top of page

ปล่อยเช่า ต้องอ่าน! คำแนะนำดีๆจากนักลงทุนและนักแต่งห้องตัวท็อป

  • Sukrit Udom & Birth House Studio
  • Jan 16, 2019
  • 1 min read

วันนี้เจ้จะมารู้จักเพื่อนคนนึงที่รู้จักกันมาตั้งแต่ ม.2 แต่พอรู้ตัวอีกทีเจ้ก็แก่ไปแล้ว (เอ๊ะ! อันนี้ไม่เกี่ยว 555) และนางก็กลายเป็นนักลงทุนตัวพ่อไป เรียกได้ว่าเป็นลูกค้า VIP ของ Developer เลยทีเดียวค่ะ นอกจากการลงทุนนางยังเป็นนักแต่งห้องเพื่อการปล่อยเช่าขั้นเทพ ที่ตอนนี้คิวยาวไปถึงกลางปีไปแล้ว เพราะไม่ใช่แค่ความสามารถทางด้านการตกแต่งเท่านั้น แต่ยังเป็นความเข้าใจเป็นอย่างดีในธุรกิจปล่อยเช่าจากประสบการณ์การเป็นนักลงทุนของตัวเองและเพื่อนๆเหล่านักลงทุนระดับ VIP รอบๆตัวนาง

แอบบอกนิดนึงว่า นี้ไม่ใช่แค่บทความเดียวนะคะ แต่นี้คือบทแรกของซีรีย์ Hello! I live here ที่เจ้จะพาไปตามติดดูการ Make Over ห้องชุดให้กลายห้องเช่าชั้นเลิศที่ผู้เช่าต้องรีบตะครุบแทบไม่ทันค่ะ

พอดีว่าห้องนี้ของ Birth มีช่วงว่างอยู่ไม่กี่วัน เจ้เลยขอลองไปนอนห้องนางมาด้วยคืนนึงค่ะ ฟินมากกก! เจ้จะเอารูปใส่ไว้ข้างล่างสุดนะคะ พร้อมคำบรรยายจุดเจ๋งๆที่เจ้ว่าน่าเอาไปทำตามค่ะ

'Birth' เจ้าของ Birth House Studio

จบ Graphic Design จาก Kingston University, London, UK

แกแต่งห้องมาแล้วกี่ห้องเนี่ย?

ไม่รู้วะแก ไม่เคยนับเลยอ่ะ น่าจะแบบมากกว่า 40 ห้องไปแล้วเยอะอ่ะ

แล้วแกมาทำแต่งห้องได้ไง เพราะแกทำงานของบริษัทที่บ้านด้วยใช่ป่ะ?

คือกูก็ซื้อห้องมาลงทุนปล่อยเช่าเองนี้แหละ แล้ว Agent มาเห็นก็เลยถามกูว่าจ้างใครแต่ง อยากให้ช่วยแนะนำหน่อย ก็เลยลองรับงานดู หลังจากนั้นก็ยาวเลยเมิง

เอาละ! เข้าเรื่องนะ เมิงมีคำแนะนำอะไรบ้างสำหรับการปล่อยเช่าห้องทุกวันนี้?

คือเรื่องแรกก็ต้องเข้าใจตลาดก่อนแหละ ต้องรู้ว่าเราควรปล่อยเช่าเท่าไร(เทียบราคาตลาด) แล้วต้องเอาค่าแต่งห้องมาเป็นต้นทุนรวมไปกับค่าห้องด้วย เพราะเราอยากได้ Yield เท่าไร เราก็คำนวนย้อนกลับมาได้ว่า เราควรตั้ง Budget ในการแต่งห้องเท่าไร

ยุคนี้มันไม่ได้เหมือนสมัยก่อนที่ห้องเช่ามีน้อยแต่คนอยากเช่ามีเยอะ ยิ่งตลาดบนๆแค่ First Impression ตั้งแต่เป็นรูปภาพออกมาไม่สวย ไม่ผ่าน ก็ยากแล้ว ฉะนั้นห้ามดูถูกลูกค้าเด็ดขาด

คือเวลาแต่งห้องต้องเข้าใจลูกค้าด้วย อย่างระดับที่เป็น Manager ขึ้นไป บริษัทเค้ามี Package ค่าเช่าห้องมาให้อยู่แล้ว ฉะนั้นเค้าไม่สนใจเรื่องราคาถูก แต่เลือกจากความชอบ ซึ่งคุณมีโอกาสแค่ครั้งเดียวเท่านั้นที่เค้าจะมาดูห้อง สมมติตึกนั้นมี 300 ยูนิต ฉะนั้นคุณต้องมั่นใจว่าคุนคือ Top 5 ของตึก

การที่เราเน้นทำราคาถูกๆ ก็เป็นการคัดกรองลูกค้าที่งกๆเข้ามา ทำให้มีโอกาสเกิดปัญหาเยอะในอนาคต

อยากให้เมิงแชร์ตัวอย่างเจ๋งๆว่าการแต่งห้องให้ดีมันสำหรับสำหรับการเช่ายังไง?

มีห้องนึงที่ Noble Remix เป็นห้อง Studio 43 ตร.ม. คือปล่อยเช่ามา 6 เดือนแล้วเว้ย เดือนละแค่ 23,000 เองง่ะ แต่ปล่อยเช่าไม่ได้เลยจนมาขอให้เราช่วย แล้วคือฉันก็มีห้องที่นั้น 46 ตร.ม. ที่ปล่อยเช่าได้อยู่ 35,000 บาทอ่ะ เรื่องแรกเลยคือ ลูกค้าที่มาเช่าตึกนี้ เค้าไม่ได้อยากได้ Studio ไง เค้าอยากได้ 1 Bedroom กูเลยกั้นห้องให้เค้า แล้วก็ติด Wall Paper ส่วนเฟอร์นิเจอร์ใช้ของเดิมๆเลย แล้วซื้อ Prop ตกแต่งเพิ่มนิดหน่อย ปรากฏว่าปล่อยเช่าห้องได้ก่อนห้องจะเสร็จอีก คือมี Agent มาขอดูแล้วเอาเลย ได้เดือนละ 33,000 อ่ะ

เมิงมีเทคนิคแนะนำไหม เผื่อคนคิดไม่ออกว่าจะแต่งยังไง?

ให้ดูตึกก่อนว่าเค้าแต่ง Theme ไปทางไหน แล้วแต่งห้องให้ไปในทางเดียวกัน เพราะเวลาลูกค้าเค้าสนใจเค้าดูตั้งแต่ตัวตึกมาแล้ว ฉะนั้น Mood & Tone ควรจะล้อกันไป

ใส่รายละเอียดเล็กๆน้อยๆและเป็นสิ่งที่ผู้เช่าต้องใช้ลงไป ทั้งๆที่ราคารวมกันทั้งหมดอาจจะแค่ 10,000 บาทด้วยซ้ำ ตัวอย่างเช่น ลุกค้าเดินเข้ามาแล้วเจอแต่ฝูกเปลือยๆ First Impression ก็ไม่ผ่านแล้ว แล้วอย่างคอนโดระดับ Luxury เครื่องซักผ้าควรจะเป็นแบบ Wash & Dry แล้ว ยอมจ่ายเพิ่มแค่ 5000-6000 แต่ผลลัพธ์ดีกว่าเยอะ

พยายามแต่งเป็น Unisex อย่าหวานหรือเข้มมาก จะทำให้ฐานลูกค้าแคบลง แต่ถ้าเป็นการตกแต่ง For Vocation ต้องเป็นการสร้างประสบการณ์ให้ลูกค้า Mood & Tone ก็จะชัดเจนและโดดเด่น

แล้วอย่าลืมติดต่อตาม Hello I live here ของพวกเราด้วย เพื่อได้ idea ในการแต่งห้องตั้งแต่เริ่มต้นเลย อิอิอิ เจ้ขอฝากร้านด้วยค่ะ 555!

ห้องนี้เป็นห้องแบบ 2 ห้องนอนระดับ Luxury ค่ะ ฉะนั้นการตกแต่งจะรายละเอียดที่หรูหราเยอะ อย่างทีวีเนี้ย เจ้ประทับใจมากกก คือเป็น TV จอใหญ่มากกกและเป็น 4K ดู Netflix ภาพแบบชัดเวอร์ ไม่อยากกลับห้องตัวเองเลยค่ะ

ลูกค้าที่เป็นครอบครัวฝรั่งจะชอบครัวเปิดสวยๆค่ะ

มันเป็นห้องนอนที่สวยมากกก ไม่อยากลุกจากเตียงเลย

อีกจุดนึงที่เจ้ชอบมาก คือความใส่ใจในของเล็กๆน้อยๆที่ผู้เช่าต้องใช้ ที่ Birth ใส่มาได้ครบมาก แม้แต่ Slipper, ร่ม หรือที่ลวกเส้นสปาเก็ตตี้ก็ยังมีให้ แล้วลูกค้าเข้ามาแล้วจะไม่ประทับใจได้ยังไง


 
 
 

Comments


bottom of page