top of page

Reverse Mortgage - ทางรอดตอนเกษียณ?

  • Sukrit Udom
  • Jan 23, 2019
  • 1 min read

วันก่อนเห็นพี่แสนแถลงข่าว เรื่อง Reverse Mortgage เจ้เลยอยากชวนเม้าเรื่องนี้กันสั้นๆ เบาๆ นิดนึง

Gen Y ทั้งหลายคงจะเริ่มรู้ตัวกันแล้ว ว่าอีกหน่อยตอนพวกเราเกษียณเนี่ย เราจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุกันแบบจริงจัง คือประเทศมีพวกเราเป็นคนแก่ปริมาณมหาศาล แล้วมีรุ่นลูก รุ่นหลาน ที่นั่งทำงานเสียภาษีกันเพียงน้อยนิด ฉะนั้นถ้าใครจะหวังเพิ่งประกันสังคมหรืออะไรก็ตามแต่ที่ภาครัฐจะมาจ่ายให้ เจ้แอบไม่ค่อยเห็นด้วยนะจ๊ะ เงินในคลังจะพอหรือนั้น เจ้ไม่อยากจะคิด

แล้วยิ่งบ้านเราไม่ได้ปลูกฝั่งกันมาตั้งแต่เด็กให้วางแผนเกษียณอายุ หลายคนที่เจ้คุยด้วยนี่แทบไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้เลยด้วยซ้ำ ผลที่ตามมาคือพอเกษียณจะเอาเงินที่ไหนใช้ค่ะ เกิดสุขภาพดี อายุยืนตายยาก ลำบากไปอี๊ก!

Reverse Mortgage ก็เป็นอีกทางออกนึงค่ะ มันคือการขายบ้านคืนให้แบงค์นั้นแหละ โดยแม้ว่าบ้านจะกลับไปเป็นของแบงค์ แต่เราก็ยังอยู่อาศัยได้จนกว่าจะตายค่ะ โดยแบงค์จะจ่ายค่าบ้านให้เราเป็นเงินเดือนหรือเงินก้อนตามเงื่อนไขและระยะเวลาที่กำหนด

ฟังดูดีเนอะ ... แต่คำถามต่อมาคือ ก็ถ้าสมัยนั้นวัยทำงานมีน้อย คนแก่มีเยอะ แล้วบ้านที่แบงค์รับซื้อไป จะไปขายใคร?

แบงค์นะคะ ไม่ใช่กรมสังคมสงเคราะห์ จะได้มาใจบุญแบกภาระมหาศาล สุดท้ายเค้าก็ต้องเลือกแหละคะว่าบ้านหรือคอนโดที่จะเอากลับมาเข้านั้นมีศักยภาพดีพอแค่ไหน แล้วยิ่งดูข่าวที่ญี่ปุ่นตอนนี้ที่เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุแล้ว โอ้ยเธอ! ยกบ้านให้ฟรีแถมเงินยังมีค่ะ เพราะพวกนางไม่อยากเสียภาษีบ้านแล้ว (แพงมากกกกก)

สำหรับตัวอย่างการคำนวณเงินที่จะได้จากการทำ Reverse Mortgage ลองเข้าไปอ่านใน Link ดูค่ะ

ฉะนั้น ก็ไม่ใช่ว่าจะชะล่าใจ ฉันมีบ้านหรือคอนโดแล้ว อีกหน่อยแก่ๆฉันก็ทำ Reverse Mortgage แล้วจะจบ มันย้อนกลับมาตั้งแต่ตอนเลือกซื้อบ้านและคอนโดแล้วค่ะ ว่าเธอเลือกดีแค่ไหน, ทำเลดีไหม, Developer เป็นใคร, นิติดีไหม, สภาพโครงการยังดีอยู่หรือเปล่า

แล้วส่วนตัวเจ้มั่นใจว่า ไม่ใช่มีหลังเดียวทำ Reverse Mortgage แล้วจะพอใช้ สมัยนั้นค่าครองชีพคงจะสูงมากๆ ภาษีน่าจะต้องแพงมหาโหด (เพราะปริมาณคนจ่ายภาษีน้อยลง) แล้วพอคนแก่เยอะ ก็แห่ทำ Reverse Mortgage กันรัวๆ แล้วก็เป็นไปตามกฏ Demand - Supply พอคนแห่ขายเยอะ ราคาก็ตก เย้!

ก็เหมือนที่แม่ชอบบ่นให้ฟังนั้นแหละค่ะ ลำบากตอนนี้ สบายตอนหน้า

เราต้องวางแผนการเงินกันตั้งแต่ตอนนี้ค่ะ!

อย่างของเจ้ เจ้ก็ไม่ได้โปรเรื่องการเงินมาก ยังคงล้มละลายจากการ Shopping อย่างไร้สติอยู่ทุกปี

แต่ก็พยายามทำตามที่เค้าแนะนำมาว่า

1. พยายามซื้อกองทุนทุกเดือน 15% ของรายได้

2. พยายามซื้ออสังหาฯเท่าที่เราจะซื้อไหว (อย่างน้อยก็ปล่อยเช่า ขาย หรือทำ Reverse Mortgage ได้)

3. หาทางมีรายได้ทางที่ 2-3 ไม่ว่าจะเป็นงานเสริม หรือ ดอกผลจากการลงทุนก็ตาม อย่างน้อยตกงานก็จะได้มีข้าวกิน

ทุกทางมีความเสี่ยงนะจ๊ะ เราเลยต้องทำหลายๆอย่างหน่อย เผื่อมีทางไหนพัง ก็ยังมีทางให้ไปต่อได้

ปล. ความเห็นของเจ้อาจจะผิดก็ได้นะ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้วย 5555 (ช้านเปิดไพ่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ล่ะ)


 
 
 

Comments


bottom of page