top of page

LIFE ปิ่นเกล้า - คอนโดร่มรื่น ติดรถไฟฟ้า ใกล้ Central แค่ 1.3 km.

  • Sukrit Udom
  • May 2, 2019
  • 2 min read

วันนี้เจ้อยากจะมาแชร์ประสบการณ์การใช้ชีวิตจริงในคอนโดกันค่ะ จากประสบการณ์ที่วนเวียนอยู่กับคอนโดมาเกือบจะสิบปีละ สิ่งที่เจ้ให้ความสำคัญในการเลือกคอนโดเพื่อเริ่มต้นชีวิตดีๆเนี่ย มันมีหลายปัจจัยมากค่ะ

เรื่องแรกที่สำคัญมากก็คือ การไปทำงานค่ะ เพราะในแต่ละเดือนที่มีอยู่ประมาณ 30 วันเนี้ย เราต้องไปทำงานมากถึงประมาณ 20 วันเชียวนะ หรือพูดง่ายๆว่า ประมาณ 60-70% ของชีวิตเราเนี้ย ก็จะต้องตื่นเช้าไปทำงาน เลิกงานเหนื่อยๆก็อยากกลับห้องเปิดแอร์เย็นๆดู Netflix ฉะนั้นการเดินทาง ไป-กลับ ที่ทำงานเนี้ย มันสำคัญมากนะคะ ถ้าเราสามารถทำให้มันสะดวก รวดเร็วได้ มันจะช่วยให้เรา save แรงและเวลาไปทำอย่างอื่นในชีวิตได้อีกมาก

เรื่องที่ 2 คือ ราคาและขนาดค่ะ สองเรื่องนี้มีความสัมพันธ์กัน เพราะถ้าราคาต่อตารางเมตรแพง เราก็คงซื้อห้องใหญ่ๆไม่ไหว แต่ในโครงการที่มีราคาไม่สูง ก็ควรจะมีห้อง size ใหญ่หน่อย อยู่สบายให้เลือกด้วย ยิ่ง lifestyle ของคนรุ่มใหม่ ที่ไม่ยอมหยุดนิ่ง มี Passion ในสิ่งต่างๆรอบตัว ก็ยิ่งต้องการพื้นที่เอนกประสงค์ ไม่ว่าจะเป็นการทำอาหาร ออกแบบ-ตัด-เย็บเสื้อผ้า หรือเล่นโยคะ

เรื่องที่ 3 คือ อาหารการกินและความสะดวกสบาย ต่อให้โครงการจะดีแค่ไหน ถ้าไม่สามารถหาของกินอร่อยๆได้ง่าย หรือซื้อของเข้าบ้านได้สะดวก เจ้ว่ามันก็ไม่น่าอยู่ค่ะ ต่อให้สมัยนี้เกือบทุกอย่างจะสั่ง Delivery ได้ แต่ทุกวันจะให้สั่งอาหารมากินแต่ในห้องหรอ? เราก็อยากจะออกไปเล่นเดิน สูดอากาศ เห็นสิ่งต่างๆรอบตัวบ้าง แถมค่าส่งก็ไม่ได้ถูกด้วยนะ สมมติอยากกินแค่ข้าวกระเพราไก่ไข่ดาวสักจาน แต่ต้องจ่ายค่าส่ง 50 บาทเจ้ว่าก็ไม่ไหวไหมอ่ะ

เรื่องที่ 4 ที่เรามักไม่ค่อยได้เห็นจากโครงการทั่วไป แต่จากประสบการณ์ของเจ้ มันกลับให้ความสำคัญมากๆและส่งผลกระทบต่อการอยู่อาศัยมากๆ ก็คือเรื่องของสิ่งแวดล้อมและจิตใจค่ะ เจ้มองว่าคอนโดที่มีความร่มรื่น (ขอย้ำว่าร่มรื่นจริงๆนะคะ เพราะเมืองไทยเป็นเมืองร้อนมากกกค่ะ ไม่เอาพวกมีพื้นที่สีเขียวเยอะ แต่เป็นสนามหญ้าปลอมนะคะ ไม่ได้อยู่สวิสเซอร์แลนด์ค่ะ จะได้อยากออกมานอนอาบแดดในวันฟ้าใส) ช่วยทำให้คนอยู่อาศัยรู้สึกดีได้จริงๆ ไม่ใช่แค่เฉพาะวันหยุดนะคะ แต่แค่เราเดินลงมาเจอต้นไม้เยอะๆ ลมดีๆ อารมณ์มันก็เปลี่ยนแล้วค่ะ มันทำให้ทุกวันเป็นวันดีๆได้จริงๆ ถ้ามองแบบฮวงจุ้ยก็ถือว่าเป็นทำเลที่มีหลังชี่หรือพลังด้านบวกอยู่เยอะ ถ้ามองแบบวิทยาศาสตร์ต้นไม้ก้ผลิต Oxygen ให้เราส่วนลมจากแม่น้ำจะมีประจุลบเยอะ เหมือนกับเครื่องฝอกอากาศแถมยังทำให้เราร่างกายเรานำ Oxygen ไปใช้ได้มากขึ้นค่ะ

นานๆทีเจ้จะเจอโครงการที่มีครบทั้ง 4 ข้อค่ะ ขอบอกเลยว่าเป็นอะไรที่หายากมาก เพราะ Developer มักจะไม่ค่อยยอมลงทุนกับข้อ 4 เท่าไร แล้วยิ่งเป็นโครงการที่อยู่ใกล้แม่น้ำ ได้ลมดีๆด้วยเนี่ย ก็ยิ่งมีจำกัด วันนี้เลยอยากพาไปดูโครงการ Life ปิ่นเกล้าค่ะ เป็นโครงการที่ดีครบทุกข้อจริงๆ

Location

โครงการ Life ปิ่นเกล้าตั้งอยู่บนถนนจรัญสนิทวงศ์ระหว่างซอยจรัญสนิทวงศ์ 40 กับ 40/1 ค่ะ ติดรถทางขึ้นรถไฟฟ้า MRT สถานีบางยี่ขันเลยค่ะ ตรงข้ามกับตลาดอินดี้ปิ่นเกล้า

นอกจากนี้รอบโครงการยังเต็มไปด้วยร้านอาหาร Street Food ราคาประหยัดมากมาย

จากโครงการนั่งรถไปแค่ประมาณ 1 กิโลเมตร ก็จะมีทั้ง Central Plaza ปิ่นเกล้า, Tesco Lotus, Major Cineplex ตลาดปิ่นเงิน และ ตลาดปิ่นทอง ไม่ไกลจากโรงพยาบาลศิริราช และใกล้กับสะพานข้ามสู่ฝั่งพระนครถึง 3 สะพานค่ะ และวันนี้เจ้จะพาไปเที่ยวห้องสมุดธนาคารแห่งประเทศไทยและรอบๆกันค่ะ

เริ่มจากบริเวณรอบๆ Central ปิ่นเกล้าจะเห็นเลยว่าครึกครื้นมากๆ เต็มไปด้านร้านค้าและอาหารการกินส่วน Central เองก็คงไม่ต้องพูดถึงเนอะ ว่าสะดวกสบายขนาดไหน

ถ้าจะให้เจ้พาเดินดู Central ก็จะน่าเบื่อไปไหม เจ้เลยขอพาไปดูบรรยากาศที่เจ๋งๆใกล้ๆโครงการอย่างห้องสมุดธนาคารแห่งประเทศไทยดีกว่า อยู่ใกล้กับโครงการมากแค่ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาไปเท่านั้นค่ะ ใกล้ๆกันยังไปทำบุญปล่อยปลาแล้วแวะทานอาหารอร่อยๆริมแม่น้ำได้ด้วยค่ะ

รายละเอียดโครงการ

Life ปิ่นเกล้า

คอนโด High Rise สูง 23 ชั้น

ที่ดิน 4-3-86.9 ไร่

จำนวนห้องชุด 803 ห้อง + 2 ร้านค้า

ส่วนกลางประกอบด้วย : พื้นที่สวนพักผ่อนบริเวณชั้น 1 และ ชั้น 5, พื้นที่ออกกำลังกายแบบ Outdoor และสนามเด็กเล่น, ลู่วิ่งรอบโครงการ, สระว่ายน้ำ, Fitness และ Library & Co-Working Space

แค่ยืนหน้าโครงการก็จะเห็นถึงความร่มรื่นของโครงการแล้วค่ะ

จะเห็นเลยว่าโครงการอยู่แทบจะติดกับทางขึ้นรถไฟฟ้าแล้วค่ะ

ด้านหน้าโครงการยังมี Shop อีก 2 ร้านค้าด้วยค่ะ โดยหนึ่งในนั้นจะเป็น Family Mart

สวนบริเวณด้านหน้าโครงการ เป็นทั้งลานออกกำลังกายและสนามเด็กเล่น

ลูวิ่งรอบๆโครงการ

โถง Drop Off

Lobby โครงการขนาดใหญ่มีพื้นที่นั่งพักผ่อนมากถึง 4 โซน แถมยัง Take View สวนร่มรื่นได้อีกพี่

บริเวณโถงลิฟต์ยังมีการออกแบบสไตล์ญี่ปุ่น ที่ดึงแสงธรรมชาติและพื้นที่สีเขียวเข้ามา แต่ยังคงรักษาความ Private ของลูกบ้านเอาไว้

Mail Box Room

พื้นที่นั่งพักผ่อนบนชั้น 5 บริเวณส่วนกลางข้างสระว่ายน้ำ

อีกจุดเด่นของโครงการคือวิวสะพานพระราม 8 ที่สวยงามมากค่ะ

จะเห็นได้ว่าที่นี่มีต้นหลิวปริมาณมาก ซึ่งเป็นการออกแบบที่ฉลาดมาก เพราะนอกจากจะให้ความร่มรื่นแล้ว ด้วย Location ของโครงการที่ไม่ไกลจากแม่น้ำเจ้าพระยาทำให้ได้ลมแม่น้ำอย่างดี ต้นหลิวจึงจะลู่ลมไปตามกระแสลม ทำให้เกิดภาพทิวทัศน์ที่สวยงามมากด้วยค่ะ

Pavilion ริมสระว่ายน้ำ

Fitness ของโครงการมีขนาดใหญ่ และมีปุกรณ์ครบ ออกกำลังกายได้จริงๆ

อีกหนึ่ง Facility ที่จะขาดไม่ได้เลยในสมัยนี้คือ Library & Co-Working Space ค่ะ ซึ่งที่นี่ก็ออกแบบได้ดีมาก มี Zone ให้ใช้งานได้หลายส่วนและหลาย Function

ในห้อง Changing Room ยังมีห้อง Sauna อีกด้วย

ขึ้นมาดูบนห้องตัวอย่างกันบ้างค่ะ ต้องบอกเลยว่า Spec ของที่ให้ดูดีมาก ตั้งแต่ Corridor ที่เป็นแกรนิตโต้ และรอบๆประตูทางเข้าแต่ละห้องยังมีการตกแต่งเพิ่มเติมเพื่อความสวยงามอีกด้วย

ห้องแรกเป็นแบบ 1 Bedroom Plus 35 ตารางเมตรค่ะ ซึ่งจะมีจุดเด่นเป็นห้องนั่งเล่น และ Dining Area ที่ Connect ต่อกับห้องครัวที่เปิดโล่ง ทำให้ได้ Space ขนาดใหญ่มาก และยังได้ช่องแสงธรรมชาติจากภายนอกด้วย

ครัวของที่นี่ให้ Spec ดีค่ะ Top เป็นหินสังเคราะห์ เตาเซรามิค และอ่างแบบฝั่ง มีตู้เก็บของเยอะ แถมยังได้ช่องแสงธรรมดาชาติอีกด้วย

ใต้ Sink ยังติดตั้งถังขยะมาให้ด้วยนะคะ

พื้นที่ห้องนอน Connect กับห้องเอนกประสงค์โดยในห้องตัวอย่างโครงการทำเป็นห้อง Walk-in Closet ขนาดใหญ่

ต่อมาเป็นห้องขนาด 30 ตารางเมตร ที่ได้ Function ครัวปิดค่ะ

ห้อง 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำขนาด 55.50 ตารางเมตร ได้เป็นห้อง 2 ห้องนอนห้องมุมที่มีหน้ากว้างมาก ทำให้เกือบทุกห้องมีหน้าต่างระบายอากาศและรับช่องแสงธรรมชาติได้ อีกทั้งห้องนอนที่ 1 และ ห้องนอนที่ 2 ก็มีขนาดใหญ่ทั้งคู่ด้วย

ความคิดเห็นที่มีต่อโครงการ

นานๆทีจะเจอโครงการที่มีครบทุก element แบบนี้ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเดินทาง ที่ตัวโครงการอยู่เกือบจะติดกับทางขึ้นสถานีรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน ซึ่งเป็นสายสำคัญของกรุงเทพ วิ่งผ่านย่านธุรกิจจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นสีลม สาทร พระราม 4 อโศก เพชรบุรี พระราม 9 ห้าแยกลาดพร้าว และบางซื่อ อีกทั้งรอบๆรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินยังจะมี Mega Project ใหม่ๆเกิดขึ้นเรื่อยๆอีกด้วย นั่งลงมาเพียง 1 สถานีจะเจอกับ Interchange Station เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าถึง 3 สาย เรื่องของอาหารการกินอุดมสมบูรณ์มากๆ มีทั้งร้านอาหารราคาประหยัดทั่วไปหน้าโครงการเลย ข้ามถนนไปก็มีตลาด ในโครงการก็มี Family Mart นั่งรถไปเพียง 1 กิโลเมตรนี้มีครบ ทั้งห้าง โรงหนัง ตลาด ร้านอาหาร ภายในโครงการออกแบบดีมาก ส่วนกลางมีขนาดใหญ่ หลากหลาย และใช้งานได้จริง แถมยังร่มรื่นมากๆด้วย ที่สำคัญที่สุดคือเรื่องของขนาดและราคา เพราะราคาเริ่มต้นไม่ถึงตารางเมตรละ 100,000 บาท แต่ได้คอนโด Spec ดีเกือบติดทางขึ้นรถไฟฟ้า แถมยังมีห้องขนาดใหญ่ให้เลือก อย่างห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 35 ตารางเมตร แต่ราคาเริ่มต้นเพียงแค่ 2.95 ล้านบาท* หรือตารางเมตรละ 84,xxx บาทนี้เป็นห้องที่น่าสนใจมากๆ เพราะเป็นขนาดห้องที่ใหญ่กำลังดีมากๆ แถมยังมีพื้นที่เอนกประสงค์ให้ปรับเปลี่ยนได้อีก

13-19 พ.ค.นี้ ยังมีโปรใจป้ำ

แจกไม่ยั้งมูลค่าสูงสุด 6 แสน*

ลดแรง ฟรีทุกค่าใช้จ่าย

และของแถมอีก 4 รายการ*

One Bedroom 30 ตร.ม. เริ่ม 2.75 ล้านบาท*

One Bedroom Plus 35 ตร.ม. เริ่ม 2.95 ล้านบาท*

สนใจรายละเอียดโครงการ ลงทะเบียนได้ที่ https://bit.ly/2vzI9Gt


 
 
 

Comments


bottom of page