top of page

พาชม THE LINE ASOKE RATCHADA คอนโดทำเลดี ราคาดี สเปคดีที่เจ้อยากได้!!!

  • Sukrit Udom
  • Oct 28, 2018
  • 4 min read

ขอเมาส์ก่อนนะคะ คือช่วงสัปดาห์ที่เจ้เข้าไปถ่ายรูปที่ THE LINE Asoke-Ratchada เนี่ย เป็นช่วงที่เจ้ได้เข้าไปดูโครงการสร้างเสร็จแล้วหลายโครงการของหลายๆ Brand ค่ะ โดยเฉพาะ THE LINE Asoke Ratchada เนี่ย เข้ามาถึง 4 รอบ! จะเข้ามาทำไมเยอะๆชิมิ?

อย่างที่เจ้บอกตลอดแหละเรื่องของ Brand เป็นเรื่องสำคัญ มันไม่ใช่แค่เรื่องจำนวนเงินที่เค้าโยนลงมาเพื่อทำการตลาดนะจ๊ะ แต่เจ้อยากให้เธอลองเปรียบเทียบกับการไปทานอาหารตามร้าน ร้านที่เจ้าของใส่ใจทำอาหาร เลือกวัตถุดิบคุณภาพดีมาทำให้ทาน กับ Brand ที่เน้นทำการตลาดจ้างดารามาถ่ายรูปว่ามากินร้านนี้นะจ๊ะ เธอว่าร้านไหนอาหารจะอร่อยกว่าและให้ของดีกว่ากัน

คอนโดก็เหมือนกันค่ะ เพราะหัวเรือใหญ่สุดของบริษัทคือคนที่ส่ง Direction ลงมา ว่าต้องการสร้างสินค้าแบบไหนมาให้ลูกค้า ซึ่งเจ้ไม่ต่อว่าใครเลยที่ต้องเข้ามาถ่ายรูป 4 รอบ เพราะเค้าพยายามแก้งานออกให้ดีที่สุดก่อนจะเปิดตึกให้ลูกบ้านเข้าอยู่ เจ้กลับรู้สึกว่า เห้ย! นี้แหละ ความรับผิดชอบของพี่แสนที่นางมีต่อลูกค้า น่าประทับใจ

แล้วขอบอกเลยว่าช่วงสัปดาห์นั้นได้เข้าไปดูคอนโดของพี่แสน 2 ตัวที่สร้างเสร็จแล้วและอยู่กันคนละ Segment แต่เห็นได้เลยว่า เค้าพยายามให้ของดีกับลูกบ้านจริงๆ แม้จะเป็น Segment ที่ต่ำกว่า THE LINE แต่ก็เห็นถึงความละเอียดของงานออกแบบ การเลือกใช้วัสดุ และหลายๆอย่างที่เข้าไปแล้วประทับใจมาก

จาก Topic ที่เจ้โปรยไว้ว่า ทำเลดี ราคาดี สเปคดี เจ้ไม่ได้โม้นะจ๊ะ เดี๋ยวเรามาไล่ดูกันทีละหัวข้อเลย

ทำเลดี!

ไล่มาจากภาพกว้างก่อนเลยนะ ทำเลที่มี Potential สูงมากของกรุงเทพฯ เจ้มองว่ามี 3 ทำเลค่ะ สุขุมวิท พหลโยธิน แล้วก็รัชดาฯ (อันนี้มองแบบระยะยาวนะจ๊ะ เพราะเจ้เป็นสายถือยาว) ทำไมนะหรอ?

มันมี 2 เรื่องที่เจ้ว่าควรสนใจคือ Traffic กับ Behavior (พฤติกรรมคน)

ปกติคนเราเวลาจะซื้อบ้าน/คอนโด ถ้าเอาหลักๆที่เจอเลยนะ จะมี 2 แบบ คือถ้าไม่ 'ไปทำงานสะดวก' ก็ 'ใกล้บ้านพ่อแม่' (หรือไปบ้านพ่อแม่ได้สะดวก ตัวอย่างเช่น เป็นคนเมืองชล ก็อยู่ฝั่งสุขุมวิท พอวันเสาร์ก็วิ่งออกไปชลสะดวกดี ไรงี้) อันนี้คือหลักๆที่เจอบ่อยมากกกนะ

ฉะนั้นทำเลที่มีอนาคตมันจะต้องมีความ Balance กันของ Business District (ย่านธุรกิจ) และ Residential Area (ย่านที่พักอาศัย), ต้องมีพื้นที่ให้ขยายตัวได้อีกมาก และต้องมี Mass Transit อย่างพวกรถไฟฟ้าสายหลักๆที่ไปทำงานได้สะดวก

เพราะชีวิตมนุษย์เมืองก็ไม่ได้มีอะไรมาก ตื่นมา ไปทำงาน นัดเพื่อนกินข้าว นัดแฟนกินข้าว ออกกำลังกาย (หรือเปล่า อิอิ) ซื้อของเข้าบ้าน(สมัยนี้คอนโดก็นับเป็นบ้านนะจ๊ะ) กลับไปหาพ่อแม่

ฉะนั้นทำเลที่เจ้บอกไปมันสะดวกมากกกกกับการดำเนินชีวิต แถมช่วยประหยัดเวลาเรื่องการเดินทางด้วย ถ้าใครเป็นคนตื่นเช้า เข้างาน 9 โมง (แต่ที่ Office เค้าเข้ากันจริง 9.30 น.) ก็ยังมีเวลาทำนั้น ทำนี่ โอ้เอ้ หรือจะออกไปวิ่ง ไป Gym ก่อนก็ยังได้ (ถ้าเป็นคนตื่นสายก็ยังไปทำงานทัน ทันแบบสายๆพอกับคนอื่นๆอะนะ อิอิอิ) นั้นแปลว่าจากคอนโดไปที่ทำงานต้องสะดวกจริงม่ะ แบบนั่งรถไฟฟ้าไป 15-30 นาทีไรงี้ ชิวๆ พอเลิกงานก็ต้องกินข้าวค่ะ หรือถ้าใครชอบทำอาหารกินเอง ก็ต้องไป Supermarket ได้สะดวก ฉะนั้นรอบๆคอนโดก็ต้องมีอาหารการกินอุดมสมบูรณ์ มี Supermarket ซื้อของเข้าห้องได้ง่ายๆ

ซึ่งทั้ง 3 เส้นนี้มีครบไง! ทั้งแหล่งงาน การเดินทาง ห้าง Supermarket อาหาร แล้วยังเห็นการขยายตัวอย่างต่อเนื่องด้วย!

วันนี้ขอ Focus ที่เส้นรัชดาฯนะจ๊ะ

รัชดาฯ ทำไมถึงมาแรงชิมิ? ก็ลองไปเดินดูในอโศกสิ ไม่รู้จะเจาะรูตรงไหนมาพัฒนาแล้วค่ะ แน่นมากกก เผลอขับรถหลุดเข้าไปทีโอ้ย ปวดหัว! จะขยายออกไปสุขุมวิทที่ดินก็แพงอีก ขึ้นเหนือดีกว่า มี MRT รองรับด้วย สร้างออฟฟิต สร้างห้างก็ Draw Traffic มาได้ ไม่เจ้งหรอก แถมทำเลยังกลางเมืองด้วยรถยนต์ก็เดินทางเข้า-ออกสะดวก

เราถึงได้เห็นทั้งตึก G, Unilever, Singha Complex และ Central Plaza Rama 9 เปิดตัวกันขึ้นมาไง ซึ่งยังไม่หมดแค่นี้นะ ตอนนี้ลามออกไปถึงศูนย์วัฒฯและห้วยขวาง อย่างตรงศูนย์วัฒฯนี้กำลังจะมาอีก 3 โครงการใหญ่ๆ ห้วยขวางก็กำลังสร้าง Mall แล้ว เห็นภาพชัดเจนมากว่ากำลังวิ่งขึ้นไปบนเส้นรัชดาฯ

หลายคนเป็นกังวลเรื่อง Over Supply ถ้าเป็นสายเล่นสั้น อันนี้เจ้ไม่เก่งค่ะ อิอิอิ แต่ถ้าอยู่เอง ถือยาว เจ้ก็บอกเลยว่า Brand สำคัญค่ะ มันเหมือนซื้อประกันว่าโครงการที่เราซื้อมาน่าจะมีปัญหาน้อย โดยเฉพาะถ้าเป็น Developer ที่มีความรับผิดชอบดี พอมีดราม่าแล้วออกมาแก้ไข ไม่เงียบเฉย

แต่ข้อดีของการที่คอนโดเยอะก็มีค่ะ (แต่ต้องรอให้สร้างเสร็จแล้วมีคนเข้าอยู่ก่อนนะ) เพราะอีกหน่อยก็จะมีร้านอาหาร ร้านค้า เปิดมา Support การพักอาศัยของคนในย่านนี้ค่ะ

อีกเรื่องที่น่าสนใจคือเดี๋ยวอีกหน่อยทำเลตรงพระราม 4 ก็จะมี Mega Project ที่มีอาคารสำนักงานระดับเกรด A ขึ้นมาอีกเยอะ ซึ่งการเดินทางด้วย MRT จากสถานีพระราม 9 ถือว่าสะดวกมาก ฉะนั้นจะเห็นเลยว่าตั้งแต่สถานีพระราม 9 ยาวลงไปถึงสีลม-สามย่าน อาคารสำนักงานเต็มไปหมด สะดวกค่ะ แถมขึ้นเหนือไปนิดเดียวก็เจอห้าแยกลาดพร้าวอีก

โม้มาสะยาว สรุปสั้นๆว่า เรื่องทำเล เจ้ให้ 3 ผ่านเลยค่ะ เพราะเดินทางไปทำงานสะดวก อาหารการกินตอนนี้มีในห้างและใต้อาคารสำนักงาน (เจ้เชื่อว่าอีกหน่อยคอนโดสร้างเสร็จทั้งหมดคนย้ายเข้าอยู่จริง จะเปิดให้บริการช่วงเสาร์-อาทิตย์เพื่อรองรับลูกบ้านคอนโดค่ะ) และเห็นอนาคตว่าจะโตยาวขึ้นไปทางเส้นรัชดาฯ เพราะมีโครงการเตรียมสร้างอีกเพียบ

ลืมบอกไป ทำเล THE LINE Asoke-Ratchada ห่าง MRT พระราม 9 แค่ 300 เมตรนะจ๊ะ ข้ามทางม้าลายไปมีร้านอาหาร Local เข้า Tesco Lotus ใน Fortune, CP Tower มีร้านอาหาร Chain, Food Court และ Supermarket ให้บริการ ลอดใต้ดินไปมี Central Plaza Rama 9 สะดวกแน่นอนจ้า

ที่สำคัญขับรถออกมาจากคอนโด มี U Turn ใต้สะพาน (รอตอนไฟแดงเข้าไม่ยากจ๊ะ) จะวิ่งไปอโศก พระราม9 รัชดา ก็สะดวกจ้า

ราคาดี!

ทำไมเจ้กล้าพูดคำว่าราคาดี ในเมื่อมีคอนโดอื่นใกล้ๆที่ราคาถูกกว่า

มันต้องแบ่งตาม Segment ด้วยป่ะเธอ เธอจะเอาคอนโด 473 ยูนิต เพดาน 2.7 เมตร กระจก Full Height ไปเทียบกับหลักพัน เพดานไม่สูง กระจกไม่เต็ม ไม่ได้!!!

ถามว่าราคาเฉลี่ย 170,000 แพงไหม ก็แอบแพงแหละ แต่ถ้าลองไปมองทำเลที่ไกลกว่าอย่างศูนย์วัฒฯ - ห้วยขวางที่ตอนนี้ราคา 150,000 - 160,000 ล่ะ! สเปคก็ไม่ดีเท่าด้วยนะ แล้วแน่นอนว่า THE LINE Asoke-Ratchada ใกล้ Central ยังไงก็ดีกว่าป่ะ

ฉะนั้นบอกเลยว่าใครถือห้องตั้งแต่ 160,000 ลงไป ถือว่าราคาดีมาก ส่วนตั้งแต่ 160,000 ขึ้นไป ถือยาวหน่อยมีอนาคตอยู่ค่ะ เพราะตอนนี้ทำเลรอบๆนั้นเริ่มหายากแล้ว รอดูได้เลยว่าพี่แสนตัวใหม่หรือที่เค้าใช้ Code ย่อ CRIX อะไรนั้นมาแพงกว่าชัวร์ แถมยังมีโครงการที่จะขึ้นมาแทน Super Tower มาช่วยสร้างกระแสและแม่เหล็กให้อีก (ส่วนตัวเคยทำงานกับห้าง C.. บอกเลยว่านางเก่งจริง สร้างไรมาก็ปัง)

ก็อย่างที่บอก ถ้าถือยาวนะ เรื่อง Brand สำคัญค่ะ

สเปคดี!

ได้พาเข้าไปดูในโครงการสะที โม้มาสะนาน 555

เป็นโครงการที่งานเนี๊ยบมาตั้งแต่รั้วด้านนอกเลยค่ะ จะเห็นการใช้แผ่นอลูมิเนียมเป็นเหมือนกระจกเงาเล่นกับแสงเกิดเป็นไฟระยิบระยับสวยมาตั้งแต่รั้วด้านนอกและทางเข้าอาคารเลยค่ะ ยิ่งถ้าดึกๆยิ่งน่าจะสวย (ปล. นี้งานละเอียดนะคะ เนี้ย)

บริเวณโถง Drop Off ยังใช้หินแกรนิตกรุเสาและผนังอีก

บริเวณด้านนอกโครงการนี้กรุหินไว้เพียบค่ะ ไม่ต้องกลัวลื่นะคะ เพราะเค้าทำเป็นผิวด้านสำหรับใช้เดินแล้วค่ะ

แม้ว่าอาคารจอดรถจะแยกออกจากอาคารพักอาศัย แต่ทางโครงการก็ทำหลังคาทางเดินไว้ให้ค่ะ

Facade นอกอาคารสวยหรูดูแพง

ใครที่ขับรถมา ที่นี่เป็น Double Gate นะคะ คือมีไม้กระดกกั้นตั้งแต่ตรงป้อมยามเลย แล้วก่อนจะเข้าอาคารจอดรถก็มีไม้กระดกกั้นอีกชั้น เพื่อแยกที่จอดรถของ Visitor ออกจากที่จอดรถของลูกบ้านค่ะ

ในอาคารจอดรถของลูกบ้านยังมีระบบ Telecom ให้ลูกบ้านเรียกเจ้าขอความช่วยเหลือจากหน้าที่ได้ด้วยค่ะ

มีจุดจอดรถ EV Charger และบริการรถยนต์ไฟฟ้า Smart Move ไว้ให้บริการลูกบ้านค่ะ

อธิบายตัว Smart Move นิดนึง คือเป็นรถยนต์ที่เอาไว้ให้ลูกบ้านสามารถเช่าขับได้ โดยคิดค่าใช้งานเป็นรายชั่วโมงนะคะ เรื่องราคาต้องติดต่อนิติอีกทีค่ะ เพราะเค้าบอกว่าแต่ละช่วงก็จะมีการทำ Promotion ต่างกันไป เช่นแรกๆก็อาจจะให้ทดลองใช้ฟรีก่อน วิธีการใช้งานคือสามารถจองการใช้รถได้จากใน Application Home Service ของ Sansiri เลยค่ะ พอถึงเวลาก็เอา QR มา Scan ที่กล่องตรงกระจกรถ แล้วก็เอารถออกไปใช้ได้ค่ะ กลับมาก็จอดเสียบชาร์ตไฟคืน

ข้อดีคือ ถ้าไม่ได้ใช้รถยนต์บ่อย ก็ไม่ต้องเปลืองเงินออกเงิน เพราะไหนจะค่าผ่อน ค่าน้ำมัน ค่าประกัน สารพัด เป็นเจ้จอง BMW i3 คันนี้รัวๆ เอาไว้ขับสวยๆออกงาน อวดชาวบ้านได้อีก อิอิอิ

รถยนต์เป็นของแสนสิริคะ ซึ่งข้อดีคือ ถ้ามันเสีย มันพัง ลูกบ้านหรือโครงการไม่ต้องออกเงินซ่อมเอง (ซ่อมแพงด้วย) เป็นหน้าที่ของแสนสิริต้องเอาไปซ่อม เอาไป Maintenance ให้เราค่ะ

ก่อนจะเข้า Lobby โครงการยังมีของใหม่มาอีกค่ะ ก่อนหน้านี้เราจะเห็นแค่จุดแตะบัตรหน้าตาธรรมดาชิมิค่ะ แต่ที่นี่เค้ามีระบบ Register สำหรับ Guest ที่มาติดต่อด้วยค่ะ โดยจะมีจุดแตะบัตร 2 จุดตั้งแต่หน้าโครงการ ก่อนเข้าลิฟต์ ภายในลิฟต์ และก่อนเข้าโถงทางเดินสำหรับชั้นที่มีส่วนกลางเลยค่ะ

สำหรับคนที่มาแบบไม่ได้นัดหมายไว้ ก็ต้องมาลงทะเบียนด้วยตนเองก่อน จะใช้บัตรประชาชนเสียบเข้าเครื่อง หรือกรอกรายละเอียดด้วยตนเองก็ได้ แล้วก็จะได้ QR Code มาเพื่อใช้ในการเข้าไปที่ Lobby (เข้าได้แค่ Lobby นะคะ) ไม่ต้องกลัวคนที่จะกรอกรายละเอียดปลอมหรือเอาบัตรคนอื่นมาใช้ เพราะเค้ามี CCTV บันทึกภาพไว้อยู่ดีค่ะ

เข้ามาดูใน Lobby ค่ะ อันนี้เจ้พูดตามตรงว่า Perspective ใน Video ทำไว้สวนเกิ้นนนน เลยทำให้หลายคนตั้งความหวังไว้เยอะ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง SANSIRI ทำของเก่าไว้ดีมากๆ อย่าง NYE หรือ THE LINE JJ งี้ เลยทำให้พอมาตัวนี้มีหลายคนบ่น

ความเห็นเจ้คือ มันไม่ได้แย่นะ สวยอยู่ แต่พอไปเปิดดู Video เทียบ มันก็สวยสู้ Video ไม่ได้จริงๆ แต่ใจเย็นก่อนนค่ะ เพราะมันแค่ตรงนี้แหละ ตรงอื่นสวยมากค่ะ

พื้น Lobby โครงการนี้เปลี่ยนมาใช้หิน Calcite Blue นะคะ ค่อนข้างนิยมที่เมืองนอกค่ะ แต่หินอ่อนต่อลาย (Book Matched Marble) ที่เป็น Signature ก็ยังอยู่นะคะ โดย Lobby โครงการจะมี 2 ชั้นค่ะ ชั้นบนเป็นพื้นที่ Entertainment และเชื่อมต่อออกไปที่สวนชั้นลอยได้ด้วย

FYI การทำบันไดวนแบบในรูปนี้แพงมากนะคะ

มี CCTV เยอะมากค่ะ ที่นี่ ขนาดขึ้นมาบนสวนยังมีเลย

ก่อนจะเข้ามาที่ Mail Box และโถงลิฟต์จะมีระบบ Access Control อีกชั้นนึงค่ะ โดยในห้องนี้จะมี Mail Box, iBOX, Smart Locker และ Smart Wash คืออะไรบ้างเดียวไล่อธิบายค่ะ

iBOX คือของใหม่ที่ร่วมกับทางไปรษณีย์ไทยพัฒนาขึ้นมาค่ะ สำหรับสาวนัก Shop Online ที่ไม่อยากรอรับผัสดุจากนิติวันเสาร์-อาทิตย์ เวลาแจ้งที่อยู่แม่ค้าให้แจ้งที่อยู่ตามนี้เลยจ้า (ไม่ต้องซื่อ เขียนถึงคุณสิริ ไปรษณีย์ ตามนะยะ) แล้วใส่เบอร์มือถือไปด้วย ทางไปรษณีย์เค้าจะส่งรหัสเปิดตู้มาให้ทาง SMS พอมาถึงก็ใส่รหัสเพื่อรับผัสดุได้เลยค่ะ

สำหรับ Smart Locker ก็ยังมีอยู่นะคะ แถมมี Partner มาร่วมอำนวยความสะดวกเพียบ

ในห้อง Laundry Room ก็ยังมี Smart Wash ที่เวลาซักผ้า อบผ้า ไม่ต้องมานั่งคอยวิ่งหาแลกเหรียญสิบแล้ว เพราะตัดเงินผ่าน e-wallet ได้เลย แถมมีแจ้งบน App ว่าเครื่องไหนว่างไม่ต้องแบกตระกร้าผ้าลงมาเก้อ หรือพอซัก/อบ เสร็จแล้วก็มีแจ้งบอกค่ะ

ภายในลิฟต์มี Digital Information Board ค่ะ ช่วยลดการใช่กระดาษ

จะเห็นว่าภายในลิฟต์มี Access Control 2 แบบ อันสี่เหลี่ยมคือสำหรับลูกบ้านที่มีบัตร ส่วนอันกลมๆที่เราเห็นตั้งแต่หน้า Lobby คืออันสำหรับ Guest ค่ะ ซึ่งลูกบ้านสามารถส่ง QR ให้ Guest ทีจะเข้ามาติดต่อโดยสามารถเลือกระดับชั้นการเข้ามาในโครงการได้ เช่นพ่อแม่หรือแฟนจะมาหา ก็ใช้ขึ้นมาได้ถึงหน้าห้องเลย แต่ถ้ามาส่งของ ส่งอาหาร ก็เจอกันที่ Lobby ก้พอค่ะ โดย QR ที่ส่งให้จะเป็นแบบ One Time นะคะ คือไม่สามารถ Screen Capture เก็บไว้ใช้ซ้ำได้ แถมยังตั้งเวลาได้ด้วยจะให้ใช้ได้วันไหนถึงวันไหน กี่โมงถึงกี่โมง

กดลิฟต์ขึ้นมาชั้น 38 เป็นชั้นที่ตกแต่งโถงทางเดินได้เวอร์วังมากค่ะ บนชั้นนี้จะมีทั้งห้องชุดพักอาศัย มี Sky Lounge ที่มีชื่อเก๋ๆว่า Cloud 9 Lounge และมีทางขึ้นไป Sky Garden ได้ด้วย

ใน Cloud 9 Lounge จะมีทั้งพื้นที่นั่งทำงานและพื้นที่นั่งพักผ่อน ซึ่งเดี๋ยวนี้พี่แสนเค้าออกแบบมาให้มี Function ใช้งานได้จริงแล้ว

เข้ามาถึงจะเจอส่วนที่เป็น Bar และ Stu สูง พร้อมปลั๊กและโคมไฟ สามารถนั่งทำงาน Take View แยกพระราม 9 ได้อย่างสวยงามค่ะ

มีเตรียมทั้งปลั๊กไฟและ Port USB ไว้ให้ค่ะ

มีโต๊ะแบบ 6 ที่นั่งสามารถนั่งประชุมเล็กๆกันได้ค่ะ

มีลำโพงของ BOSE ให้ด้วยนะเธอ

ขึ้นมาบน Sky Garden วิวสวยมากค่ะ เหมาะกับช่วงเทศกาลขึ้นมาดูผลุ หรือหน้าหนาว (ช่วงที่หนาว 2 วันนั้นแหละ) ขึ้นมารับลมเย็นชิวๆ

สวนจริงๆนะ ไม่ใช่สนามหญ้าเทียม 555

ลงมาดู Fitness กันบ้างค่ะ Fitness ที่นี่ขนาดใหญ่เลยค่ะ แล้วเครื่องเล่นครบออกกำลังกายกล้ามเนื้อได้ทุกส่วน ถ้าใครจะจ้าง PT (Personal Trainer) มาสอนนี้สบายเลย ไม่ต้องเสียเงินค่า Member ให้ PT มาสอนที่นี่ได้เลยอ่ะ ที่สำคัญคือวิวสวยด้วยทั้งหลางวัน กลางคืน ต่อให้มีตึกมาขึ้นข้างๆ ก็ไม่บังวิวตึก G ค่ะ

Fitness ชั้น 26 จะมีบันไดเชื่อมลงมาที่สระว่ายน้ำและสวนชั้น 25 ค่ะ อยากให้สังเกตุความหิน คือจัดเต็มมากมาตั้งแต่ด้านนอกโครงการแล้วอ่ะ

อันนี้เป็นห้องน้ำ Universal Design นะคะ คือผู้สูงอายุหรือใช้รถเข็นก็มาใช้ได้

มุมนี้เป็นมุม Jacuzzi นะคะ มีระบบน้ำนวดหลังนั่งชมวิวสวยๆค่ะ

ที่นี่เค้ามี iRobot ทำความสะอาดสระด้วยนะคะ

ไปดูห้องตัวอย่างกันบ้าง

สำหรับชั้นที่มีส่วนกลาง จะมี Access Control กั้นไว้อีกชั้นค่ะ

ห้องที่นี่ให้ Spec ดีมากกกก นอกจากห้องเพานสูง 2.7 เมตร ได้หน้าต่าง Full Height แล้ว ยังมี Home Automation และเฟอร์นิเจอร์บิ้วอินที่ให้มาแบบจัดเต็มมากๆ อย่างชุดครัวที่นี่ขนาดใหญ่มาก ได้ Top หินแกรนิต เตาเซรามิค อ่างแบบฝั่ง ตู้เก็บของชุดครัวขนาดใหญ่มาก เก็บของได้เยอะจริง แล้วมีถังขยะที่เปิดฝาเองเวลาเปิดหน้าบานตู้ใต้อ่างล้างจานให้ด้วย

แถมยังมีตู้เก็บของและตู้เก็บรองเท้าขนาดใหญ่เพิ่มมาให้อีกต่างหาก

ตู้เก็บของและตู้เก็บรองเท้าขนาดใหญ่

เปิดออกมาจะเห็นว่าเก็บของได้เยอะมาก

ยังมี Function เก๋อย่างที่ใส่ทิชชูสำหรับห้องครัวและเก้าอี้ใส่รองเท้าซ่อยอยู่ด้วยค่ะ

ห้องนั่งเล่นได้ทั้งหน้าต่าง Full Height 3 บานที่มีราวกันตก เหมือนเป็นพื้นที่ Semi Outdoor แล้วยังได้ประตูกระจกออกระเบียง ทำให้เหมือนว่าได้กระจกเป็น Bay Window เพิ่มช่องแสงให้ห้องนั่งเล่นได้อีก บริเวณระเบียงนำคอมเพรสเซอร์แอร์ขึ้นไปซ่อยไว้บนเพดาน ทำให้สามารถใช้พื้นที่บริเวณระเบียงได้เต็มที่ค่ะ

ภายในห้องนอนจะบิ้วตู้เสื้อผ้ามาให้เลย

มี Function กระจกและที่แขวนเครื่องประดับซ่อนอยู่ค่ะ

ความคิดเห็นที่มีต่อโครงการ

เป็นอีกหนึ่งโครงการที่เจ้อยากได้ไว้ในครอบครองมาก และได้ลองกู้แบงค์ดูแล้วห้องมุม 35.5 ตาราเมตรราคา 5.2x ล้านบาท แต่ว่าไม่ผ่าน T-T จึงอยากจะบอกว่าใครที่โอนไหว เจ้ก็แอบเชียร์ให้โอนนะคะ ด้วยทำเลอโศก - พระราม 9 ที่อนาคตจะกลายเป็นทำเลกลางเมือง ใจกลางย่านธุรกิจเพราะลงใต้มาก็เจอถนนอโศก ขึ้นเหนือไปเส้นรัชดาก็เจอโครงการอาคารสำนักงานกำลังก่อสร้างจำนวนมาก แถมขึ้นไปเรื่อยๆเจอห้าแยกลาดพร้าวนั้นก็ย่านธุรกิจอีก

นอกจากเส้นรัชดาแล้วยังเดินทางมาพระราม 4 ได้ง่ายซึ่งก็เป็นย่านที่มี Mega Project กำลังก่อสร้างอยู่เช่นกัน จึงจะเห็นได้ว่าทำเล อโศก - พระราม 9 นั้นทั้งใกล้ CBD อโศกในปัจจุบัน และยังอยู่ตรงกลางของทำเลที่กำลังเติบโตในอนาคตอย่างเส้นรัชดาและพระราม 4

เรื่อง Lifestyle นั้นไม่น่าเป็นห่วงเลย เพราะอยู่เยื้อง Central plaza Rama 9 แถมรอบๆยังมีทั้ง Fortune และ CP Tower ที่มีร้านอาหาร, Food Court, Supermarket เต็มไปหมด ใต้อาหารสำนักงานก็มีร้านอาหาร Cafe ร้านค้ามากมายเช่นกัน ตรงข้ามโครงการยังมีร้านอาหาร Local และร้านสะดวกซื้อ

เรื่องราคาก็อย่างที่บอกไปว่า ราคาคอนโดย่าน ศูนย์วัฒฯและห้วยขวางตอนนี้ก็ไป 150,000-160,000 กันแล้ว แต่ THE LINE ASOKE-RATCHADA นั้น Spec ดีกว่ามากกกแถมไม่ต้องห่วงเรื่อง Brand เพราะมีความรับผิดชอบในการแก้ไข Defect และปัญหาต่างๆได้ดีค่ะ

ส่วนปีหน้าไม่รู้จะเป็นไง ทั้งแนวโน้มดอกเบี้ยขึ้น ทั้งมาตราการรัฐฯ เสียวกันสันหลังวาบบบบ ยิ่งคอนโด THE LINE ASOKE RATCHADA ทำเลดีสี่แยกอโศก-พระราม 9 และ Spec ดีสุดๆ เริ่มแค่ 4.99 ล้านบาท* พร้อม Promotion ฟรีโอน ฟรีค่าส่วนกลาง 6 เดือน พลาดไปก็บอกได้เลยว่า ลองดูคอนโดตัวใหม่ๆละกันว่าราคาพอๆกัน ทำเลและ Spec ไม่ได้ดีเท่าตัวนี้นะจ๊ะ

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร 1685 ค่ะ


 
 
 

Comments


bottom of page