รีวิว First Class - Malaysia Airline - Business Suite NRT - KUL
- Sukrit Udom
- May 1, 2019
- 1 min read

เจ้จะมาโม้ประสบการณ์นั่ง First Class (Business Suite) ของ Malaysia Airline ไป-กลับ Bangkok (BKK) - Narita (NRT) ในราคาประมาณ 50,000 บาทกันจ้า!!! ซึ่งเจ้ถือว่าราคาถูกมากนะคะ เพราะปกตินั่ง Business ไปกลับก็จะราคาอยู่ที่ประมาณ 4x,xxx - 5x,xxx บาทแล้วค่ะ แต่อันนี้เราจะได้นั่ง First Class 1 ขาซึ่งเป็นขาที่นั่งนานที่สุด 7 ชั่วโมงด้วยค่ะ คือจาก Narita (NRT) - Kuala Lumpur (KUL) และขาอื่นจะเป็น Business Class ทั้งหมดค่ะ
สำหรับวิธีจองราคานี้จะบอกตอนท้ายนะจ๊ะ 555
ข้อดีของการนั่งแบบนี้คือ ราคาถูกมากค่ะ เป็นสายการบินอื่นนั่ง First ขาเดียวก็ราคาเกือบแสนหรือแสนกว่านู้นแนะค่ะ ขอย้ำว่าราคาขาเดียวก็แพงกว่าราคาไปกลับของแบบนี้แล้ว
ข้อเสียก็คือต้องนั่งอ้อมไป KUL ค่ะ แต่ก็ประสบการณ์ค่ะ อยากลองๆ 555 ไปดูกันว่ามันจะคุ้มค่าหรือไม่

เราเข้า Check-in ที่สนามบิน Narita ค่ะ ด้วยความที่ Business Suite ซึ่งก็คืออดีต First Class นั้นแหละค่ะ แต่ตัด Benefit บางอย่าง อย่าง First Class Lounge ออกไป มีที่นั่งเพียง 4 ที่นั่งเท่านั้น และวันที่เดินทางก็มีคนจองที่นั่งแบบนี้เพียง 3 คนเท่านั้นค่ะ เวลาไปยืนรอเค้าเปิด Check-in ก็จะว้าเหวกันหน่อย

ได้มาแต่ Boarding Pass ไม่มี Fast Track อะไรให้ค่ะ

ขึ้นมาดูบนเครื่องกันค่ะ ส่วนของ First Class จะอยู่หน้าสุด มีแค่ 4 ที่นั่งค่ะ โดยจะมีคอกกั้นและประตูปิดเพื่อความเป็นส่วนตัวค่ะ

ความเห็นส่วนตัวคือ ที่นั่งไม่ได้ใหญ่มากค่ะ แต่ที่เก็บของด้านข้างนี่ใหญ่เชียว

แต่จะได้ระยะ Leg Room ยาวมากกก เวลาปรับเป็น Flat Bed แล้วจะได้เตียงยาวมากค่ะ



ในถุงจะเป็นผ้าปูที่นอนและผ้าห่มค่ะ

มีจดหมาย Welcome ด้วย


หูฟังและ Amenity ของ AIGNER เหมือนของ Business Class แต่ต่างกันที่สี ของ Business จะเป็นสีเทาค่ะ ของ First จะเป็นสีเขียวอมฟ้า

ปุ่มควบคุมที่นั่งออกแบบมาให้ใช้ได้ทั้งตอนนั่งและตอนนอนค่ะ

สักพักแอร์จะเดินถามว่าใส่ชุดนอน Size ไหนค่ะ จากนั้นเราก็จะได้ถุงผ้าที่มีชุดนอนข้างในมาแบบนี้ค่ะ เอาเก็บกลับบ้านได้นะจ๊ะ

ขอหยุดพักมาถึงเวลากินกันบ้าง อิอิอิ





ได้ขนมปังมาทั้งตระกร้าเลยจ้าาา

ตามมาด้วย Satay ตามสไตล์ Malaysia Airline

ลองเลือก Caviar มาทานดูค่ะ ทานแล้วก็พบว่า อร่อยตรงไหนฟร่ะ!!! สงสัยเราจะคอไม่ถึง อิอิอิ

สไตล์เนื้อซอสบัลซามิค ใส่ซอสมาเยอะเกินนนน เลี่ยนจนไม่อร่อยไปเลยค่ะ

ไอศกรีม Häagen-Dazs ปิดท้ายค่ะ

กลับมาดูที่นั่งเราต่อค่ะ ช่องเก็บของเยอะมากจริงๆ แต่เอาจริงๆเจ้ว่าเยอะไปน่ะ เอาที่เก็บของมาทำ Space ที่นอนให้นอนสบายๆดีกว่า

สำหรับที่นั่งคู่กลางจะสามารถเปิดที่กั้นมาคุยกันได้ค่ะ

ข้างๆแขนจะมีช้องเก็บของทั้เปิดมามีกระจกและปลั๊กไฟค่ะ


ที่นั่งจะเป็นคอกๆ สามารถปิดประตูได้ค่ะ


หน้าจอใหญ่และชัดดีค่ะ หนังก็มีเลือกเยอะ



เวลาปรับนอนจะได้ Flat Bed แนวยาวค่ะ คือไม่มีปัญหาว่าหัวหรือเท้าจะชน แต่ปัญหาคือด้านกว้างแทน เพราะถ้านอนหงายปกติ ไหล่จะชน ขนาดเจ้ไหล่เล็กนะ

ต้องใช้วิธีนอนตะแคงเอาค่ะ
สำหรับวิธีการจองให้ได้ในราคาไม่แรง คือเริ่มจากจองตั๋ว Promotion Business Class ก่อนค่ะ แต่ก่อนเคยถูกมากถึง 26,000 บาทเลยนะ แต่รอบที่เจ้จองอยู่ที่ราคา 32,xxx บาทค่ะ ซึ่งก็ถือว่าถูกมากๆสำหรับราคาตั๋ว Business Class ไป-กลับญี่ปุ่นค่ะ จากนั้นทางสายการจะบินจะส่ง Mail มาชวนให้ลอง Bid หรือ Offer เงินเพื่อให่ได้ Upgrade ค่ะ ซึ่งเจ้เลือก Offer ราคาต่ำสุดมา 2 รอบแล้ว ก็ได้ตลอดค่ะ โดยเค้าจะส่งเมลล์มา Confirm 2 วันล่วงหน้าก่อนการเดินทางค่ะ ก็รอลุ้นกันไป โดยของเจ้ Upgrade ได้ 1 ขาจ่ายไป 17,xxx บาทค่ะ
แต่ถ้าถามว่าคุ้มไหม เจ้ว่าไม่ค่ะ นั่ง Business น่าจะคุ้มสุดละ เพราะ Service และที่นั่งของ Business ดีกว่าของ Economy มากกกกกกก แต่พอมาเป็น First แล้วรู้สึกว่าไม่ได้ต่างกันเยอะเท่าไรค่ะ แต่ราคาเนี้ย ต่างกันเยอะมากกกกก อันนี้พูดถึงเฉพาะของ Malaysia Airline นะคะ แต่ถ้าเป็น First Suite แบบของ Singapore Airline ความสะดวกสบายก็คงต่างกันเยอะมากอะคะ เพราะอันนั้นเค้ามาเป็นห้องเลย ไว้ได้ไปนั่งจะมาเล่าให้ฟังกันค่ะ
Comments