top of page

เรื่องดอกๆ! ลดดอกเบี้ย แล้วยังไงคะ?

  • Chalit-Lertpatanakul-X-Sukrit-Udom
  • Sep 2, 2019
  • 1 min read

เรื่องดอกๆ ลดดอกเบี้ย แล้วยังไงคะ?

ข่าวจีนตบตีกับสหรัฐฯยังไม่ทันไร

ก็มีดราม่าใหม่

ปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงไปอี๊กกก!

(ลด 0.25% เหลือ 1.50%)

อันหยังหว่า ตอนต้นปียังบอกจะขึ้นอยู่เลย

นางก็ให้เหตุผลว่า

“สัญญาณเศรษฐกิจโลกเริ่มแย่ลง”

และ “ช่วยพยุงเศรษฐกิจไทย”

หลายคนคงงง! สหรัฐฯตบกะจีน

เศรษฐกิจไทยไม่ดี ทำไมเงินบาทนี่ แข็งเอาๆ

เกี่ยวไรกันฟร่ะ!

(ช่างมันค่ะ ป่ะ! ซื้อตั๋วเครื่องบิน ไปเที่ยวกันดีกว่า)

เห้ย ล้อเล่น!

วันนี้มาเม้าส์กันแบบเข้าใจง่าย

ก็สงครามการค้าทำเอาเศรษฐกิจสหรัฐฯเองก็แย่

สิ้นเดือนก.ค.ที่ผ่านมาธนาคารกลางสหรัฐฯเลยปรับลดดอกเบี้ย

เพื่อพยุงเศรษฐกิจ เป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปีเลยนะเธอ

แล้วยักษ์ใหญ่ตบกัน คนอื่นเค้ากระเทือนกันไปหมด

โดนลูกหลง เศรษฐกิจแย่กันไปด้วย

“ลดดอกเบี้ย” แล้วช่วยพยุงเศรษฐกิจยังไงค่ะ?

พอดอกเบี้ยนโยบายลดก็ส่งไปถึงดอกเบี้ยเงินกู้

ที่พวกเราเป็นหนี้กันอยู่นี้แหละ

รวมถึงพวกภาคธุรกิจที่ไปกู้เงินมาทำธุรกิจด้วย

ให้ลดตามไปด้วย คนจะได้มีปัญญาจ่ายหนี้กันต่อ

อย่างน้อยๆจ่ายดอกเบี้ยก็ยังดี ไม่เป็นหนี้สูญ

(ถ้าหนี้สูญแบงค์เจ็บหนักนะคะ

แถมส่งผลทวีคูณในทางลบต่อเศรฐกิจอีก)

พอต้นทุนลด ก็กระตุ้นให้เกิดการลงทุนเพิ่ม

พอสหรัฐฯลดดอกเบี้ย คนอื่นก็ลดตามกันเป็นแถว

(บางประเทศลดนำไปก่อนเลยจ้า

เพราะนางรู้ทันว่าสหรัฐจะลดแน่ๆ)

พยุงเศรษฐกิจกันสุดฤทธิ์

พี่จีนแม้จะยังไม่ปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย

แต่ก็พยุงเศรษฐกิจตัวเองโดยใช้ค่าเงิน

พยายามทำให้ค่าเงินหยวนอ่อนค่าลง

ปกป้องจุดแข็ง คือภาคการส่งออกของตัวเอง

สินค้าจีนจะได้ยังราคาถูกอยู่

ตั้งกำแพงภาษีมาหรอ แปลงค่าเงินแล้วของฉันถูกจ้า

No สน No Care

(ลดผลกระทบนะ)

ก่อนธนาคารกลางสหรัฐ(Fed)จะลดดอกเบี้ย

คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง)บ้านเรา

ยังไม่รีบมาม่า ปรับลดตามประเทศอื่นน่ะ

เพราะคิดว่า รีบลดไป เดี๋ยวไม่มีท่าไม้ตาย

ถ้าอนาคตมีวิกฤตหนักกว่านี้

ทำให้เงินลงทุนไหลเข้ามาไทยรัวๆ

มาพักไว้ตลาดหุ้นบ้าง ตลาดเงินบ้าง

จนข้างนอกเค้าเรียกเราว่าเป็น

Safe heaven

หรือสวรรค์ที่ปลอดภัยของเงิน

เอาไว้พักเงินเวลาเศรษฐกิจโลกปั่นป่วน

เพราะบ้านเราเศรษฐกิจมีเสถียรภาพ

ทุนสำรองเยอะ ค้าขายเกินดุล

รายได้ท่องเที่ยวดีเงินไหลเข้ามามหาศาล

นางมีความเชื่อมั่นในค่าเงินบาท

เค้ามองว่าไทยมีเสถียรภาพ

และคนไทยก็สวยมาก แบบเจ้เป็นต้น

555 มุขนะ!

เราขายสินค้าและบริการเกินดุล

มีเงินทุนสำรองมาก ภาคการเงินก็แข็งแกร่ง

ค่าเงินเลยแข็ง (เทียบกับสกุลอื่น)

เงินก็ไหลเข้ามารัวๆ

สุดท้ายแบงค์ชาติบอกไม่ไหวแล้วจ้า

เงินไหลเข้าไม่หยุด บาทก็แข็งเกิ้นนน!

ส่งออกจะแย่เอานะเธ้อ!

แถมเศรษฐกิจไทยเริ่มชะลอตัว

จากดราม่าทุกด้าน ทั้งสงครามการค้า

ภัยแล้งกระทบภาคเกษตร

นโยบายการคลังมาช้าเพราะรอจัดตั้งรัฐบาล

เรามาปรับลดดอกเบี้ย พยุงเศรษฐกิจชาติกันเถอะ

(แหม เจ้ก็นึกว่าปลายปีนี้ไปเที่ยว บาทจะแข็งขึ้นไปอีก

จะได้ไปแบบสวยและรวยมากสะหน่อย

บาทหยุดแข็งแล้ว อดเลย T-T)

แล้ว กนง. จะลดดอกเบี้ยอีกไหม?

ปรับลดรอบนี้ ก็เพียงพอให้ค่าเงินไม่แข็งเวอร์ไปอีก

ในระยะสั้นนี้จนถึงสิ้นปีนี้

ไทยเราน่าจะยังไม่ปรับดอกเบี้ยลงอีกนะจ๊ะ

ส่วนปีหน้า รอหมอดูมาฟันธง

เห้ย! ล้อเล่น 555

ถ้ายังโดนพิษเศรษฐกิจโลกมากๆ

ก็อาจมีการลดดอกเบี้ยลงอีก

แล้วมีให้ลุ้นอีกปลายปีหน้า

เลือกตั้งประธานาธิบดีอเมริกา

ทรัมป์จะได้อยู่ต่อไหม?

ถ้าอยู่ต่อ ก็อาจจะดราม่าไม่จบ ปวดหัวกันวนไปค่ะ

แต่ถ้าเศรษฐกิจสหรัฐแย่จนคนบ้านนางบอกไม่ไหว

ย้ายค่ายเบอร์เดิมมาเลือก ‘เดโมแครต’

นโยบายก็น่าจะเปลี่ยนนะ

(ทั้งนี้ทั้งนั้นแนวโน้มดอกเบี้ยก็เป็นแค่มุมมอง

คาดการณ์ของคนเขียนนะ

ถึงเวลานั้นสถานการณ์อาจเปลี่ยนแปลงไป

โปรดใช้จักรยานในการอ่าน 555)

. . .

เอาหละ มาพูดเรื่องดอกๆ (ดอกเบี้ย) ใกล้ตัวกันบ้าง

1. ฝากเงินในแบงค์ทำไงดี

ดอกเบี้ยเดิมก็น้อยเท่าหอยมด ยังจะลดอีก!

หาทางเลือกใหม่ ไปลงทุนอื่นค่ะ

เช่น โปรฝากระยะสั้นของแบงค์ต่างๆ

หรือซื้อพันธบัตรรัฐบาล สลากออมสิน ธกส.

เสี่ยงขึ้นมาอีกนิดนึงก็พวก

หุ้นกู้บริษัทเอกชน

​หรือหุ้นที่มีปันผลดี บริษัทมั่นคง​

เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่ดีขึ้น

แต่ถ้าเงินร้อน ก็ไม่ต้องพยายามค่ะ ฝากไว้อย่างงั้นแหละ

เดี๋ยวจะได้ไม่คุ้มเสีย​ เอาไปฝากระยะยาว

แล้วดันต้องถอนมาใช้ก่อน เดี๋ยวจะโดนค่าปรับค่ะ

หรือต้องไปกู้มาใช้แทน จะเพี้ยนไปกันหมด

​ปล. การลงทุนมีความเสี่ยง

ควรศึกษาก่อนการลงทุนด้วยนะจ๊ะ

2. จะกู้ซื้อคอนโด เอาดอกเบี้ย ‘คงที่’ หรือ ‘ลอยตัว’ ดี

ปีที่แล้วเจ้ก็ปากไว ใครมาปรึกษา เชียร์แหลกเลยค่ะ

“เอาแบบดอกเบี้ยคงที่ 3 ปีสิแก เดี๋ยวดอกเบี้ยจะขึ้นน่ะ”

เสียเลยค้า 555

ปีนี้กลับกัน กลัวดอกเบี้ยลดแทน

ถ้าใครยังมีเงินเหลือ จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ

ซื้อบ้าน ซื้อคอนโด วนไปค่ะ ปีนี้ราคาดีนักแล

ส่วนจะเลือกดอกคงที่ หรือ MLR-X%

ก็เลือกได้ทั้งสองแบบแหละค่ะ

เพราะการขึ้นดอกเบี้ย ดูน่าจะยากช่วง 3 ปีนี้ (คิดว่านะ)

แต่เจ้ขี้เกียจปวดหัวค่ะ เอาดอกเบี้ยคงที่นี้แหละ จบ!

3. กำลังจะกู้เงินลงทุนกิจการ

ถ้าตามทฤษฏี ดอกลด = ต้นทุนลด = คุ้มทุนง่ายขึ้น = ดี

ตื่นค่ะตื่น ทุ่งลาเวนเดอร์ร่วงหมดแล้ว​

โลกความจริงมีปัจจัยต้องดูอีกเยอะ

​ต้องดูตลาดนั้นเป็นยังไง ลูกค้ามีกำลังซื้อไหม

คู่แข่งเยอะไหม คืนทุนเร็วไหม

ลงทุนเยอะไหม เสี่ยงมากไหม​

แนวโน้มเศรษฐกิจจะเป็นยังไง

ก็มีแต่คุณนั้นแหละ ที่ตอบได้ ถ้าศึกษาข้อมูลมาดีพอ

พิจารณากันให้ถี่ถ้วนค่ะ อย่าทำอะไรเกินตัว

เผื่อเงิน Cash Flow ไว้เยอะๆคล่องๆ

ของเจ้ก็ Estimate ไปเลยว่า

ว่าถ้าจะแย่ขั้นสุด จะยังอยู่ได้อีกกี่ปี

ป่านนั้นเศรษฐกิจจะกลับมาดีหรือยัง เป็นต้น

​4. มีหนี้บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด

ถึงดอกเบี้ยจะลด แต่เธอก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรเลยจ้า

เพราะเค้าคิดดอกเบี้ยเราแบบ 5G Max Speed

หนี้ส่วนบุคคล (personal loan)

ความเสี่ยงมันสูงค่ะ​

ถ้าจำเป็นต้องใช้เงินมากจริงๆ

พวกจำนำรถ บ้าน อะไรพวกนี้ยังจะดีกว่า

เพราะดอกเบี้ยมันถูกกว่ามากค่ะ

แต่ก็ต้องแน่ใจนะคะว่าผ่อนได้

ไม่งั้นโดนยึดนะคะ

ท้ายที่สุดก็ขอเป็นกำลังใจให้ผู้อ่านมีกำลังใจทำมาหากิน

ผ่านช่วงมรสุมเศรษฐกิจที่ผันผวนกันไปให้ได้

จะทำอะไรตั้งตัวอยู่บนสติ ความไม่ประมาทและโลภนะจ๊ะ

ผู้เขียน : Chalit Lertpatanaku

เรียบเรียง : Sukrit Udom


 
 
 

Comments


bottom of page