเนียมในเมืองเริ่มมีพื้นที่น้อยลงมาก และยังมีอุปสรรค์อื่นๆทำให้ขึ้นโครงการได้ยากขึ้นอีก
นอกจากนี้โครงการ THE RESERVE 61 HIDEAWAY ยังได้รับรางวัล A Thailand Tatler Best Residential Award 2018 จาก Thailand Tatler ด้วยค่ะ
อย่างที่บอกว่า โครงการนี้เป็นโครงการที่ Hot มากๆ เพราะต่อยอดความสำเร็จมาจาก THE RESERVE Sukhumvit 61 ที่ Sold Out อย่างรวดเร็ว เลยทำให้ THE RESERVE 61 HIDEAWAY มียอดขายดีมากก ห้องสวยๆ ยังมีอยู่แต่เหลือไม่มากแล้ว ใครที่สนใจให้รีบเข้ามาความงามของห้องตัวอย่างได้ที่ Sales Gallery เปิดให้เข้าชมแล้วค่ะ
วันที่ 10-11 พ.ย.นี้ ยังจะมีจัดงาน Open House พร้อมมอบส่วนลดสูงสุด 400,000 บาท* ด้วยนะคะ
สนใจโครงการลงทะเบียนได้ที่ http://bit.ly/2OwTFgI
Commentaires