บ้านภัสสร วงแหวนรามอินทรา - Smart Choice ที่เข้าใจคนซื้อบ้าน
- Sukrit Udom
- Oct 13, 2018
- 2 min read

ช่วงนี้เป็นช่วงที่บ้านราคา 7-15 ล้านขายดิบขายดีมากค่ะ มีบาง Developer ประกาศว่าโตแบบ 500% กว่าเลยก็มี ส่วนนึงเพราะว่าเราอยู่ในยุคที่คนมีโอกาสมากขึ้น หลายคนทำงานประจำแต่ก็แอบมีงานเสริม แอบมีกิจการส่วนตัว หลายคนก็ออกมาทำของตัวเองเต็มตัว ทั้งกลุ่ม HENRY (High Earners, Not Rich Yet - ธนาคารแห่งประเทศไทยบอกว่าคือกลุ่มที่มีรายได้ต่อเดือนมากกว่า 50,000 บาท) และกลุ่ม HNWI (High Net Worth Individual) กลายเป็นกลุ่มที่เหล่า Developer ให้ความสนใจกันมาก ซึ่งก็สอดคล้องกับราคาที่ดินที่แพงขึ้นมาก รวมถึงความต้องการใหม่ๆที่เป็นความท้าทายให้ Developer ต้องสร้างบ้านที่ดีกว่าเดิมมากขึ้นเรื่อยๆ
แน่นอนว่าคนกลุ่มคนรวยหรือคนมีรายได้สูงที่เพิ่มขึ้นนี้ส่วนมากเป็นคนเก่ง ฉลาด เพราะส่วนมากร่ำรวยมาจากความสามารถของตนเอง ซึ่งมันก็เป็นค่านิยมของคน Gen นี้นะ ว่าไม่ได้แค่อยากดูประสบความสำเร็จ แต่ต้องดูฉลาดด้วย ซึ่งมันจะสะท้อนออกมาจาก การเลือกใช้ของ การเลือก Lifestyle เช่นการออกกำลังกาย การทานอาหาร Healthy ที่มีราคาสูง อย่างถ้าใครไป Emquartier จะเห็นร้าน Acai ที่เป็น Berry จาก Brasil ที่เค้าเรียกให้เป็น Super Food เพราะ claim ว่า Acai 10 grams มี Anti-oxidant มากเท่ากับมะเขือเทศ 180 ลูก ซึ่งถ้วยเล็กกระติดนึงราคา 200 กว่าบาทนะจ๊ะ แต่ขอโทษ คิวยาวมาก ขายดิบขายดีค่ะ ซึ่งการเลือกทานอาหารที่มีราคาสูงขนาดนี้ไม่ได้เพราะมันอร่อยเลิศล้ำอะไรหรอกค่ะ แต่เพราะมันมีประโยชน์ต่อสุขภาพแล้วมันก็สะท้อนภาพลักษณ์คนประสบความสำเร็จ (เพราะมันแพง) ที่ฉลาดเลือกด้วย
ไม่ใช่แค่เรื่อง Lifestyle แต่การซื้อรถ ซื้อบ้าน ซื้ออะไรก็ตามแต่ ต้องมาจากการคิด หาข้อมูลมาแล้วเป็นอย่างดี ซึ่งเจ้ว่าพฤกษานางมีทีมที่เก่ง ที่เข้าใจความต้องการของลูกค้าตรงนี้ค่ะ แล้วก็สามารถนำ Insight เหล่านี้มาเปลี่ยนเป็น Product ที่ดูคุ้มค่าฉลาดเลือกอย่างบ้านภัสสร
แล้วบ้านภัสสรมันดูฉลาดเลือกยังไงหรอ?
อย่างแรกเลยก็เรื่อง Location ค่ะ คือบ้านภัสสรจะอยู่ใน Location ที่ดีมาก อาจจะไม่ได้แบบมากที่สุดเพราะจะทำให้ต้นทุนที่ดินสูงได้ แต่ก็อยู่ในระดับที่ดีเลยล่ะ อย่างโครงการบ้านภัสสร วงแหวนรามอินทรา ที่ตั้งอยู่บนถนนเลียบวงแหวนกาญจนาสามารถวิ่งเข้า Motorway ได้อย่างสะดวก รวมถึงยังไม่ไกลจากถนน main อย่างรามอินทรา (2.8 กิโลเมตร) และทางด่วนฉลองรัช (5.6 กิโลเมตร)
ในอนาคตบนถนนรามอินทรายังจะมีรถไฟฟ้าสายสีชมพูวิ่งผ่าน ซึ่งจะมีสถานีวงแหวนตะวันออกที่ห่างไปเพียง 2.4 กิโลเมตร (หน้าห้าง Fashion Island) และสถานีรามอินทรา 83 ที่อยู่ห่างจากโครงการเพียง 2.9 กิโลเมตรเท่านั้น ซึ่งรถไฟฟ้าสายสีชมพูนี้จะวิ่งไปตัดกับสายสีเทา (วิ่งเข้าทองหล่อ) ตรงใกล้ๆสถานีวัชรพลที่ห่างไป 3 สถานี ตัดกับสายสีเขียวที่สถานีวงเวียนหลักสี่ที่ห่างไป 8 สถานี และตัดกับ Airport Link ในอนาคตที่สถานีหลักสี่ ห่างไป 10 สถานี หรือวิ่งไปต่อสายสีส้มที่สถานีมีนบุรีได้ห่างไป 5 สถานีค่ะ

ส่วนเรื่องย่าน Lifestyle โครงการอยู่ใกล้กับถนนที่เต็มไปด้วยย่าน Lifestyle ถึง 2 เส้นคือเส้นรามอินทราที่มีทั้ง Fashion Island และ The Promenade เพียง 2.3 กิโลเมตร รวมถึง Central Plaza รามอินทราที่ห่างไป 11.6 กิโลเมตร และห่างจากถนนเลียบทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ไปแค่ 5.6 กิโลเมตรเท่านั้น ซึ่งบนเส้นนี้จะมีทั้ง Central Festival East Ville (11.8 กิโลเมตร), Crystal Design Center (10.5 กิโลเมตร), The Crystal Park (12.9 กิโลเมตร), The Walk (9.2 กิโลเมตร) และ Plearnary Mall (9.8 กิโลเมตร)
บนเส้นรามอินทรายังมีโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี (4 กิโลเมตร) และโรงพยาบาลสินแพทย์ (5.5 กิโลเมตร), โรงพยาบาลพญาไท-นวมินทร์ บนถนนนวมินทร์ (4.6 กิโลเมตร)


ต่อมาคือเรื่องภาพลักษณ์ที่ไม่ต้องห่วงเลย เพราะบ้านภัสสรจัดอยู่ในระดับ Luxury Segment ทั้งโครงการและตัวบ้านจึงมีความหรูหรา ดูดี รวมถึง Design ที่เป็น Modern Classic ไม่ดูแก่จนเชย แต่ก็ยังคงรายละเอียดของสถาปัตยกรรมที่แสดงออกถึงความหรูหราสง่างามไว้ได้เป็นอย่างดี รวมถึง Space ที่มีมากถึง 260 ตารางเมตร (4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ) และ 274 ตารางเมตร (5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ) ซึ่งด้วยราคาเริ่มต้น 11.5 ล้านบาท แต่ได้บ้านที่มีทำเลที่ดีและมี Space ใหญ่ขนาดนี้
ทั้งโครงการมีจำนวนบ้านเพียงแค่ 110 หลัง จึงมีความ Private และเงียบสงบค่ะ

ระบบรักษาความปลอดภัยของโครงการจะมีทั้ง CCTV ประตู Double Gate หรือประตู 2 ชั้นเพื่อกันผู้ติดต่อออกจาก Zone พักอาศัย เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมงที่จะคอยตรวจดูผู้มาติดต่อ รวมถึง Access Control ที่ช่วยกันนอกแต่สำหรับลูกบ้านแล้วสามารถผ่านเข้าออกได้ด้วยเครื่องตรวจสอบสัญญาณระยะไกลค่ะ

ประตู Double Gate


บ้านตัวอย่างแบบแรก Prelegance
พื้นที่ใช้สอย 274 ตร.ม. ขนาดที่ดินเริ่มต้น 56 ตร.ว.
เป็นบ้านแบบ 5 ห้องนอน, 6 ห้องน้ำ, 1 ห้องรับแขก, มีทั้งครัวไทยและ Pantry เตรียมอาหาร
มีส่วนพักผ่อนบนชั้น 3, ห้องแม่บ้านพร้อมห้องน้ำและ 2 ที่จอดรถ



ทางเข้าตัวบ้านดูโอ่อ่าและภูมิฐานดีค่ะ อีกทั้งตัวบ้านยังมาพร้อมระบบ Home Automation ที่สามารถควบคุมระบบไฟแสงสว่างและเครื่องปรับอากาศได้จาก Smart Phone เลยค่ะ

เมื่อเข้ามาในบ้านจะเจอสวิตซ์ไฟหน้าเปลี่ยนไป เป็นระบบสัมผัส นั้นเพราะทางโครงการติดตั้งระบบ Home Automation ไว้ให้ค่ะ

สิ่งแรกที่ชอบมาคือเรื่องของช่องแสง ที่นี่ไม่งกหน้าต่างเลยค่ะ ให้หน้าต่างเยอะและขนาดใหญ่มาก ซึ่งเดี๋ยวพอขึ้นไปบนห้องนอนจะยิ่งเห็นเลยค่ะ ว่าเค้าพยายามเพิ่มช่องแสงให้กับตัวบ้านมากกว่าปกติด้วย ซึ่งดีมากๆเพราะนอกจากจะช่วยเรื่องของแสงธรรมชาติที่ช่วยประหยัดค่าไฟแล้ว ยังช่วยเรื่องของการหมุนเวียนของอากาศด้วยค่ะ

ชั้น 1 จะวางพื้นที่ Living Area ไว้ด้วยกัน คือพื้นที่รับแขก พื้นที่รับประทานอาหาร และ Pantry เตรียมอาหาร ซึ่งทำให้พื้นที่ Living Area ดูกว้างขวางมากค่ะ



และมีส่วนของครัวไทยแยกให้ต่างหากค่ะ

ชั้นล่างจะมี 1 ห้องนอนค่ะ สามารถให้เป็นห้องนอนผู้สูงอายุได้ เพื่อเลี่ยงการเดินขึ้น-ลงบันไดค่ะ ซึ่งห้องนอนทุกห้องในบ้านจะมีห้องน้ำในตัวค่ะ

ในห้องน้ำทุกห้องก็จะมีหน้าต่างให้เช่นกันค่ะ ซึ่งช่วยลดความอับชื้นของห้องน้ำได้ดีมากค่ะ

หลังบ้านยังมีลานซักล้าง ห้องนอนและห้องน้ำแม่บ้านด้วยค่ะ

ขึ้นมาบนชั้น 2 จะมีอีก 2 ห้องนอนค่ะ ซึ่งแม้แต่ห้องนอนเล็กก็มีขนาดห้อง มีช่องแสงปริมาณมาก รวมถึงมีห้องน้ำในตัวด้วยค่ะ

ยุคนี้ถ้าไม่มีช่อง USB ถือว่า OUT มากค่ะ


ห้องนอน Master Bedroom ค่ะ

ในห้องนี้จะมีตัวควบคุมสัญญาณกันขโมยด้วยค่ะ


จะเห็นได้ว่า โครงการให้หน้าต่างปริมาณมาก ได้รับแสงธรรมชาติเต็มที่ โดยมีการเว้าบริเวณระเบียงและเพิ่มปริมาณหน้าต่างให้เกือบในหลายๆห้องเลยค่ะ




ประตูและหน้าต่างติดตั้ง Magnetic Censer มาให้ด้วยค่ะ เวลาที่มีใครเปิดประตูหน้าต่างก็จะมีการแจ้งเตือน
สุขภัณฑ์เป็นของ KOHLER ทั้งหมดค่ะ


สำหรับบ้าน Type Prelegance นี้จะมีห้องพักผ่อนอยู่บนชั้น 3 ค่ะ ส่วนบ้านแบบ Prelite จะเป็นส่วนพักผ่อนแบบ Double Volume บนชั้น 2 ค่ะ

ห้องนอนเล็กบนชั้น 3 มี 2 ห้องค่ะ


มาดูบ้านอีกแบบกันค่ะ ซึ่งมี Highlight คือพื้นที่พักผ่อนชั้น 2 แบบ Double Volume ที่ WOW มากๆ

Prelite
พื้นที่ใช้สอย 260 ตร.ม. ขนาดที่ดินเริ่มต้น 56 ตร.ว. เป็นบ้านแบบ 4 ห้องนอน, 5 ห้องน้ำ, 1 ห้องรับแขก, มีทั้งครัวไทยและ Pantry เตรียมอาหาร
มีส่วนพักผ่อนบนชั้น 2 แบบ Double Volume, ห้องแม่บ้านพร้อมห้องน้ำและ 2 ที่จอดรถ


อีกจุดที่ต่างกันของบ้าน Type Prelite คือความกว้างของพื้น Living Area ที่ดูจะกว้างมากกว่าแบบ Prelegance และการวางห้องนอนชั้น 1 ให้ได้รับวิวสวนทั้งสองฝั่ง









Highlight ของบ้านแบบ Prelite ที่เป็นห้องพักผ่อนเพดานสูงแบบ Double Volume พร้อมหน้าต่างขนาดใหญ่ทั้งสองด้าน














พื้นที่สวนในโครงการ

Club House ที่กำลังก่อสร้างอยู่ค่ะ
ความคิดเห็นที่มีต่อโครงการ
เรื่องแรกเลยคือ Brand ค่ะ ต้องยอมรับว่าบ้านของพฤกษารุ่นใหม่มีคุณภาพมาก ซึ่งทำให้เราไม่ได้ยินข่าวไม่ดีกับบ้านตัวใหม่ๆของพฤกษาเลย รวมถึงความรับผิดชอบของบริษัทที่ดี อย่างล่าสุดที่เจ้เห็นคนมาโพสเรื่องคอนโดตารางเมตรละ 30,000-40,000 บาท ที่แม้ว่าจะหมดประกันไปแล้ว แต่ทางพฤกษาก็ยังกลับมาแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวพันอยู่ให้จนแล้วเสร็จเรียบร้อย ซึ่งน้องที่รู้จักกันก็อยู่คอนโดของพฤกษา นางบอกว่า เวลาเรียกแก้ไขก็มาตลอด ค่อนข้างเร็วเลย รวมถึงจากที่เคยได้ไปเยี่ยมชมโรงงาน Precast และได้รับฟังผู้บริหารให้บรรยาย ทำให้เห็นว่าทางพฤกษามีความพยายามที่จะยกระดับมาตราฐานการก่อสร้างให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งอันนี้ทำให้ Brand พฤกษาเป็น Brand ที่ไว้ใจได้ และค่อนข้างสบายใจที่จะซื้อค่ะ (หลักๆแล้วเจ้มองว่า เรื่องของ Defect เป็นเรื่องที่เลี่ยงยากค่ะ เจ้าไหนก็เจอ แต่เจ้จะเน้นที่ความรับผิดชอบว่ามาแก้ไขงานจนจบไหม)
สำหรับโครงการบ้านระดับราคา 10-15 ล้าน จากประสบการณ์ที่ชอบเข้าไปเยี่ยมชมโครงการ ถ้าเป็น Brand ระดับ Top ของประเทศ ต้องบอกเลยว่า ด้วยราคาบ้านระดับนี้ ส่วนมากแล้วจะไม่ได้ Space หรือพื้นที่ใช้สอยที่มากขนาดนี้ค่ะ แต่โครงการบ้านภัสสรให้พื้นที่ใช้สอยเยอะมากกก แถม Location ก็ไม่ได้ด้อยด้วย เรียกได้ว่าดีเลยแหละ เพราะไม่ต้องเข้าซอยแถมขับรถมานิดเดียวก็ถึงห้าง Fashion Island และ Promenade แล้ว สะดวกสบายมาก
Technology ที่ให้มากับบ้านถือว่าแข่งกับคนอื่นได้เลยค่ะ แต่พอมาเจอเรื่องของราคาและ Space ที่ใหญ่กว่าแล้ว บ้านภัสสรค่อนข้างกินขาด
เรื่อง Design ถือว่าทำได้ดีกว่าที่คิดไว้มากค่ะ ตอนแรกคิดว่าจะเชยๆ แต่ไม่เลยค่ะ ดูดี สง่างามมาก ไม่เชยเลย เหมาะกับ Target Group ที่เป็นคนรุ่นใหม่ช่วง 30-40 ที่ประสบความสำเร็จเร็ว และดูเป็นคนฉลาดเลือกค่ะ
โดยรวมแล้วถือว่าโดดเด่นมากในเรื่องของความคุ้มค่าค่ะ ตอบโจทย์ผู้บริโภคได้ดีมาก ด้วยราคาเริ่มต้น 11.5 ล้านบาท แต่ตัวโครงการทำออกมาดูดีเกินราคามาก
โครงการภัสสร วงแหวน รามอินทรา กำลังจะจัดงาน Grand Opening วันที่ 24-25 พ.ย.นี้ พร้อมเปิดบ้านโซนใหม่ และชมคลับเฮ้าส์เป็นครั้งแรก ราคาเริ่ม 11.5 ล้านบาท
ลงทะเบียนรับสิทธิพบ Stylist ส่วนตัวและสิทธิพิเศษอื่นๆภายในงานที่ https://bit.ly/2qW2HpQ
Comentarios