THE LINE Phahonyothin Park - คอนโดที่มาพร้อม Innovation เพื่อการอยู่ที่ยั่งยืน
- Sukrit Udom
- Oct 28, 2018
- 3 min read

THE LINE Phahonyothin Park นี้ เจ้ว่าแค่ 'ทำเล' 'ราคา' และ 'Brand SANSIRI' เองก็กินขาดแล้ว แต่สงสัยนางจะคันไม้คันมือ เลยจัดหนัก Innovation มาเพียบบบ โดย Concept ของโครงการจะเน้นไปที่เรื่อง Sustainability หรือ 'ความยั่งยืน' ในการพักอาศัย ใต้คำว่า 'ความยั่งยืน' เนี้ย มันแตกมาออกได้เป็นหลายแกนมากๆ
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสุขภาพของคนอยู่อาศัยเอง
เรื่องการประหยัดพลังงานให้กับโครงการซึ่งก็ย้อนกลับมาถึงค่าส่วนกลางที่ลูกบ้านต้องจ่ายนั้นแหละ
เรื่องการยืดอายุการใช้งานของสิ่งต่างๆภายในอาคาร
อีกทั้งยังช่วยปลูกฝังค่านิยมที่ดีในการรักษาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พ่อแม่สมัยใหม่จะได้สอนลูกหลานได้ ว่าในยุคที่มลภาวะเป็นพิษขนาดนี้ อย่างล่าสุดที่เจ้อ่านข่าวว่ามีงานวิจัยยืนยันแล้วว่า เกลือปรุงอาหารกว่า 90% ทั่วโลกมี ไมโครพลาสติกปนเปื้อน จะเห็นเลยว่าความไม่รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมมันกำลังมี Feedback กลับมาแล้ว ถ้าเราไม่ปลูกฝั่งค่านิยมที่ดีให้คนรุ่มใหม่ คนจะได้อยู่กันแบบหนัง Sci Fi ที่ต้องใส่หน้ากากกันการพิษเดินตามถนนเป็นแน่แท้
เอาละ! หยุดดราม่าเป็นเด็กเนริทสายวิทย์แล้วกลับที่โครงการกันต่อ
ที่นี่มีรายละเอียดดีๆเยอะมากกก ฉะนั้นเจ้จะไปเร็วในเรื่อง 'ทำเล' 'ราคา' และ 'Brand' นะคะ เพื่อที่จะได้มา Focus ที่รายละเอียดของโครงการกันค่ะ
Location
ทำเลตรงนี้ดียังไง? ก็เหมือนทุกครั้งที่เจ้พูดถึงโครงการนี้ อยู่ติด Tesco Lotus, ข้ามถนนไปเจอ Central Plaza ลาดพร้าว, ใกล้ทั้งรถไฟฟ้าสายสีเขียว (300 เมตร) และสีน้ำเงิน (700 เมตร) รอบๆมีอาหารการกินเยอะ ใกล้สวนจตุจักร ตลาดนัดจตุจักร Union Mall ใกล้แหล่งงานที่ยาวมาตั้งแต่สถานีอารีย์ยันสถานีพหลฯ24 หรือถ้าจะวิ่งไปบนสายสีน้ำเงินก็มี Mega Project อีกเพียบยาวตั้งแต่บางซื่อไปยันสีลม-สามย่านอะคะ
อยู่คอนโดก็มีเห่ออยากทำอาหารบ้าง ขี้เกียจทำบ้าง ฉะนั้นการอยู่ติด Tesco Lotus นี้เป็นอะไรที่ดีมาก นางเปิดตั้งแต่ 8 โมงเช้าถึง 4 ทุ่ม ใครตื่นเช้าก็แวะกินข้าวก่อนออกไปทำงานได้ กินผักกินหญ้าบ้างไม่ใช่กินแต่ข้าวเหนียวหมูปิ้งทุกวันแบบเจ้ 555 วันไหนอ่านข่าวเจอ อาหารปนเปื้อนสารเคมี ก็หลอนกลับมาเข้า Supermarket ซื้อผักและเนื้อ Organic ทำเอง ที่นี่ก็มีทั้ง Tesco Lotus และ Tops ถือขึ้นห้องสะดวก ยิ่งถ้าวันไหนซื้อของเยอะ ก็เข้า Tesco Lotus เลยค่ะ เข็นรถเข็นขึ้นไปถึงหน้าห้องแล้วค่อยเข็นเอากลับมาลงคืนก็ยังได้ กินเสร็จรู้สึกผิดถ้ารีบๆก็วิ่งรอบสวน 8 ไร่หน้าโครงการที่ใหญ่และสวยยังกับมีสวนสาธารณะหน้าบ้านตัวเอง หรือถ้ามีเวลาจะเล่นใหญ่ไปวิ่งสวนจตุจักรก็ใกล้ๆ แถมมีมุมให้ถ่ายรูปสวยๆลง Facebook IG อีกเพียบ ยิ่งหน้าดอกชมพูพันธุ์ทิพบาน โอ้ยสวยๆชีวิตดีค่ะ
เรื่องราคานี้ยิ่งแล้วใหญ่เพราะราคาเฉลี่ย 139,000 บาท/ตารางเมตรไม่ถือว่าแพงเลย ไม่เชื่อก็ลองลงมาดูสถานีหมอชิต หรือขึ้นไปดูสถานีพหลโยธิน 24 ดูสิว่าราคาไปขนาดไหนแล้ว 170,000 +++ ได้ป่ะ หรือจะขึ้นไปดูโครงการติดรถไฟฟ้าแถวสะพานใหม่ก็ได้ค่ะ แล้วจะรีบกลับลงมาซื้อตัวนี้แทบไม่ทัน (เรื่องราคานี้เจ้แนะนำว่าควรรีบนะคะ ห้องราคาดีๆเจ้เห็นแล้วว่ามี 11x,xxx-12x,xxx แต่ไปไวมากกก)
รายละเอียดโครงการ
ที่ดินโครงการประมาณ 2 ไร่ (เฉพาะตัวอาคาร)
เป็นอาคารพักอาศัยสูง 32 ชั้น 1 อาคาร
จำนวนห้องชุด 880 ยูนิต + ร้านค้า 1 ยูนิต
ที่จอดรถ 60% <<< ถือว่าเยอะมาก! โดยจะมีอาคารจอดรถ 16 ชั้นไม่รวมชั้นใต้ดินแยกต่างหากอีก 1 อาคาร โดยจะมีการ Lock ชั้นเลยว่าชั้นไหนเป็นของโครงการไหน
ห้องชุดมี 3 แบบ
1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 31.75 - 41.25 ตารางเมตร
2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 58.75 - 66.75 ตารางเมตร
2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ (Duplex) 79.50 - 82.25 ตารางเมตร
ส่วนกลางมีเยอะมาก เดี๋ยวไปไล่ดูพร้อมรูปและรายละเอียดกันค่ะ

อันนี้เป็นแผนภาพคราวๆของ Innovation ที่โครงการจัดมาให้ เพื่อประโยชน์โดยตรงต่อลูกบ้านเองนั้นแหละ และประโยชน์ทางอ้อมคือช่วยยืดอายุการใช้งานและช่วยประหยัดพลังงานให้กับโครงการค่ะ (ซึ่งก็ย้อนกลับมาที่ช่วยประหยัดค่าส่วนกลางของลูกบ้านเองนั้นแหละ)
ก่อนอื่นแนะนำให้ดู Video ก่อนเลยค่ะ จะเข้าใจโครงการได้ง่ายขึ้น

ถ้าสังเกตุดีๆ จะเห็นลวดลายที่ซ่อนอยู่บน Facade โครงการที่เป็นลวดลายแตกกิ่งก้านสาขาออกเหมือนต้นไม้ เพราะ Concept Design ของที่นี่ก็คือการแทนตัวคอนโดว่าเป็น Magical Tree ค่ะ

เข้ามาถึงโครงการจะเจอสวน 8 ไร่ต้อนรับก่อนเลยค่ะ ซึ่งแน่นอนว่าลูกบ้านที่ลงมาตอนเช้าจะได้รับ O2 อย่างดีจากธรรมชาติ ช่วยให้ระบบการทำงานระดับ Cell ของร่างกายทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ (การเปลี่ยนอาหารหรือสาร Hydro Carbon ให้เป็นพลังงาน โดยต้องใช้ O2 ในกระบวนการ)

จากที่ไป Survey ของจริงมาแล้วคือเป็นสวน 8 ไร่ที่น่าประทับใจมาก เพราะมีต้นไม้ใหญ่เก่าแก่จำนวนมาก ทั้งสวยและให้ร่มเงาได้จริง สนามหญ้าจริงเขียวชุ่มชื่นยังกับมีสวนสาธารณะอยู่หน้าบ้านเลยค่ะ

พื้นที่โครงการเป็นแบบนี้ โดยถนนที่เข้ามาจากถนนพหลโยธินจะเป็นถนนที่ใช่ร่วมกับ Tesco Lotus (โครงการที่เจ้อยู่ก็ใช้ถนนร่วม อยู่มา 3 ปีกว่าแล้วไม่มีปัญหาอะไรเลยนะคะ) จะเห็นได้ว่าโครงการ THE LINE Phahonyothin Park เป็นตึกตรงกลางที่ Take View สวนได้สวยที่สุด คือมองซ้าย มองขวา ก็เจอสวนค่ะ
ตัวโครงการยังมีความสนใจอีกอย่างคือเป็นวัสดุที่เรียกว่า Earth Blox บล็อคคอนกรีตรีไซเคิล ลดปริมาณการใช้ Natural grinded-stone (หินฝุ่นหรือซีเมนต์จากธรรมชาติ) ลงไปถึง 30% ซึ่ง Earth Blox เป็นวัสดุที่แสนสิริพัฒนาขึ้นมาและได้รับรางวัลชนะเลิศในการแข่งขัน Architizer A+9Award สาขาการออกแบบผลิตภัณฑ์ (Product) ประเภทหินและคอนกรีต (Stone and Concrete)

เข้ามาถึงจะเจอ Retail ก่อนทางด้านซ้ายบนค่ะ ถัดมาเป็น Laundry ตรงกลางเป็น Lift Lobby และด้านขวาสุดเป็น Lobby ค่ะ

ถ้าดูตาม Video จะเห็นเลยว่าเค้าใช้สุนัขจิ้งจอกเป็นตัวแทนของพื้นที่ชั้น 1 ซึ่งตอนตึกเสร็จจริงก็จะมี Sculpture รูปสุนัขจิ้งจอก น่ารักๆ (เหมือนที่ Mori HAUS) ตั้งต้อนรับอยู่หน้าโครงการค่ะ ตัว Lobby ออกแบบให้ดูเหมือนโพรงถ้ำ ซึ่งนอกจาก Tone สีจะดูเป็นไม้ๆเท่ๆแล้ว ยังเป็น Tone สีที่ตัดกันอย่างดีกับวิวสวน 8 ไร่หน้าอาคาร ทำให้ได้ภาพวิวที่สวยงามเวลาเดินเข้า-ออกหรือนั่งพักผ่อนบริเวณ Lobby ค่ะ
โดยพื้นจะใช้ Mixed Marble คือนำแผ่นหินอ่อนชิ้นไม่ใหญ่มากมาวางคละกันเพื่อให้เกิดลวดลายที่สวยงาม อีกทั้งยังช่วยลดการตัด Slap หินแผ่นใหญ่ที่ทำให้เหลือเศษจำนวนมากด้วยค่ะ

ขอเข้ามาที่เรื่องการออกแบบอีกนิด พอดีชอบ อิอิอิ จะเห็นว่าทางโครงการออกแบบให้มีทางเดินสวนดอกไม้กั้นระหว่างตัว Lobby และสวน 8 ไร่ พอเวลาเรา Take View ออกมาจาก Lobby จะเห็นภาพสวนดอกไม้สีสดใสตัดกันตรงขอบล่างของวิวก่อนจะถึงวิวสวนสีเขียวร่มรื่น เป็นภาพวิวที่สวยงามมากค่ะ เป็นการออกแบบ Landscape ที่ดีและละเอียดมากค่ะ

ชั้น 2 จะมี Scenic Garden เป็นสวนดอกไม้ที่ออกมาเดินเล่น Take View สวน 8 ไร่ได้สวยเป็นแนวกว้าง 180 องศาเลยค่ะ
ขึ้นมาบนชั้น 22 จะเป็นพื้นที่ส่วนกลางแบบ Double Volume เพดานสูง โดยออกแบบให้เป็นเหมือนโพรงไม้ตามลำต้นที่สัตว์ขนาดเล็กใช้อยู่อาศัยค่ะ ใน Video จึงจะเห็นการใช่กระต่ายเป็นตัวแทน

แม้แต่ Landscape ของชั้น 22 ก็ยังออกแบบให้ดูเป็นโพรงล้อไปกับ Concept Design โดยบนชั้น 22 จะมีส่วนกลางดังนี้ค่ะ

Co-Cooking Studio
เป็นห้องครัวขนาดใหญ่ให้ลูกบ้านมาสังสรรค์ทำอาหารร่วมกันได้ หรือใครเป็น Vloger จะจองไว้จัดรายการทำอาหารขึ้น Youtube ก็ได้คะแนนอุปกรณ์เด็มร้อยไปเลยค่ะ
เรื่อง Innovation และการออกแบบก็มาเต็มเหมือนเดิมค่ะ เริ่มตั้งแต่วัสดุปิดผิวชุดครัวที่เป็น Stone Veneer Cabinet คือเป็นแผ่นที่ผลิตจากใยหินมาผลิตเป็นแผ่น Veneer กรุผิวตู้ ทำให้ได้ผิวสัมผัสและความสวยงามของหิน แต่มีน้ำหนักเบาช่วยลดการใช้หินที่ทำให้เกิดมลภาวะในกระบวนการผลิต และลดการรับหนักของตู้ ทำให้ยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ Fitting ต่างๆได้
เพดานห้องมีการทำลาย Graphic เป็นลวดลายของร่มเงาใต้ร่มไม้และซ่อนนไฟ LED ช่วยสร้างบรรยากาศเหมือนกำลังทำอาหารอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ

นอกจากนี้ยังมีตู้เย็น LG รุ่น INSTAVIEW ที่ช่วยประหยัดพลังงาน เพียงเคาะ 2 ครั้งก็จะสามารถมองเห็นภายในตู้ได้ ช่วยลดพลังงานจากการเปิด-ปิดบ่อยๆ และยังออกแบบให้มี 2 Layer เพื่อลดพลังงานที่จะกระจายออกไปเมื่อเปิดตู้เย็นด้วย นอกจากจะช่วยประหยัดค่าไฟแล้ว ยังช่วยยืดอายุการใช้งานของตู้เย็นด้วยค่ะ

ถังขยะ Smart Food Recycler ที่มีระบบปั่นเศษอาหารให้กลายเป็นสารอินทรีย์เพื่อนำไปเพิ่มสารอาหารให้กับต้นไม้ได้ค่ะ มีประโยชน์มากสำหรับเด็กๆ โดยพ่อแม่สามารถสอนพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ให้กับลูกและปลูกฝังให้มีสำนึกรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมได้ด้วยค่ะ

Co-Living Space
เป็นพื้นที่พักผ่อนขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับการพักผ่อนหรือสังสรรค์ได้เต็มที่ค่ะ อีกทั้งยังมี Desk Shuffle Board ที่เป็นเหมือนเปตองบนโต๊ะ ให้สนุกสนานกันได้อีก


Co-Working Space
งานนี้ได้ทั้งสวยและ Function ค่ะ เพราะมีโต๊ะที่สามารถนั่งทำงานได้จริงเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะบริเวณริมหน้าต่างให้นั่งทำงาน Take View รับแสงธรรมดาทิศใต้ ซึ่งการทำงานกับแสงธรรมชาติเป็นของคู่กันมากค่ะ เพราะแสงแดดจะทำให้ร่างกายผลิตฮอร์โมน Serotonin ที่เป็นสารสื่อประสาท ช่วยให้อารมณ์ดี และฮอร์โมน Endorphin หรือสารแห่งความสุข ช่วยลดอาการซึมเศร้าได้ นอกจากนี้ยังมีบริเวณสำหรับนั่งประชุมแบบเล็กๆได้อีกด้วย

นอกจากนี้ยังมี Photo Studio ที่เหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่ที่มักชอบทำงานเสริมอย่าง ขายของ Online ก็สามารถมาใช้ Photo Studio เพื่อถ่ายสินค้าได้ และยังมีห้อง Workshop Room 2 ชั้นอีกด้วย

Co-Playing Space For Kid
พื้นที่สำหรับเด็กที่ออกแบบร่วมกับโรงพยาบาลสมิติเวช โดยแบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 ส่วนคือ ส่วนพัฒนาสมอง ส่วนเล่น และส่วนที่ผู้ปกครองเข้าถึงได้อย่างพื้นที่ทำการบ้านเป็นต้น พื้นห้องเป็น rubber floor ผนังกรุหนังเทียมกันกระแทก เพิ่มความปลอดภัยสำหรับเด็กค่ะ

พื้นที่นั่งพักผ่อนแบบ Outdoor ที่เปิดช่องทิศเหนือ-ใต้ ให้ลม Flow ได้ตลอดทั้งปี และพืชพรรณไม้ที่ช่วยกรองก๊าซเสียจากมนุษย์ ลดสารพิษจากวัสดุสังเคราะห์ จุลินทรีย์ เชื้อโรคบางชนิดในอากาศ
ชั้น 32 เป็น Rooftop Facility เต็มพื้นที่เลยค่ะ โดยจะเห็นจาก Video ว่าใช้นกเป็นตัวแทน ซึ่งเป็น Concept การออกแบบที่หมายถึงยอดไม้ที่เป็นที่อยู่ของรังนกค่ะ ที่มีส่วนกลางเป็น Fitness, สระว่ายน้ำ และสวนพักผ่อน


จะเห็นได้ว่าบนหลังคา Fitness จะมีแผง Solar Cell อยู่ น้าไฟมาใช้ในส่วนกลาง ท้าให้ประหยัดค่าไฟส่วนกลางมากขึ้น

ห้อง Fitness - THE STARRY GYM จะแบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 ส่วนคือด้านซ้ายสุดที่เป็นพื้นที่ Smart Technology Equipment ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามใจ เพราะเครื่องเล่นใหม่ๆมากมายให้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการออกกำลังกายให้เหมาะกับตัวเรา ไม่เป็นจะเป็น Yoga, Dance, Reax Board, Reax Light พร้อมกระจก Smart Mirror ที่ช่วยให้การออกกาลังกายของคุณสนุกกว่าเคย

พื้นที่ Exercise Machine ประกอบด้วย treadmills และจักรยานพร้อมจอส่วนตัว

พื้นที่ Weight Training


Lap Pool แบบ Twinkle Sky - Infinity Edge Pool ยาว 28 เมตร บนพื้นสระฝั่งไฟ LED ไว้เพื่อให้ตอนกลางคืนมีไฟระยิบระยับเหมือนแสงดาวใต้พื้นสระค่ะ และยังมี Jacuzzi และสระเด็กอีก 10 เมตร นอกจากนี้จะมีโถงทางเดิน เชื่อมระหว่างสระและสวนเป็น Feature Tunnel ที่ออกแบบให้เล่นกับแสงไฟเหมือนเป็นหิ่งห้อยระยิบระยับตอนกลางคืน

Vista Point เพื่อนที่ชมวิวบนสวนดาดฟ้า โดยพื้นบริเวณนี้ใช้เป็น Composite Wood ที่ผสมสารที่ช่วยให้กันน้ำและทนทาน นอกจากนี้ยังมี Natural Playground เพื่อให้เด็กได้เรียนรู้จากธรรมชาติ เพราะในวัยเด็กช่วงที่เด็กเรียนรู้จากการสัมผัสและการมอง การที่ให้เด็กได้มีพื้นที่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ เช่นกันจับใบไม้ ใบหญ้า การเดินบนพื้นหญ้า การมองเห็นสีสดใสจากดอกไม้จะช่วยเสริมพัฒนาการได้เป็นอย่างดีค่ะ

Floating Nest ให้ความรู้เหมือนนอนพักผ่อนบนรังนกบนยอดไม้
บนชั้น 32 ยังมี Solar Charger ที่เป็นปลั๊กไฟจากพลังานแสดงอาทิตย์ด้วย
Sales Gallery โครงการจะตั้งอยู่ที่ปากซอยพหลโยธิน 29 ก่อนถึงแยกรัชโยธินเล็กน้อย โดยจะมีห้องตัวอย่างให้ชม 2 แบบ คือแบบ 1 ห้องนอน 1AM-1 32.50-32.75 ตารางเมตร
อย่างที่บอกไปว่าที่นี้เน้นการออกแบบแบบ Human Centric คือเน้นผู้อยู่อาศัยเป็นศูนย์กลาง จึงเลือกสีแบบ Eco Friendly ที่ทำมีสารที่เป็นอันตรายต่อผู้พักอาศัยด้วย ห้องชุดทั้งหมดของโครงการเป็นแบบ Fully Furnished ค่ะ โดยสามารถดูหน้าตา Furniture Package ได้ที่ Sales Gallery ค่ะ


โครงการบิ้วตู้เก็บของขนาดใหญ่มาให้ด้วยค่ะ

Door Stopper แบบแม่เหล็ก ปลอดภัยต่อนิ้วเท้าของเราค่ะ 555 เพราะมันจะซ่อนตัวลงไปในพื้น เมื่อเปิดประตูแม่เหล็กจากตัวรับถึงจะดึงก้านหยุดประตูขึ้นมาค่ะ


หน้าบานชุดครัวค่ะ ภายในตู้มีสวิตซ์ไฟและหลอดไฟอยู่ด้วยค่ะ

วัสดุคุณภาพดีตามมาตราฐาน THE LINE ไม่ว่าจะเป็น Top หินแกรนิต อ่าง ก๊อก เตา และที่ดูดควันจาก MEX

ในห้องพักยังมีถังขยะแยกประเภท เพื่อให้ลูกบ้านสามารถแยกประเภทขยะตั้งแต่ภายในห้องพักอาศัย

ในห้องตัวอย่างไม่ใช่ Furniture จริงที่ได้นะคะ

ถ้าเห็นสวิตซ์ไฟแบบนี้ก็รู้ทันที่ว่าเป็น Home Automation แน่นอนค่ะ

ประตูห้องน้ำจะเป็นกระจกขุ่น เพื่อช่วยประหยัดไฟในการเข้าห้องน้ำ เช่นถ้าแค่เข้าไปล้างมือนิดหน่อย ก็ใช้แสงจากนอกห้องน้ำที่ผ่านประตูเข้ามาก็ได้ค่ะ




ชอบพื้นห้องน้ำอ่ะ เป็นกระเบื้องลายไม้ปูลาย Herringbone


หน้าต่างใช้เป็นกระจก Hard coat Low-E glass กระจกป้องกันความร้อนที่มาจากดวงอาทิตย์ เสมือนฉนวนกันความร้อน และให้ค่าในการสะท้อนความร้อนที่ต่ารวมถึงค่าในการถ่ายเทความร้อนที่ต่ำอีกด้วย


อีกหนึ่ง Innovation จาก SANSIRI คือระบบ ERV ที่จะมีตัวตรวจวัดคุณภาพอากาศ ไม่ว่าจะเป็น CO2, ความชื้นสัมพัทธ์, สารระเหยอินทรีย์ แสดงผลผ่าน Application และมีระบบ Ventilation เพื่อดึงอากาศที่ดีเข้ามาแทนที่ค่ะ ซึ่งข้อดีที่นอกจากจะเป็นประโยชน์กับคนอยู่อาศัยแล้ว ยังช่วยยืดอายุการใช้งานของสีเพราะการถ่ายเทของอากาศที่ดีจะช่วยลดความร้อนสะสมภายในห้องทำให้ช่วยลดการแตกร้าวของสีและยืดอายุการใช้งานของเฟอร์นิเจอร์ได้ค่ะ

ห้องตัวอย่างแบบ 2 ห้องนอน type 2A 58.5 - 60.5 ตารางเมตร














ความคิดเห็นที่มีต่อโครงการ
แม้ว่าทำเลห้าแยกลาดพร้าวจะมีตัวเลือกที่เปิดตัวมาในช่วงเดียวกัน แต่โครงการ THE LINE Phahonyothin Park เป็นโครงการที่ค่อนข้างครบในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง Location ที่ดีมากๆ คือคิดดูว่ามีบ้านอยู่ติด Tesco Lotus ตรงข้าม Central คือดีขนาดไหน แต่ก็ไม่วุ่นวายเพราะโครงการซ่อนตัวอยู่หลังสวนขนาด 8 ไร่ กลายเป็นพื้นที่พักอาศัยที่เงียบสงบ นอกจากนี้การพักอาศัยในพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ยังมีผลที่ดีโดยตรงต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิต
เรื่องราคาเฉลี่ยต้องพูดตรงๆว่าไม่ต่างกันมาก แต่ด้วย Brand SANSIRI ที่เป็น Brand ที่มั่นใจได้ ทั้งคุณภาพ ความรับผิดชอบ รวมถึงบริการหลังการขายที่ดีเยี่ยม เพราะ SANSIRI เค้าพยายามหา Technology และ Partner ใหม่ๆมาช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้านอยู่ตลอดเวลา
อีกจุดที่ชอบมากคือเรื่องจำนวนที่จอดรถมากถึง 60% ที่ถือว่าเยอะมากกก แม้จะเป็นอาคารจอดรถรวมของทั้ง 3 ตึกแต่ก็แยกชั้นจอดรถของแต่ละตึกกันอย่างชัดเจน อีกทั้งงานโครงสร้างที่ไม่ต้องกลัวเลย เพราะเค้าทุบโครงสร้างเก่าแล้วสร้างใหม่ๆจริง อย่างโครงการตรงพญาไทที่ล่าสุดเจ้ไปดูมา ก็ทุบจริงๆหายไปครึ่งตึกแล้ว
จริงๆแค่จุดขายแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว แต่โครงการยังพยายามสร้างที่อยู่อาศัยที่ดีโดยนำเรื่องของ Innovation ต่างๆมาใส่เพิ่มเข้าในโครงการเพื่อให้เกิดเป็นคอนโดที่ดีต่อการอยู่อาศัยอย่างแท้จริง นอกจากนี้ยังมีส่วนกลางที่ออกแบบมาเพื่อคนรุ่มใหม่อย่าง Co-Cooking และ Photo Studio ที่ช่วยสร้างโอกาสในการแสดงตัวตนและความสามารถได้อีก
สนใจโครงการสามารถลงทะเบียนรับส่วนลดสูงสุด 30,000 บาท ได้ที่
เข้าชมห้องตัวอย่างครั้งแรก 3 พ.ย. นี้
เปิดจองรอบ Online Booking ครั้งแรก 8 พ.ย. นี้
Presale ครั้งแรก 17-18 พ.ย. นี้
โทร 1685
Comments